ผบช.ภ.1 ตรวจเยี่ยมโครงการฝากลูกไว้กับตำรวจ ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เผยเยาวชนมีพฤติกรรมก้าวร้าวเกิดจากปัญหาสังคม เตรียมขับเคลื่อนโครงการนี้เพื่อเยียวยาอีกทางหนึ่ง ด้านผู้ปกครองระบุภายหลังตำรวจรับเป็นพ่อบุญธรรม ส่งผลให้หลานชายมีพฤติกรรมดีขึ้น ลดความก้าวร้าวรุนแรง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (19 พ.ค.) พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธัชชัย หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วย พ.ต.ต.นพดล ช่างเรือน สว.สส.สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้เดินทางไปยังห้องพักเลขที่ 1739/241 อาคารเลิศทองคอนโด ชั้น 3 ม.6 ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อตรวจเยี่ยมเยาวชนชายที่ผู้ปกครองนำเข้าโครงการฝากลูกไว้กับตำรวจ
เมื่อเดินทางมายังห้องพักดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบกับ นางบุญเรือน ศิลาทอง อายุ 57 ปี ผู้เช่าห้องพักดังกล่าว พร้อมด้วย ด.ช.วรยศ หรือน้องปลื้ม นิโคธานนท์ อายุ 14 ปี หรือปลื้ม นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนหาดอมราอักษรลักษณ์วิทยา ได้กล่าวทักทายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยท่าทางยิ้มแย้ม โดย ด.ช.วรยศ หรือปลื้ม ได้สวมกอด พ.ต.ต.นพดล ช่างเรือน สว.สส. อย่างดีใจ ในฐานะที่ พ.ต.ต.นพดล เป็นผู้ปกครอง หรือพ่อบุญธรรม ตามโครงการดังกล่าว โดยมีสื่อมวลชนหลายสำนักไปร่วมทำข่าว
นางบุญเรือน กล่าวว่า น้องปลื้มเป็นหลานชาย โดยเป็นลูกของลูกสาว ที่หลังจากคลอดได้เพียง 6 เดือนก็ทิ้งไว้ให้ตนเลี้ยง ก่อนไปแต่งงานกับชายคนใหม่ และไม่เคยให้ความสนใจ หรือกลับมาเหลียวเเล โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา น้องปลื้มก็จะได้ตน และน้าชาย คอยส่งเสียเลี้ยงดู ยอมรับว่าชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างขัดสน ตอนเด็กหลานชายไม่มีนิสัยเป็นเด็กก้าวร้าวแต่อย่างใด จนกระทั่งเป็นวัยรุ่น เรียนระดับมัธยมก็เริ่มติดเพื่อนและมีเรื่องราวชกต่อยตีรันฟันแทงบ่อยครั้ง
“เมื่อทางตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ เปิดโครงการนี้ขึ้นมาจึงตัดสินใจส่งหลานชาย มาอยู่ในความดูแลอุปการะของ พ.ต.ต.นพดล ช่างเรือน สว.สส. ซึ่งสารวัตร ก็ให้ความดูแลช่วยในเรื่องค่าใช้จ่าย ทุนการศึกษา ค่าเทอม ตลอดจนมาดูแลชีวิตความเป็นอยู่ในแต่ละวัน ระหว่างนี้ยอมรับว่าหลานชายมีพฤติกรรมดีขึ้น ไม่เป็นเด็กก้าวร้าว เชื่อฟังคำพูดของผู้ใหญ่ เนื่องจากรู้สึกอบอุ่นที่ได้รับการดูแล และยังมอง พ.ต.ต.นพดล เป็นต้นแบบ ห่างไกลจากปัญหาความรุนแรง” นางบุญเรือนเปิดเผย
พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 กล่าวว่า โครงการฝากลูกไว้กับตำรวจ เป็นโครงการที่ต่อยอดมาจากเหตุการณ์นักเรียนนักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้ง และทางผู้ปกครองไม่สามารถกำราบพฤติกรรมของบุตรหลานให้อ่อนเบาลงได้ จากนั้นจึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าดูแลพฤติกรรมของกลุ่มเยาวชนเหล่านั้นอย่างใกล้ชิดด้วยความสมัครใจ จากการตรวจสอบพบว่า เยาวชนเหล่านี้ไมได้ต้องการแสดงออกในพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรง แต่ส่วนใหญ่มาจากสภาพแวดล้อม อาจจะมาจากครอบครัวที่มีปัญหา หรือกลุ่มเพื่อนชักจูงไปในทางที่ผิด ซึ่งตำรวจที่เข้ามาดูแลนั้นก็จะเข้ามาในฐานะเป็น พ่อบุญธรรม คอยดูแลในทุกด้าน อย่างน้องปลื้มนั้น ก็ถือว่าอยู่ในฐานะลูกบุญธรรมของ พ.ต.ต.นพดล ช่างเรือน เช่นกัน
“โครงการนี้ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด มีพ่อแม่ผู้ปกครองในพื้นที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ยินยอมสมัครใจส่งบุตรหลานเข้ามาอยู่ในการดูแลของตำรวจ จำนวน 140 ราย และอีกกว่า 250 ราย ในท้องที่อื่นภายใต้สังกัดของกองบังคับการตำรวจภูธรสมุทรปราการ โดยเชื่อมั่นว่า กลุ่มเยาวชนที่มีพฤติกรรมเสี่ยง หรืออยู่กลุ่มเสี่ยงต่อพฤติกรรมก้าวร้าว รุนแรง เมื่อเข้าโครงการนี้จะทำให้พฤติกรรมเหล่านั้นลดลง และเป็นคนดีของสังคมต่อไป” ผบช.ภ.1 กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเข้าเยี่ยมครอบครัวของน้องปลื้มแล้ว ทาง พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 พร้อมคณะทำงานได้เดินทางไปยังโบสถ์ใหญ่ วัดชัยมงคล ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อพูดคุยกับบรรดาผู้ปกครองที่นำพาบุตรหลานเข้าโครงการดังกล่าว ร่วมกว่า 1,000 คน ภายในโบสถ์ดังกล่าว โดยจะตอบข้อซักถาม ร่วมทำกิจกรรมและรับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น