ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ระบุ เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์กำลังเร่งตรวจสอบเลขตัวถังรถหรูที่ถูกไฟไหม้ จำนวน 6 คัน บนถนนมิตรภาพ เมืองโคราช เพื่อตรวจสอบว่าใครเป็นเจ้าของตัวจริง ไม่หวั่นกระแสข่าวมีนักการเมืองดังเข้ามาเกี่ยวข้อง
วันนี้ (16 มิ.ย.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีเพลิงไหม้รถยนต์หรู จำนวน 6 คัน ระหว่างขนส่งไปจดทะเบียนที่ จ.ศรีสะเกษ ว่าอยู่ในขั้นตอนการพิสูจน์อัตลักษณ์ของรถ เนื่องจากหลายคันถูกเพลิงไหม้ ทำให้หาเลขตัวถังไม่เจอ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กำลังหาวิธีกู้เลขเดิมอยู่ อย่างไรก็ตามหลักฐานเกี่ยวกับอัตลักษณ์เป็นเพียงหลักฐานหนึ่งที่ต้องนำมาประกอบกับพยานส่วนอื่น เพื่อนำไปสู่การหาตัวผู้กระทำผิด
ซึ่งจากการสอบปากคำ นางองุ่น จึงแสงมณี เจ้าของรถเทรลเลอร์ ได้ให้การเกี่ยวกับตัวบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกเหนือจาก นายนที ริ้วทอง หรือ “เป้แขนด้วน” ที่เป็นผู้ว่าจ้างให้ขนรถทั้งหมด ซึ่งดีเอสไอมั่นใจว่าเป็นเจ้าของตัวจริง แต่ยังไม่สามารถให้เปิดเผยได้ว่าเป็นกลุ่มบุคคลใด และเป็นเจ้าของรถทั้งหมดหรือไม่ ส่วนกรณีที่เคยมีกระแสข่าวเจ้าของตัวจริงของรถหรูเป็นเครือข่ายนักการเมืองนั้น ยืนยันดีเอสไอจะเดินหน้าสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่สนว่าเป็นรถของใคร หรืออยู่ฝ่ายไหน เพราะทำงานโดยมุ่งดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิด
นายธาริต กล่าวอีกกว่า การเตรียมตรวจสภาพรถจดประกอบ ล็อตแรก จำนวน 548 คัน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ครอบครอง หรือผู้รับมอบอำนาจได้กำหนดนัดวันตรวจสอบ ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ และจะเริ่มตรวจสอบสภาพรถจริง ในวันที่ 24 มิ.ย.นั้น ดีเอสไอวางมาตรการจัดคิวอย่างเป็นระบบคาดว่าแต่ละคันจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งดีเอสไอจะตรวจสอบและทราบผลทันทีว่ารถดังกล่าวประกอบการขึ้นจากชิ้นส่วนเป็นรถจดประกอบ หรือเป็นรถที่นำเข้ามาทั้งคัน
ซึ่งหากผลตรวจพบว่าไม่ใช่รถที่ประกอบขึ้นจากชิ้นส่วน ดีเอสไอจะยึดรถทันที และจะสอบสวนหาผู้เกี่ยวข้อง โดยจะให้สิทธิผู้ครอบครองรถในฐานะเป็นผู้เสียหาย หากไม่พบว่ามีส่วนรู้เห็นกับการกระทำผิด และแนะนำให้ผู้เสียหายฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายคืนด้วย