xs
xsm
sm
md
lg

เผยใบสั่ง “อุ้มฆ่า” เอกยุทธปมขวางทางโจรเขมือบแผ่นดิน!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจ เจ้าของเว็บไซด์ไทยอินไซเดอร์
กลายเป็นคดีสะเทือนขวัญคนไทยไปทั้งประเทศทันที กับการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ ที่ถูกคนร้าย “อุ้มฆ่า” อย่างเหี้ยมโหด ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน 2556 โดยคดีอุ้มฆ่านายเอกยุทธในครั้งนี้ ถูกเปิดเผยขึ้นภายหลังพี่สาวพร้อมญาติตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความตำรวจ สน.วังทองหลาง ในคืนวันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน และมาแจ้งกองปราบปรามอีก ในวันอาทิตยที่ 9 มิถุนายน หลังไม่สามารถติดต่อนายเอกยุทธได้อีกเลยเป็นเวลาเกือบ 2 วัน โดยระบุว่านายเอกยุทธโทรศัพท์มาถามหากุญแจเข้าบ้านพักย่านทาวน์อินทาวน์ ช่วงกลางดึกของวันที่ 6 มิถุนายน และอีกครั้งในช่วงสายวันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน ให้เลขาส่วนตัวนำเช็คเบิกเงินสดมาให้เซ็นที่ลานจอดรถรับส่งผู้โดยสนามบินสุวรรณภูมิ ช่องที่ 8 โดยมีนายสันติภาพ หรือ บอล เพ็งด้วง อายุ 25 ปี เป็นคนขับรถให้โดยไม่มีใครพบกับนายเอกยุทธแต่อย่างใด จากนั้นก็ไม่มีใครสามารถติดต่อนายเอกยุทธ ได้อีกเลย

คนสุดท้ายที่ได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายเอกยุทธ คือพนักงานธนาคารที่โทรศัพท์เข้ามาสอบถามนายเอกยุทธเกี่ยวกับการเซ็นอนุมัติจ่ายเงินจำนวน 5 ล้านบาทให้กับเลขาฯคนดังกล่าวที่ทำหน้าที่ไปเบิกเงินหลังนายเอกยุทธเซ็นเช็คให้ไปเบิกเงินมาให้ โดยนายเอกยุทธ ได้ส่งสัญญาณให้รู้ว่าตนเองตกอยู่ในอันตรายมาแล้วครั้งหนึ่งหลังจากแกล้งโทร.ไปหาพี่สาวกลางดึกว่าไม่รู้ว่ากุญแจเปิดบ้านอยู่ที่ไหน? ครั้งแรก...เอกยุทธดวงซวย เพราะพี่สาวไม่นึกถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นกับน้องชายตนเอง มาครั้งนี้ เอกยุทธส่งสัญญาณให้รู้เป็นครั้งที่ 2

ด้วยการเซ็นเช็คไม่ให้สามารถเบิกจ่ายเงินได้ตามปกติ โดยแกล้งเซ็นปี พ.ศ.ในเช็คผิดจากปี 56 เป็น 53

ครานี้เอกยุทธส่งสัญญาณไม่ผ่านเป็นครั้งที่สอง เพราะคนร้ายดักทางถูกรู้ว่าทางธนาคารต้องโทรศัพท์ติดต่อกับเอกยุทธโดยตรง จึงเอาปืนจ่อหัวเอกยุทธขณะอยู่บนรถไว้บังคับให้บอกกับทางเจ้าหน้าที่ธนาคารให้อนุมัติเบิกจ่ายเงินไปก่อนเดี๋ยวนจะกลับเข้าไปแก้ไขเช็คให้ในภายหลัง ซึ่งทางธนาคารก็หละหลวมยอมให้อนุมัติสั่งจ่ายเงินออกมาแต่โดยดีก่อนเลขาฯจะนำเงินมาให้ที่จุดเดิมในสนามบินสุวรรณภูมิ

หลังจากแจ้งความกลายเป็นข่าวครึกโครม “เอกยุทธ ถูกอุ้มหายตัวลึกลับ” จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบภาพบันทึกกล้องวงจรปิดใน จ.สุราษฎร์ธานี ที่สามารถจับภาพรถตู้ ยี่ห้อโฟล์คสวาเก้น สีดำ หมายเลขทะเบียน ฮพ 9304 กรุงเทพมหานคร ของเอกยุทธไว้ได้ขณะแล่นผ่าน

ขณะนั้นไม่มีใครคาดคิดเลยว่าเอกยุทธจะถูกสังหารโหดด้วยการอุ้มฆ่า!!!

ตำรวจพุ่งเป้าควานหาตัวเอกยุทธไปทั้งภาคใต้พื้นที่ความรับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 9 ทันที หลังเช็กประวัติ “ไอ้บอล” คนขับรถซึ่งมีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดพัทลุง “ไอ้บอล” คือกุญแจสำคัญในการไขปริศนาการหายตัวไปของเอกยุทธ

ตำรวจชุดสืบสวนนครบาลและสืบสวนภาค 9 เร่งล่าตัว “ไอ้บอล” จนแทบพลิกแผ่นดิน จนกระทั่งเที่ยงวันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน ตำรวจสามารถควบคุมตัวนายสันติภาพ หรือ “ไอ้บอล” เพ็งด้วง คนขับรถเอกยุทธไว้ได้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งย่านสมุทรสงคราม โดยการนำของ พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.ดส หรือ ชื่อเดิมว่า พ.ต.ท.ชัดชัย เลี่ยมสงวน รอง ผกก.ป.(ยศและตำแหน่งขณะนั้น) ซึ่งเคยตกเป็นผู้ต้องหาในคดีการหายตัวไปอย่างลึกลับของนายสมชาย นีละไพจิตร หรือ “ทนายสมชาย” ทนายมุสลิมที่มีข้อพิพาทกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สมัยเรืองอำนาจเป็นนายกรัฐมนตรีกรณีจับแพะผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน จนกระทั่งศาลมีคำสั่งยกฟ้อง พ.ต.ท.ชัดชัย เลี่ยมสงวน ในที่สุดสามารถกลับเข้ารับราชการตำรวจได้อีกครั้ง จนมาเปลี่ยนชื่อเป็น พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน นั่งตำแหน่ง ผกก.ดส ในรัฐบาลน้องสาว “ทักษฺณ” เป็นใหญ่อีกครั้ง

จุดเริ่มต้นของการควบคุม “ไอ้บอล” ก็พบพิรุธเสียแล้ว เพราะกองกำกับสวัดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) ที่ พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ ดูแลอยู่ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการติดตามคดีการสูญหายของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร ถือเป็นประเด็นข้อพิรุธในาคดีนี้ ข้อที่ 1

ประเด็นข้อพิรุธ ข้อที่ 2 คือช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่าได้ตัวคนขับรถและพบรถตู้โฟล์คของนายเอกยุทธแล้ว

แต่เย็นวันเดียวกัน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันยังไม่ได้มีการควบคุมตัวแต่อย่างใด อ้างว่าเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและสื่อนำเสนอไปเอง

จนกระทั่งเช้าวันที่ 11 มิ.ย. ASTVผู้จัดการรายวันได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัว “ไอ้บอล” ไว้ได้แล้ว พร้อมกับนำเสนอข่าวออกไป จน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ยอมออกมาเปิดเผยว่าสามารถควบคุมตัวคนขับรถ และรถตู้ของนายเอกยุทธไว้ได้จริง
เรื่องจึงเริ่มแดงขึ้น! ออกมาสู่สาธารณชน!!!

“แจ๊ดพยายามปิดข่าวแต่ไม่อยู่ทนต่อกระแสขุดคุ้ยของนักข่าวไม่ได้”
ยอมนำตัวนายสันติภาพ หรือ “ไอ้บอล” เพ็งด้วง คนขับรถเอกยุทธมาแถลงต่อสื่อมวลชนในเวลา 11.00 น.ทั้งๆ ที่นำตัวมาควบคุมไว้ตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วที่กองกำกับสืบสวนนครบาล

ตรงนี้เป็นอีกประเด็นให้ชวนสงสัยในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ตรงไปตรงมา เพราะนายเอกยุทธ เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของสังคมน่าจะมีการเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาให้สังคมรับรู้

จึงทำให้รู้ว่า “อดุลย์” พูดความจริง แต่ “แจ๊ด” เลือกที่จะโกหก!!!

ไม่อยากจะคิดเลยว่าหาก “ไอ้บอล” หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเหมือนอย่างทนายสมชายคดีนี้ยจะเจอศพของเอกยุทธหรือไม่

หรือว่าตำรวจกำลังคิดทำอะไรบางอย่าง??!!

วันที่ตำรวจนำ “ไอ้บอล” มาแถลงต่อสื่อมวลชนผิดแปลกจากคดีทั่วไป เพราะตำรวจเลือกที่จะให้ “ไอ้บอล” พูดเล่าเหตุการณ์ให้นักข่าวฟังมากกว่าจะนำตัวมาแถลงข่าวในฐานะผู้ต้องสงสัย

สื่อมวลชนฟังแล้วมีประเด็นชวนสงสัยในพฤติการณ์ตามคำกล่าวอ้างของคนขับสรถหลายประเด็น อาทิ ไปส่งนายเอกยุทธเข้าบ้านแต่หากุญแจไม่พบ จนเอกยุทธโทร.ไปถามพี่สาวแล้วบอกว่าอยู่หลังตู้เย็น จนสามารถเปิดประตูบ้านเข้าไปได้ และเอกยุทธใช้ให้ถอดเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดออก จากนั้นเอกยุทธก็หอบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ขึ้นรถ พร้อมกับถามว่ามีที่พักที่ไหนได้บ้าง จนแนะนำให้ไปพักบ้านพี่สาวย่านลาดกระบัง และอีกหลายๆ ประเด็นที่ขัดแย้งกับความเป็นจริงในสภาพนักธุรกิจรวยพันล้านอย่างเอกยุทธ

“แยกส่งนายที่บายพาสเส้นปราณฯ - ประจวบฯ โดยได้ยินนายคุยโทรศัพท์กับปลายทาง ว่า “จะมารับกูได้หรือยังกูจะไปพม่า” ก่อนจะมีรถเก๋งสีดำมาสจอดต่อท้ายรถสองคันจนมองไม่เห็นแผ่นป้ายทะเบียน”

พยายามเบี่ยงเบนประเด็นว่าเอกยุทธหายตัวไปพม่าโดยไม่บอกกล่าวญาติสักคน

ทีแรกฟังแล้วทำให้คิดตามได้เลยว่า “เอกยุทธอุ้มตัวเองสร้างกระแส”
ไม่ทันไรเที่ยงวันเดียวกัน “กูเกิลเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดประเด็นพูดเป็นคนแรกว่าเอกยุทธน่าจะถูกฆ่าตายแล้วโดยคนรถประสงค์ต่อทรัพย์
“ไอ้บอล” ถูกตำรวจนำตัวไปสอบเค้นอย่างหนักจนมันยอมเปิดปากรับสารภาพในช่วงเย็นวันที่ 11 มิถุนายน ว่ามันเป็นคนลงมือฆ่าชิงทรัพย์เงิน 5 ล้านบาทของเอกยุทธ

คนร้ายยังไม่ทันรับสารภาพแต่ “เหลิม” รู้ก่อนประหนึ่งว่ารู้เห็นพฤติการณ์คนร้ายมาอย่างท่องแท้เหมือนกับว่าบทละครที่มีการเขียนกำกับการแสดงไว้ก่อนแล้ว

จนกระทั่งเช้าวันที่ 12 มิถุนายน นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความเอกยุทธออกมาให้สัมภาษณ์ไม่เชื่อคำให้การของผู้ต้องหาที่อ้างว่าฆ่าชิงทรัพย์ ล่าสุดเป็นที่ชัดเจนว่าคดีนี้มีเงื่อนงำไม่ใช่การฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ตามคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหาแน่นอน หลังตำรวจได้สอบเค้นนายสันติภาพอย่างหนักเกี่ยวกับขั้นตอนการสังหารโหดครั้งนี้ โดยคำให้การที่เชื่อมโยงทำให้เชื่อได้ว่ามีผู้บงการอยู่เบื้องหลังเป็นผู้มีอำนาจทางการเมืองที่มีปัญหากับนายเอกยุทธมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมานายเอกยุทธออกมาเปิดโปงจนเป็นประเด็นที่อื้อฉาว โดยการสังหารนายเอกยุทธครั้งนี้มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนมาก่อนล่วงหน้ามานานแล้ว โดยนายสันติภาพแทรกซึมตัวเข้ามาทำงานกับนายเอกยุทธเมื่อประมาณ 7 เดือนก่อนหลังจากที่เอกยุทธไปมีเรื่องที่ คาราโอเกะซิตี้ ย่านเลียบทางด่วน เอกยุทธสงสารจึงรับเข้ามาเป็นคนยขับรถโดยไม่รู้ว่านายสันติภาพรู้จักกับทีมสังหารของนายทหารระดับ “เสธ.คนหนึ่ง” ซึ่งกว้างขวางย่านถนนรัชดาภิเษก

นายสุวัตร ชี้ว่าคำให้การของนายสันติภาพที่ให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ในคืนวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมาได้พานายเอกยุทธมาทานอาหารที่ร้านอาหารกระแต ย่านสะพานควาย แล้วนายสันติภาพได้ขับรถออกไปนอกร้าน โดยอ้างว่าจะไปหาอาหารรับประทานเอง เนื่องจากอาหารในร้านไม่ถูกปากนั้น ตนได้ตั้งข้อสังเกตว่า จุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของแผนที่ทีมสังหารวางแผนลงมือก่อเหตุ ด้วยการให้นายสันติภาพขับรถตู้โฟล์คออกไปรับทีมสังหารลูกน้องของ เสธ.คนดัง ประมาณ 3-4 คน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นทหาร และ ตชด.ขึ้นมาหลบซ่อนตัวอยู่บนรถระหว่างรอนายเอกยุทธที่จะเดินทางกลับบ้านในเวลาประมาณ 22.00-23.00 น.ที่บริเวณหน้าร้านอาหารกระแต

โดยเมื่อนายเอกยุทธขึ้นรถมา นายสันติภาพก็ปิดประตูรถทันที จากนั้นทีมสังหารพร้อมอาวุธครบมือก็เข้าล็อกตัวนายเอกยุทธ ก่อนจะขับรถออกจากร้านอาหารกระแตมุ่งหน้าไปที่บ้านพักย่านทาวน์อินทาวน์ในเวลาต่อมา เพื่อไปเก็บหลักฐานข้อมูลเครื่องบันทึกกล้องวงจรปิดทั้งหมด โดยขั้นตอนนี้นายเอกยุทธได้พยายามส่งสัญญาณถึงพี่สาวให้รู้แล้วว่าตนตกอยู่ในอันตรายด้วยการโทรศัพท์ไปถามหากุญแจ ซึ่งพี่สาวนายเอกยุทธไม่เข้าใจ จึงต่อว่ากลับไปว่านายเอกยุทธรู้อยู่แล้วจะโทร.มาถามทำไมก่อนวางหูไป

นายสุวัตร กล่าวด้วยว่าจนกระทั่งเวลา 03.00 น.นายสันติภาพพร้อมทีมสังหารได้ขับรถพานายเอกยุทธไปกักตัวไว้ที่บ้านพี่สาวย่านลาดกระบัง ก่อนจะนำตัวนายเอกยุทธออกมาในวันศุกร์ที่ 7 มิ.ย.เพื่อจะนำตัวไปถอนเช็คเงินสดจำนวน 5 ล้านบาท ซึ่งในครั้งนี้นายเอกยุทธได้ส่งสัญญาณให้รู้อีกครั้งว่าตนตกอยู่ในอันตรายโดยถูกบังคับให้เขียนเช็คเบิกเงินสด นายเอกยุทธได้ลงปี พ.ศ.ผิดเป็นปี 53 เพื่อต้องการให้ทางธนาคารติดต่อกลับ ซึ่งก็ได้ผล ธนาคารติดต่อกลับมาทางโทรศัพท์ แต่นายเอกยุทธถูกบังคับให้บอกอนุญาตให้ถอนเงินมาได้เดี๋ยวจะเข้าไปแก้ไขให้ในภายหลัง ซึ่งทางธนาคารก็ตอบตกลงยอมให้ถอนเงินสดออกมาได้

นายสุวัตร เปิดเผยว่านายสันติภาพให้การกับตำรวจว่า ได้กักตัวนายเอกยุทธไว้จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น.วันที่ 7 มิ.ย.ขณะขับรถแล่นผ่านมาบนถนนลาดพร้าว ขณะที่รถจอดติดอยู่ นายเอกยุทธได้วิ่งหนีลงมาจากรถทั้งๆ ที่ถูกจับใส่กุญแจมืออยู่ ทีมสังหารได้ตามลงไปจับตัวขึ้นมาบนรถได้ พร้อมกับใช้เชือกรัดคอจนเสียชีวิตในที่สุด ก่อนที่ทีมสังหารจะนำศพของนายเอกยุทธมาฝังอำพรางคดีที่จังหวัดพัทลุง

“อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าคดีนี้มีการจ้างวานฆ่านายเอกยุทธอย่างแน่นอน เนื่องจากพ่อของนายสันติภาพ ยอมรับว่าได้รับการว่างจ้างเป็นเงินสด 2 ล้านบาท ซึ่งได้ติดต่อขอคืนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ใครเชื่อก็บ้าแล้วว่าคนอย่างนายสันติภาพจะเอาสติปัญญาที่ไหนมาไตร่ตรองฆ่าเอกยุทธได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนเช่นนี้ นี่คือการจัดฉากฆ่า ผมถามว่าสันติภาพมันจะทำคนเดียวได้อย่างไรตัวเอกยุทธไม่ใช่เล็กนะครับแถมเขายังพกปืนตลอดเวลาอีกต่างหาก เอกยุทธเป็นคนบู๊ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าถึงตัวเขาได้ง่ายๆ ไม่มีทางเลยถ้าไม่ถูกทีมงานมืออาชีพเล่นงาน ตอนนี้ตำรวจกำลังพยายามเบี่ยงเบนประเด็นและรีบปิดคดีเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ สันติภาพทำตัวเกลือเป็นหนอนให้กับทีมอุ้มฆ่า โดยเอากุญแจให้เพื่อแลกกับเงิน เนื่องจากนายสันติภาพติดการพนัน และถูกนายเอกยุทธจับได้ว่ายักยอกเงิน 1 ล้านกว่าบาท” นายสุวัตร ระบุ

นอกจากนี้นายสุวัตรยังกล่าวด้วยว่า นายสันติภาพ มีประวัติอาชญากรโชกโชน ต้องไล่บี้กว่าจะยอมรับ และการที่มาเป็นคนขับรถ ก็มีการวางแผนเป็นอย่างดี พบประวัติเคยเป็นลูกน้อง เสธ.คนดัง เอี่ยวคดีอุ้มฆ่า ก่อนมาแฝงตัวถึง 7 เดือน ไม่เชื่อว่าเป็นการลงมือเพื่อชิงทรัพย์ เพราะเอาตัวไปก่อนแล้วมาเอาเงินทีหลัง รวมทั้งยืนยันว่า ไม่ใช่ประเด็นเรื่องแฟนนายสันติภาพ โดยเชื่อว่า มีการวางแผนเอาชีวิตมาตั้งแต่ต้น เรื่องเงินเป็นของแถม หรือเบี่ยงเบนประเด็นมากกว่า

"การค้นหาว่าใครเป็นผู้บงการ เชื่อว่าคงไม่เหนือบ่ากว่าแรง เบื้องต้นมีข้อมูลทีมบงการเป็นคนใหญ่คนโต ที่อยากให้นายเอกยุทธตายเพราะการวางแผนฆ่านายเอกยุทธครั้งนี้ เป็นการกระจายงานออกไปทำหลายสาย แต่เชื่อว่า ไม่เกี่ยวข้องกับตำรวจในกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพราะสามารถให้ตัวเองเข้าร่วมสอบปากคำได้ ส่วนที่ จ.พัทลุง เป็นแค่ปลายทางในการอำพรางศพ และพ่อของนายสันติภาพ ก็เป็นทหาร น่าจะมีส่วนร่วมวางแผนด้วย และครั้งนี้ทำงานกันเป็นทีมใหญ่ ส่วนสาเหตุการสังหารนายเอกยุทธน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองอย่างแน่นอน” นายสุวัตร ย้ำเสียงเข้ม

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าเอกยุทธมีข้อมูลเด็ดเตรียมแฉนักการเมือง-ขรก.เลี่ยงภาษี-ฟอกเงิน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นชนวนในการถูกสั่งเก็บ?

“เอกยุทธ” ปูดสื่อเมืองผู้ดีเตรียมแฉ “นักการเมือง-ขรก.” ของไทย ที่นำเงินโกงชาติเข้าไปตั้ง “ออฟชอร์” หวังหลบเลี่ยงภาษีและฟอกเงิน ส่อถูกยึดแน่ เพราะรวยแบบไร้ที่มา “เสร็จพวกฝรั่ง” แน่ ชี้ “หน่วยปราบโกงของไทย” ไม่จริงใจจะปราบพวกโกงชาติจริงๆ มัวแต่พล่ามให้หาใบเสร็จ

ข้อความดังกล่าวเป็นพาดหัวข่าวและโปรยข่าวที่เขาเอามาโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ก่อนที่จะชวนคนตามเข้าไปอ่านรายละเอียด ผู้สันทัดกรณีเชื่อว่านี้เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่นายเอกยุทธอาจจะถูกใบสั่งอุ้มฆ่ากลายเป็นตำนานนักต่อสู้ที่ชีพวาย...

ทิ้งไว้เพียงชื่อ “เอกยุทธ อัญชันบุตร” เจ้าของตำนาน ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ อันลือลั่น!

นายสุทธิพงษ์ หรือ “ไอ้เบิ้ม” พิมพิสาร ผู้ต้องหาคนสุดท้ายที่ถูกซัดทอดอยู่ว่าเป็นคนลงมือใช้เชือกรองเท้าฆ่ารัดคอเอกยุทธ ซึ่งล่าสุดได้เข้ามอบตัวกับตำรวจแล้วจะเป็นกุญแจสำคัญในการอุ้มฆ่า “เอกยุทธ” ในครั้งนี้ว่าเป็น “ใบสั่งการเมือง” หรือ “ฆ่าชิงทรัพย์”

"ไอ้เบิ้ม" ซัดกลับ"ไอ้บอล"เป็นคนลงมือบีบคอเอกยุทธตายก่อนจะใช้ให้ตนเองเอาเชือกรองเท้ารัดคอซ้ำ!

มิหนำซ้ำ! "เหลิม" หน้าดำยังออกมาแก้เผ็ดทีมทนายเอกยุทธและฝ่ายที่ตั้งขอสังเกตว่าเอกยุทธถูกอุ้มฆ่าจากใบสั่งการเมือง ด้วยการให้ ตำรวจเชิญ "หมอพรทิพย์ -ทนายสุวัตร- อภิสิทธิ์ - กรณ์" เข้าให้ปากคำในฐานะมีความเห็ฯขัดแย้งพนักงานสอบสวนที่ลงความเห็นว่าเป็ฯคดีฆ่าชิงทรัพย์ธรรมดา

ปิดฉากละครลิเกโรงใหญ่ "ปาหี่แหกตาคนดู" แบบไม่เนียน!

ทิ้งไว้เพียงปริศนา?!.ให้สังคมขบคิดกับการปิดคดีแบบกำปั้นทุบดินของ “รัฐตำรวจ” ที่ถือการอุ้มฆ่าปรปักษ์เป็นเรื่องธรรมดา นับเวลาถอยหลังรัฐบาลไว้ได้เลย!!!

หลับให้สบายเถอะ..."เอกยุทธ อัญชันบุตร"

สอนของพ่อ สถิตในดวงใจ/รายงาน
นายสันติภาพ หรือ“ไอ้บอล” เพ็งด้วง อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาร่วมกับพวก ก่อคดีฆ่านายเอกยุทธจนเสียชีวิต

กำลังโหลดความคิดเห็น