ก.ทรัพย์ฯ ร่วมกับตำรวจบก.น.3 บุกค้นบ้านย่านคลองสามวา ตะลึงพบสิงโตเผือกถึง 14 ตัว และสัตว์ป่านำเข้าจากต่างประเทศอีกเพียบ ขณะที่เจ้าของอ้างสัตว์ป่าทั้งหมดนำเข้าจากแอฟริกาใต้ มีใบอนุญาตนำเข้าถูกต้อง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อยึดไว้ตรวจสอบ ขณะเดียวกันยังพบมีสัตว์ป่าคุ้มครอง 4 ชนิด จึงดำเนินคดี 3 ข้อหา
วันนี้ (10 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00น. บก.น.3 ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) นำโดยนายศักดา นพสิทธิ์ เลขานุการ รมว.ทส. พล.ต.ต.ขจรศักดิ์ ปานสาคร ผบก.น.3 พ.ต.อ.เอก เอกศาสตร์ รอง ผบก.น.3บก.น.3 พ.ต.อ.สมโภชน์ ทัศนา ผกก.สน.นิมิตรใหม่ พ.ต.ท.ทวีป โพธิ์แก้ว รอง ผกก.สส.บก.น.3 และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ บก.น.3 นำหมายค้นศาลจังหวัดมีนบุรี เลขที่ 534/2556 ลงวันที่ 7 มิ.ย. บุกค้นบ้านเลข108 ซ.หทัยราษฎร์ 39 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กทม.
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า บ้านเลขที่ดังกล่าวเป็นแหล่งลักลอบค้าสัตว์ป่าพบเลี้ยงสัตว์ป่าหายาก และมีการลักลอบส่งขายทั้งใน-นอกประเทศโดยจากการตรวจค้นพบเป็นบ้านในพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ มีการสร้างกรงขังสัตว์เป็นจำนวนมาก มีเสียงสัตว์ส่งเสียงร้องดังลั่น เจ้าหน้าที่พบนายรุ่งโรจน์ วัฒนะพงศ์สวัสดิ์ อายุ 34 ปี ตรวจสอบเบื้องต้นพบ สิงโตเผือก( panther leo)14 ตัว ชะมดต่างประเทศ 4 ตัว แมวดาว1ตัว นกเงือก2ตัว นางอาย1ตัว เมียร์แคท 23 ตัว ชูการ์ไกรเดอร์ 1,000ตัว ลิงบาบูซิน 6 ตัว นกยุง12 ตัว เต่าชูกาตาร์ 13 ตัว มิงค์ 6 ตัว หมูแคระ 4 ตัว ลิงมาโมแสส 17 ตัว นกคูแคน 1 ตัว นกเอี้ยงจีน 6 ตัว นกสีขาว 9 ตัว และซากสัตว์สต๊าฟจำนวนหนึ่ง
จากการสอบสวนนายรุ่งโรจน์ ให้การว่า พวกตนมีหน้าที่คอยเฝ้า ทำความสะอาดและให้อาหารสัตว์ป่าดังกล่าว โดทราบว่าสัตว์ดังกล่าวมีการนำเข้าจากต่างประเทศ แถบแอฟริกาใต้ โดยนำมาเลี้ยงเอาไว้เพื่อขยายพันธ์ โดยมีนายมนตรี บุญพรหมอ่อน อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/1386 ซ.หทัยราษฎร์ 39 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กทม.เป็นเจ้าของ
ต่อมานายมนตรีได้เดินทางมาที่บ้านหลังดังกล่าว พร้อมนำเอกสารมาชี้แจง โดยอ้างว่าเป็นเอกสารการขออนุญาตนำเข้า และเอกสารการซื้อขาย โดยกล่าวว่า สัตว์ดังกล่าวตนได้ขออนุญาตนำเข้าแล้ว โดยส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศแอฟริกาใต้ เช่นสิงโต ซึ่งมีทั้งหมด 22 ตัว เป็นของตน 6 ตัว ส่วนที่เหลือเป็นของสวนสัตว์มิตรภาพ ซู ซึ่งรู้จักและนำมาฝากเลี้ยงไว้กับตน แต่ที่เหลืออยู่ที่นี่ 14 เพราะว่าเจ้าของเอากลับคืนไปแล้ว ซึ่งราคาที่ซื้อเข้ามาก็ตกตัวละประมาณ 200,000 บาท ส่วนสัตว์ชนิดอื่น ตนได้นำเข้ามาเลี้ยงเพาะพันธ์ และขาย ยืนยันว่ามีใบอนุญาตซื้อขายและนำเข้าอย่างถูกต้อง นำเข้าตรงจากประเทศแอฟริกาใต้เลยโดยไม่ต้องผ่านประเทศที่3 ทั้งนี้ สัตว์ป่าที่ตนนำเข้ามาต่างก็ได้รับการอนุญาตจากไซเตรส เพราะเป็นสัตว์ที่เข้าข่ายในจำพวกไซเตรส 2 ซึ่งสิงโตก็อยู่ในข่ายนั้น เป็นสัตว์ที่สามารถนำเข้ามาได้ หากประเทศนั้นๆ มีอนุสัญญาระหว่างกัน
พ.ต.อ.เอก กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้เป็นการร่วมมือระหว่าง บก.น.3 และ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช หลังจากได้รับการร้องเรียนว่ามีคนนำมูลสัตว์ไปทิ้งและส่งกลิ่นเหม็นเน่า จึงให้เฝ้าติดตามและพบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีคนเข้าออก ผิดปกติ และได้ยินเสียงสัตว์ป่าคำราม จึงให้สายลับเฝ้าจับตาดูก็จนมั่นใจว่าต้องมีสัตว์ป่าอยู่จำนวนมาก จากนั้นได้ทำการขอหมายค้นและเข้าตรวจสอบก็พบว่ามีสัตว์ป่าทั้งในต่างประเทศจำนวนมาก โดยจำนวนนี้มีที่เข้าข่ายความผิดพรบ.สัตว์ป่าคุ้มครองสัตว์ป่า อยู่ 4 ชนิดคือ แมวดาว นกเงือก ชะมดเช็ด และนางอาย จึงต้องมีการดำเนินคดีกับนายมนตรีอย่างแน่นอน ส่วนสัตว์ป่าอื่นที่นำเข้าจากต่างประเทศซึ่งนายมนตรีอ้างว่ามีการขออนุญาตอย่างถูกต้องแล้วนั้น ยังไงก็ต้องมีการตรวจสอบก่อนว่ามีการนำเข้ามาอย่างไรมีการอำพรางหรือไม่ เนื่องจากมักจะมีการอำพรางโดยได้รับอนุญาตให้นำเข้ามาเพื่อทำการศึกษา แต่กลับแอบผสมพันธ์และจำหน่าย ส่วนที่อ้างว่าได้รับอนุญาตจากไซเตรส เพราะสัตว์ทั้งหมดเข้าข่ายไซเตรส 2 สามารถนำเข้าได้นั้น เดี๋ยวต้องไปตรวจสอบเพราะไซเตรสจะมีการปรับเปลี่ยนทุก 4 ปี อย่างไรก็ตามนายมนตรีเคยถูกจับกุมในข้อหาค้าสัตว์ป่าคุ้มครองมาแล้ว เมื่อ 4 ปืที่แล้ว ในท้องที่ สน.ศาลาแดง ถูกศาลลงโทษจำคุก 1 ปี รอลงอาญา
ทางด้านนายศักดา กล่าวว่า การนำเข้าสัตว์ป่าระหว่างประเทศตามกฎไซเตรส 2 ต้องได้รับอนุญาตจากโดยตรงจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช ซึ่งข้อเท็จจริงเรื่องนี้นั้น ต้องรอการจรวจสอบเอกสารให้แล้วเสร็จก่อน แต่สัตว์ทั้งหมดต้องยึดเอาไว้ อย่างไรก็ตามหากได้รับอนุญาตจริงก็ต้องมาดูกันว่าการนำเข้ามีข้อแม้ว่าต้องไม่นำเข้ามาเพื่อการค้า ทั้งนี้ ต้องรอการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน ทั้งสัตว์สัตว์ทั้งหมดที่ยึดไว้ หากเจ้าของมีเอกสารที่ถูกต้องและนำมาแสดงในภายหลังก็สามารถนำกลับไปได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ แจ้งข้อหานายมนตรี และนายรุ่งโรจน์ 3 ข้อหา 1.ร่วมกันครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ร่วมกันค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ3.ร่วมกันซ่อนเร้นหรือรับซื้อสัตว์ป่าและซากสัตว์ จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.นิมิตรใหม่ เจ้าของท้องที่ดำเนินคดี ส่วนสัตว์ที่ถูกยึด ทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ นำไปอนุบาลที่จ.ราชบุรี และบางส่วนไปที่ศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์บางพระ จ.ชลบุรี