ตร.สน.บางเขน พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาในคดีอาชญากรรม 3 คดี ปล่นทรัพย์ ยาเสพติด พยายามฆ่า เบื่องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ทั้ง 3 ราย
วันนี้ (21 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.สมศักดิ์ โปสัยะคุปต์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.เสน่ห์ มณีฉาย พ.ต.ต.พงศ์สุรวัฒน์ วงษ์สารัมย์ สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาในคดีอาชญากรรม 3 คดี
โดยคดีแรกจับกุมแก๊งวัดมะลิ ตระเวนปล้นทรัพย์ คือ นายมานพ หรือ เบนซ์ บุญส่งกุศลจิต อายุ 22 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 867/2556 ลง 20 พ.ค.2556 ในข้อหาปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีเหลือง-ดำ ทะเบียน วมม 689 กทม.จำนวน 1 คัน โทรศํพท์มือถือยี่ห้อไอโฟนรุ่น 4เอส สีดำ จำนวน 1 เครื่อง สามารถจับกุมได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 511/730 หมู่บ้านจรัญวิลล่า 3 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ
พล.ต.ต.สุธีร์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 พ.ค.56 เวลาประมาณ 23.55 น.ที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ได้มีผู้ต้องหา 4 คน ใช้รถ จยย.2 คัน นั่งซ้อนกันมาคันละ 2 คน ขับขี่รถ จยย.ประกบผู้เสียหายคือ นายธนเดช สมัครธัญญกิจ อายุ 17 ปี นักเรียนช่างฝีมือทหาร แล้วคนซ้อนท้ายลงมาใช้อาวุธมีดจี้บังคับเอาโทรศัพท์มือถือไอโฟน รุ่น 4เอส สีดำของผู้เสียหายไปแล้วหลบหนี ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทำการสืบสวนจนทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้วรวบรวมพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับนายมานพ หรือ เบนซ์ ได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ดังกล่าว หลังจากตระเวนออกก่อเหตุซ้ำ ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนทราบว่า แก๊งดังกล่าวมีผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด 4 คน ชื่อแก๊งวัดมะลิ ย่านฝั่งธนบุรี จะตระเวนก่อเหตุปล้นทรัพย์ในพื้นที่ฝั่งธนบุรีเป็นหลัก ก่อนจะข้ามฝั่งมาตามเส้นทางสะพานพระราม 7 เข้ามาก่อเหตุย่านฝั่งชานเมืองได้เพียง 2 ครั้งในคืนเดียวกัน เมื่อวันที่ 9 พ.ค.อีกรายได้ทำการปล้นทรัพย์ผู้เสียหายที่บริเวณริมถนนแยกพงษ์เพชร ถนนงามวงศ์วาน เขตพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง ได้โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง รุ่นกาแล็คซี่วาย จำนวน 1 เครื่อง พร้อมเงินสดจำนวน 3,000 บาท
จากการสอบสวนนายมานพ หรือ เบนซ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนได้ร่วมปล้นทรัพย์มาเพียง 3 ครั้ง พร้อมพวกอีก 3 คน ส่วนเพื่อนในแก๊งได้ก่อเหตุย่านฝั่งธนฯ มาเกือบ 40 ครั้ง โดยจะเลือกเหยื่อที่เป็นผู้ชายเดินคุยโทรศัพท์ริมถนนเปลี่ยวๆ จะคอยสังเกตดูโทรศัพท์ที่เครื่องใหญ่สมาร์ทโฟน จำพวกไอโฟน ซัมซุง จะก่อเหตุคืนหนึ่งประมาณสองราย โดยอาทิตย์นึงจะได้มาประมาณ 5 เครื่อง จากนั้นนำไปขายที่ตลาดคลองหลอดได้เครื่องละ 7,000 บาท แล้วนำเงินมาแบ่งกันใช้กินเที่ยวเล่นตามโต๊ะสนุกเกอร์ นอกจากนี้เพื่อนร่วมแก๊งที่ยังจับกุมตัวไม่ได้ชื่อนายธราวิชย์ สินธุรงค์ อายุ 19 ปี นายตือ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง อายุ 19 ปี และเยาวชนอีก 1 คน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับเพื่อนร่วมแก๊งอีกสามรายต่อไป
คดีที่สองเป็นการจับกุมตัวนายปฏิภาณ กำเนิดกาญจน์ อายุ 17 ปี พร้อมของกลางยาบ้า2,000 เม็ด จยย.1 คัน ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดงดำ หมายเลขทะเบียน ขคจ 934 ฉะเชิงเทรา โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย จำนวน 1 เครื่อง สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.วันที่ 20 พ.ค.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ตั้งจุดตรวจที่บริเวณทางเข้าอาคารชุดไวท์ สยาม ข้างร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ซ.พหลโยธิน 52 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. พบผู้ต้องหาขี่ จยย.ดังกล่าว มีลักษณะท่าทางพิรุธ จึงขอทำการตรวจค้น พบยาบ้าจำนวน 2,000 เม็ด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกขนาดเล็กสีน้ำเงิน จำนวน 10 ถุงๆ ละ 200 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในถุงกระดาษหูหิ้วสีดำ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนได้รับการว่าจ้างให้ส่งยาบ้าดังกล่าวจากนายบอล (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) อายุประมาณ 20 ปี พักอยู่ย่าน ซ.พหลโยธิน 48 ได้รับค่าจ้างครั้งละประมาณ 1,000 บาท และเคยทำมาแล้วหลายครั้ง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
ส่วนคดีสุดท้ายเป็นการจับกุมคดีค้างเก่าพยายามฆ่าผู้อื่น ตามหมายจับศาลอาญาที่ 70/2549 ลง 9 ม.ค.2549 โดยกล่าวหาว่าพยายามฆ่าผู้อื่น คือ นายสังวาลย์ เนียมปูน อายุ 52 ปี หลังเมื่อวันที่ 5 ม.ค.2549 เคยก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับนายประสพชัย แพงชาลี อายุ 40 ปี และได้ใช้อาวุธมีดฟันศีรษะนายประสพชัย เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 2172/44-47 ซ.พหลโยธิน 34/2 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.แล้วหลบหนีไปกบดานอยู่ที่ อ.คง จ.นครราชสีมา เป็นเวลา 6 ปี ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน ได้สืบสวนและจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้านเลขที่ 72/3 ม.9 ต.โนนเต็ง อ.คง จ.นครราชสีมา และนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
