ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่รัฐยอมรับปราบปรามนางอาย หรือลิงลมในซอยบางลายากลำบาก ทำกันเป็นขบวนการ และมีอิทธิพล ล่าสุด เมื่อคืนจับได้เพิ่มอีก 1 ตัว ทุกหน่วยประสานเสียงไม่มีส่วยนางอายในซอยบางลา
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (8 มี.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายเกษม สุวารี ผู้อำนวยการทรัพยาการธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต นายอวัช นิติกุล หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจกะทู้ และนายชัยรัตน์ สุขบาล รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง จ.ภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวการนำนางอาย หรือลิงลมมาหาประโยชน์จากนักท่องเที่ยวที่บริเวณซอยบางลา หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งสร้างความเดือดร้อน และรำคาญให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
นายเกษม สุวารี ผู้อำนวยการทรัพยาการธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ภูเก็ต ได้ประสานกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของเทศบาลเมืองป่าตอง และ สภ.กะทู้ ในการดำเนินการปราบปรามไม่ให้นำสัตว์ป่ามาหาประโยชน์จากนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งได้มีการจัดตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นมาดำเนินการจับกุม โดยการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ในเขตพื้นที่สำนักบริหารที่ 5 นครศรีธรรมราช ซึ่งที่ผ่านมา ได้ดำเนินการจับกุมกวาดล้างมาโดยตลอด โดยมี นายอวัช นิติกุล หัวหน้าเขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์ป่าเขาพระแทว เป็นหัวหน้าชุด
นายอวัช นิติกุล หัวหน้าเขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์ป่าเขาพระแทว กล่าวว่า การนำนางอายมาหาประโยชน์จากนักท่องเที่ยวด้วยการให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพที่ซอยบาลาเริ่มมาเมื่อประมาณกลางปี 2555 ซึ่งได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก มีการร้องเรียนเข้ามาทั้งในพื้นที่ และส่วนกลาง ทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ และผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ดำเนินการจับกุมดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ซึ่งที่ผ่านมา ได้จับกุมดำเนินคดีมีสัตว์ป่าสงวนไว้ในครอบครอง ไปแล้วทั้งหมด 17 คดี จำนวน 17 ตัว โดยมีโทษจำคุก 4 ปี หรือปรับ 40,000 บาท โดยนางลมทั้งหมดได้นำไปอนุบาลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าพังงา จ.พังงา
นายอวัช กล่าวเพิ่มว่า การจับกุมนางอายในซอยบางลาเป็นไปด้วยความลำบาก เพราะทำกันเป็นขบวนการ และเป็นกลุ่มอิทธิพล มีการวางสายข่าวไว้พร้อมหมด เมื่อใดที่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ซอยบางลา สายข่าวที่อยู่ปากซอยบางลาก็จะโทร.แจ้งกันทั้งหมด และหลบไปยังจุดต่างๆ ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบว่าจุดพักนางอายที่ป่าตองอยู่บริเวณใด ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะจับกุมได้ และในการลงพื้นที่จับกุมแต่ละครั้งเจ้าหน้าที่ก็จะถูกข่มขู่ด้วย
โดยขณะนี้ นางอายที่ให้บริการถ่ายรูปแก่นักท่องเที่ยวมีอยู่ประมาณ 8 ตัว ชะนี 2 ตัว และอีกัวน่า อีกจำนวนหนึ่ง จะให้บริการอยู่บริเวณกลางซอย และกรณีที่มีการระบุว่าเจ้าหน้าที่เข้าไปเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการนั้น เรื่องนี้หน่วยงานของกรมอุทยานฯ ไม่ทราบรายละเอียด และไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ขณะที่นายชัยรัตน์ สุขบาล รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวว่า เทศบาลเมืองป่าตองเองก็ได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากเหมือนกันเรื่องที่มีผู้ประกอบการนำนางอายมาให้บริการถ่ายรูปที่ซอยบางลา ซึ่งเรื่องนี้ ทางนายกเทศมนตรีเมืองป่าตองได้สั่งการให้จับกุมอย่างเข้มงวด เพราะเรื่องดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ต ที่นักท่องเที่ยวบางกลุ่มไม่ชอบกับการนำนางอายมาหาประโยชน์ โดยเฉพาะกลุ่มสแกนดิเนเวีย มีความอ่อนไหวกับเรื่องนี้มาก ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไม่อยากมาเที่ยวป่าตอง
จากปัญหาที่เกิดขึ้น ทางเทศบาลเมืองป่าตองได้จัดทีมเทศกิจ และประสานกับ สภ.กะทู้ ในการกวดขันจับกุม แต่ก็ไม่สามารถที่จะจับกุมให้หมดไปได้ ทั้งนี้ เนื่องจากการนำนางอายมาถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวมีรายได้ค่อนข้างดี ครั้งละ 200-300 บาท ทำให้คนกลุ่มนี้กล้าที่จะเสี่ยงแม้ว่าจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมก็ตาม และเมื่อถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีก็จะเปลี่ยนคนอื่นๆ มาดำเนินการแทนเพื่อไม่ให้ต้องโทษจำคุก รวมทั้งขบวนการที่ทำกันอยู่ในขณะนี้เป็นคนจากนอกจังหวัดภูเก็ตนำนางอายจากจังหวัดระนอง และนครศรีธรรมราชเข้ามา
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า มีเจ้าหน้าที่เข้าไปรับส่วยทำให้การจับกุมดังกล่าวไม่หมดนั้น นายชัยรัตน์ กล่าวว่า ในส่วนของชุดเทศกิจของเทศบาลป่าตองไม่เข้าไปเกี่ยวข้องร้อยเปอร์เซ็นต์
พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรกะทู้ กล่าวว่า ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้สั่งการให้ทางตำรวจกะทู้ดำเนินการจับกุมผู้ประกอบการนำนางอายมาถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมาจับกุมนางอายได้เพิ่มอีก 1 ตัว
