ศุลกากรจับหนุ่มคู่หูชาวอิหร่าน กลืนยาไอซ์ 1 กก. ลงในท้อง เพื่อขนเข้ามาในประเทศไทย สารภาพรับจ้างจากแก๊งอิหร่านในพัทยา หากสำเร็จจะได้เงิน 6-9 หมื่นบาท เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหา และคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่สำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายราฆพ ศรีศุภอรรถ รองอธิบดีด้านปราบปราม นายไพศาล ชื่นจิตร ผอ.สำนักสืบสวนและปราบปราม นายอวยชัย กุลทิพย์มนตรี ผอ.สำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายธาดา ชุมไชโย ผอ.ส่วนสืบสวนปราบปราม 3 นายธนิต วัฒน์ธนนันท์ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 1 พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนปราบปราม ศุลกากรประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่สำนักตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายอาลี ดัสบาซา (MR.ALI DASTBARSAR) อายุ 23 ปี และนายเอซาน บาบัค (MR.EHSAN BABAK) อายุ 24 ปี 2 ผู้ต้องหาสัญชาติอิหร่าน พร้อมของกลางยาไอซ์ถูกอัดเป็นก้อนวงรีห่อหุ้มด้วยพลาสติก จำนวน 139 ก้อน น้ำหนักรวม 1 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 3.5 ล้านบาท
นายราฆพ ศรีศุภอรรถ รองอธิบดีด้านปราบปราม เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทางศุลกากรได้ติดตามแก๊งค้ายาเสพติดชาวอิหร่านในพัทยามาระยะหนึ่ง จนกระทั่งทราบว่า แก๊งดังกล่าวจะใช้วิธีการเข้ามาตีสนิทนักท่องเที่ยวชาวอิหร่าน พร้อมกับดูแลเป็นอย่างดีขณะท่องเที่ยวในพัทยา จากนั้น จะชักชวนให้ขนยาเสพติด และทราบว่าช่วงนี้จะมีการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามา จึงเฝ้าระวัง จนกระทั่งได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่สำนักตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบนายอาลี ดัสบาซา และนายเอซาน บาบัค อายุ 24 ปี ลักษณะตรงกับที่สายลับแจ้งกำลังเดินผ่านช่องเขียว หรือช่องไม่มีของต้องสำแดง บนอาคารผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 2 จึงนำตัวมาสอบสวน ก่อนนำตัวไปเอกซเรย์ก็พบวัตถุต้องสงสัยในช่องท้องเป็นจำนวนมาก จึงได้ให้ทั้ง 2 คนถ่ายท้องออกมา แล้วจึงนำไปทดสอบด้วยน้ำยาตรวจสารเสพติด พบว่า เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์
จากการสอบสวนนายบาบัค ให้การว่า เดินทางมาจากเมืองเตหะราน ประเทศอิหร่าน โดยสายการบินมาฮานแอร์ เที่ยวบินที่ W5051 โดยก่อนหน้านี้ได้รู้จักกับแก๊งยาเสพติดชาวอิหร่านที่พัทยา หลังจากเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยเมื่อช่วงต้นปี จากนั้นก็ถูกชักชวนให้ขนยาเสพติดจากอิหร่านมายังประเทศไทย หากขนสำเร็จจะได้ค่าจ้าง 60,000-90,000 บาท จึงได้ชักชวนนายอาลี ซึ่งเป็นเพื่อนกันให้มาขนยาเสพติดด้วย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย และนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน ปส. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทางศุลกากรได้แจ้งเตือนว่า มีผู้หญิงไทยราว 50 คน ถูกจับกุม และคุมขังอยู่ในประเทศบราซิล เนื่องจากลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศ จึงฝากเตือนไปยังหญิงสาวชาวไทยไม่ควรตกเป็นเหยื่อของชาวต่างชาติผิวสี ที่มักจะหลอกให้เดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศ