xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอส่งสำนวนการสืบสวนให้ ป.ป.ท.ฟันเจ้าหน้าที่รัฐทำบัตร ปชช.ปลอมแก๊งยานรก

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
“ธาริต” ส่งสำนวนการสืบสวนกรณีการสวมสิทธิ์ทำบัตร ปชช.ให้นักค้ายาเสพติด 3 ราย ต่อให้ ป.ป.ท.ฟันเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันกระทำความผิด

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีการสวมตัวทำบัตรประจำตัวประชาชนของนักค้ายาเสพติดจำนวน 3 ราย ว่า ตามที่ดีเอสไอ ได้มีการจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการสืบสวนสอบสวนการทุจริตทะเบียนราษฎรและบัตรประจำตัวประชาชน” เนื่องจากเห็นว่าการทุจริตเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎรและสวมตัวทำบัตรประจำตัวประชาชนที่เกิดขึ้นในสำนักทะเบียนต่างๆทั่วประเทศ เป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศ โดยให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ สำนักคดีความมั่นคงนั้น จากการดำเนินการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอ พบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสวมตัวทำบัตรประชาชนให้กับนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ 3 ราย คือ

1.นายองจง แซ่หลู่ หรือ นายภาณุ ปาบือ นักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ที่ถูกทาง ป.ป.ส. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมเมื่อเดือนตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา พบว่า มีการสวมตัวทำบัตรประจำตัวประชาชนในชื่อของนายถาวร สมจิตร จริง 2.นายสมชัย รักยอดยิ่ง ผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ ๕๒/๒๕๕๕ (กรณีการทุจริตในการเบิกจ่ายยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของสารซูโดอีเฟดรีนของโรงพยาบาลรัฐและการจำหน่ายยาดังกล่าวโดยมิชอบของโรงพยาบาลเอกชนเพื่อนำไปสกัดเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด) 3.จากการสืบสวนของดีเอสไอพบว่าการสวมตัวทำบัตรประชาชนในชื่อนายปรเมศร์ มัจฉานุวงศ์ นายสมชาย เจตจำนงหมาย นายสมชาย ศรีเมือง และ นายรุจน์ รัตนเมือง ซึ่งเป็นนักค้ายาเสพติดรายสำคัญทางภาคเหนือนั้น โดยชื่อของบุคคลทั้ง 4 ราย เป็นบุคคลคนเดียวกัน

ทั้งนี้จากการสอบสวนดังกล่าวทำให้ทราบว่าการสวมตัวทำบัตรประจำตัวประชาชน มีกลุ่มนายหน้าที่เกี่ยวข้องกับขบวนการสวมตัวทำบัตรประจำตัวประชาชนอย่างน้อย 2 กลุ่ม และมีความเกี่ยวพันไปยังสำนักทะเบียนต่างๆ อีกหลายแห่ง ทางดีเอสไอจะได้ทำการสืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มขบวนการเหล่านี้ต่อไป ซึ่งดีเอสไอได้ส่งสำนวนการสืบสวนที่มีเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงของหลายอำเภอในช่วงเกิดเหตุเข้าไปเกี่ยวข้อง อาทิ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี และ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ซึ่งดีเอสไอได้ส่งสำนวนการสืบสวนสอบสวนให้กับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ กระทรวงยุติธรรม (ป.ป.ท.) รับไปดำเนินการต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น