คนร้ายโรคจิตก่อเหตุโยนอิฐตัวหนอนลงมาจากสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ชี้เคยเกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว ที่แยกศาลาแดง และพระราม 9 ตร.เร่งแกะรอยจากภาพกล้องวงจรปิด คาดพนักงานส่งเอกสารโรคจิต ขับ จยย.ตระเวนก่อเหตุด้วยความคึกคะนอง!
จากกรณีคนร้ายมีอาการทางจิต ขี่รถ จยย.โยนอิฐตัวหนอน น้ำหนัก 2 กก.ยาวประมาณครึ่งฟุต หนาประมาณ 2 นิ้ว ลงมาจากบนสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน (สะพานสาทร) แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กทม.และถูกหลังคารถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ภฮ 2675 กทม.ของนายอาวุธ วรถาวรวิวัฒน์ อายุ 56 ปี ที่กำลังขับผ่านอยู่ข้างล่างสะพานดังกล่าวสภาพยุบเสียหาย นอกจากนี้ยังเคยมีกรณีลักษณะคล้ายกันบริเวณแยกศาลาแดง และแยกพระราม 9 ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (7 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง ผบก.น.8 เดินทางไปตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.ธงชัย บุญสมบัติ ผกก.สน.สำเหร่ พ.ต.ท.ภัสพงษ์ บุตรไทย รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สายชล ปัญจชัย สว.สส. ร.ต.อ.อาภากร แก้วจรัส รอง สว.สส.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สำเหร่ จากการตรวจสอบถนนกรุงธนบุรี (ขาเข้า) ห่างจากสะพานสาธรประมาณ 150 เมตร พบอิฐตัวหนอนที่รอบต้นไม้ข้างถนนได้ถูกงัดหายไป ซึ่งตรงกับอิฐที่ตกลงไปถูกรถกระบะคันดังกล่าว
พล.ต.ต.รัษฎากร กล่าวว่า ภายหลังจากเกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สำเหร่ ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงของถนนทั้งสองฝั่ง ด้านเขตธนบุรี และข้ามไปเขตพระนคร พร้อมตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณก่อนทางขึ้นสะพานสาทร ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะหยิบก้อนอิฐตัวหนอน ที่สร้างล้อมต้นไม้ริมถนนไว้ ก่อนที่จะหยิบขึ้นไปบนสะพานและโยนลงมาถูกรถกระบะของผู้เสียหาย เบื้องต้นมีพยานแจ้งลักษณะของคนร้าย เป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีดำ เสื้อสีเข้ม แต่งกายคล้ายกับพนักงานส่งเอกสาร ขี่รถ จยย.ไม่ทราบสี ยี่ห้อและเลขทะเบียนโดยหลังจากก่อเหตุแล้วได้หลบหนีไปทางแยกสุรศักดิ์ ก่อนจะหลบหนีหายไป
พล.ต.ต.รัษฎากร กล่าวต่อว่า สาเหตุตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องปัญหาส่วนตัว ที่ผู้เสียหายขณะขับรถผ่านมาอาจเกิดทะเลาะกับคนร้าย ก่อนขับรถ จยย.มาดักรอบริเวณบนสะพาน โดยประเด็นตอนนี้มุ่งไปที่เรื่องความคึกคะนองมากกว่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำของผู้เสียหายแล้วคาดว่าน่าจะเป็นประเด็นดังกล่าว โดยการกระทำคนร้ายถือว่ามีความผิดในข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ หลังจากนี้จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานและนำกล้องวงจรปิดโดยรอบมาตรวจสอบเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
ต่อมา พ.ต.อ.วิศาล พันธุ์มณี รอง ผบก.น.8 เดินทางมาที่ สน.สำเหร่ เพื่อประชุมความคืบหน้าคดีดังกล่าว โดยมี พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช ผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.อ.ธงชัย บุญสมบัติ ผกก.สน.สำเหร่ พ.ต.ท.ภัสพงษ์ บุตรไทย รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สายชล ปัญจชัย สว.สส.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน โดยใช้เวลาประมาณกว่า 1 ชั่วโมง
พ.ต.อ.วิศาล กล่าวว่า ในที่ประชุมตนได้แบ่งงานให้ฝ่ายสืบสวน บก.8 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สำเหร่ ลงพื้นที่หาหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วคนร้ายสามารถใช้เส้นทางได้ถึง 4 เส้นทาง ก่อนที่จะมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ตลอด 4 เส้นทางนั้นมีกล้องวงจรปิดรวมทั้งหมด 17 ตัว โดยสั่งการให้ชุดทำงานนำกล้องวงจรปิดทั้งมาตรวจสอบ และสามารถจับภาพคนร้ายได้หรือไม่ ซึ่งคดีนี้ภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่จะสามารถติดตามตัวคนร้ายรายนี้ได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่และสอบถามพยานแวดล้อม ทราบเบื้องต้นว่าคนร้ายเป็นชาย สวมหมวกกันน็อก และใส่เสื้อแขนยาวสีทึบเท่านั้น ส่วนรถ จยย.ดังกล่าวไม่มีใครเห็นว่าเป็นยี่ห้ออะไร เชื่อว่าคนร้ายรายนี้น่าจะเป็นรายเดียวกันกับเหตุที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ในพื้นที่ สน.ดินแดง และ สน.ทุ่งมหาเมฆ สำหรับมูลเหตุแผนการประทุษกรรมของคนร้ายรายนี้น่าจะมีอาการทางจิต หรือความคึกคะนอง ส่วนเรื่องมีปัญหาส่วนตัวกับผู้เสียหายนั้นได้ให้ประเด็นน้อยที่สุด
จากกรณีคนร้ายมีอาการทางจิต ขี่รถ จยย.โยนอิฐตัวหนอน น้ำหนัก 2 กก.ยาวประมาณครึ่งฟุต หนาประมาณ 2 นิ้ว ลงมาจากบนสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน (สะพานสาทร) แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กทม.และถูกหลังคารถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ภฮ 2675 กทม.ของนายอาวุธ วรถาวรวิวัฒน์ อายุ 56 ปี ที่กำลังขับผ่านอยู่ข้างล่างสะพานดังกล่าวสภาพยุบเสียหาย นอกจากนี้ยังเคยมีกรณีลักษณะคล้ายกันบริเวณแยกศาลาแดง และแยกพระราม 9 ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (7 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง ผบก.น.8 เดินทางไปตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.ธงชัย บุญสมบัติ ผกก.สน.สำเหร่ พ.ต.ท.ภัสพงษ์ บุตรไทย รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สายชล ปัญจชัย สว.สส. ร.ต.อ.อาภากร แก้วจรัส รอง สว.สส.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สำเหร่ จากการตรวจสอบถนนกรุงธนบุรี (ขาเข้า) ห่างจากสะพานสาธรประมาณ 150 เมตร พบอิฐตัวหนอนที่รอบต้นไม้ข้างถนนได้ถูกงัดหายไป ซึ่งตรงกับอิฐที่ตกลงไปถูกรถกระบะคันดังกล่าว
พล.ต.ต.รัษฎากร กล่าวว่า ภายหลังจากเกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สำเหร่ ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงของถนนทั้งสองฝั่ง ด้านเขตธนบุรี และข้ามไปเขตพระนคร พร้อมตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณก่อนทางขึ้นสะพานสาทร ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะหยิบก้อนอิฐตัวหนอน ที่สร้างล้อมต้นไม้ริมถนนไว้ ก่อนที่จะหยิบขึ้นไปบนสะพานและโยนลงมาถูกรถกระบะของผู้เสียหาย เบื้องต้นมีพยานแจ้งลักษณะของคนร้าย เป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีดำ เสื้อสีเข้ม แต่งกายคล้ายกับพนักงานส่งเอกสาร ขี่รถ จยย.ไม่ทราบสี ยี่ห้อและเลขทะเบียนโดยหลังจากก่อเหตุแล้วได้หลบหนีไปทางแยกสุรศักดิ์ ก่อนจะหลบหนีหายไป
พล.ต.ต.รัษฎากร กล่าวต่อว่า สาเหตุตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องปัญหาส่วนตัว ที่ผู้เสียหายขณะขับรถผ่านมาอาจเกิดทะเลาะกับคนร้าย ก่อนขับรถ จยย.มาดักรอบริเวณบนสะพาน โดยประเด็นตอนนี้มุ่งไปที่เรื่องความคึกคะนองมากกว่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำของผู้เสียหายแล้วคาดว่าน่าจะเป็นประเด็นดังกล่าว โดยการกระทำคนร้ายถือว่ามีความผิดในข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ หลังจากนี้จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานและนำกล้องวงจรปิดโดยรอบมาตรวจสอบเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
ต่อมา พ.ต.อ.วิศาล พันธุ์มณี รอง ผบก.น.8 เดินทางมาที่ สน.สำเหร่ เพื่อประชุมความคืบหน้าคดีดังกล่าว โดยมี พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช ผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.อ.ธงชัย บุญสมบัติ ผกก.สน.สำเหร่ พ.ต.ท.ภัสพงษ์ บุตรไทย รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สายชล ปัญจชัย สว.สส.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน โดยใช้เวลาประมาณกว่า 1 ชั่วโมง
พ.ต.อ.วิศาล กล่าวว่า ในที่ประชุมตนได้แบ่งงานให้ฝ่ายสืบสวน บก.8 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สำเหร่ ลงพื้นที่หาหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วคนร้ายสามารถใช้เส้นทางได้ถึง 4 เส้นทาง ก่อนที่จะมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ตลอด 4 เส้นทางนั้นมีกล้องวงจรปิดรวมทั้งหมด 17 ตัว โดยสั่งการให้ชุดทำงานนำกล้องวงจรปิดทั้งมาตรวจสอบ และสามารถจับภาพคนร้ายได้หรือไม่ ซึ่งคดีนี้ภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่จะสามารถติดตามตัวคนร้ายรายนี้ได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่และสอบถามพยานแวดล้อม ทราบเบื้องต้นว่าคนร้ายเป็นชาย สวมหมวกกันน็อก และใส่เสื้อแขนยาวสีทึบเท่านั้น ส่วนรถ จยย.ดังกล่าวไม่มีใครเห็นว่าเป็นยี่ห้ออะไร เชื่อว่าคนร้ายรายนี้น่าจะเป็นรายเดียวกันกับเหตุที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ในพื้นที่ สน.ดินแดง และ สน.ทุ่งมหาเมฆ สำหรับมูลเหตุแผนการประทุษกรรมของคนร้ายรายนี้น่าจะมีอาการทางจิต หรือความคึกคะนอง ส่วนเรื่องมีปัญหาส่วนตัวกับผู้เสียหายนั้นได้ให้ประเด็นน้อยที่สุด