ด.ต.ฉาวเข้าพบ ผกก.สน.ดินแดงเซ็นรับทราบคำสั่งให้ออกราชการแล้ว

ด.ต.ที่ตกเป็นข่าวฉาวโผล่เข้าชี้แจงต่อ ผกก.สน.ดินแดงแล้ว! หอบญาติ 30 คนมาเป็นกำลังใจ ผกก.ชี้วันนี้ให้มาเซ็นรับทราบคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนพร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ส่วนเจ้าตัวปิดปากเงียบรีบขึ้นรถยนต์กลับทันที

จากกรณีมีผู้โพสต์คลิปลงในยูทิวบ์และแชร์ภาพของ ด.ต.วรวิทย์ นุกูลกิจ ผบ.หมู่ ป.สน.ดินแดง ที่พาผู้หญิงเข้าไปในบ้านเพชรศิริอพาร์ตเมนต์ ภายในซอยประชาสงเคราะห์ 25/1 แล้วญาติๆ ผู้หญิงมาพบจนมีการวิ่งไล่จับกัน กระทั่งล่าสุด พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.มีคำสั่งให้ ด.ต.ในคลิปออกจากราชการไว้ก่อนแล้วนั้น

ความคืบหน้ากรณีนี้ ที่ สน.ดินแดง วันที่ (1 พ.ค.) เวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด.ต.วรวิทย์ นุกูลกิจ ผบ.หมู่ป.สน.ดินแดง ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชากุล ผกก.สน.ดินแดง ที่ห้องทำงานของ พ.ต.อ.ภานพ ชั้นที่ 2 ในชุดเครื่องแบบเต็มยศ และมีสีหน้านิ่งเฉย โดยมีกลุ่มชาวบ้านซึ่งเป็นญาติและเพื่อนบ้านร่วม 30 คนมาคอยให้กำลังใจอยู่ที่ สน. จากนั้น พ.ต.อ.ภานพได้ให้ ด.ต.วรวิทย์เซ็นรับทราบคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน โดยใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที หลังจาก ด.ต.วรวิทย์เซ็นชื่อรับทราบเรียบร้อยแล้ว ผู้สื่อข่าวพยายามที่จะสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ ด.ต.วรวิทย์ไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด ก่อนจะลุกจากเก้าอี้และรีบเดินออกจากห้องไปทันที โดยมีกลุ่มชาวบ้านช่วยกันนักข่าวไม่ให้เข้าใกล้และถ่ายภาพ ภายหลัง ด.ต.วรวิทย์ เดินลงมาด้านล่าง ญาติได้รีบพาตัวไปขึ้นรถยนต์ที่มารอรับหน้าสน. และเดินทางกลับในทันที

ด้าน พ.ต.อ.ภานพกล่าวว่า ในวันนี้ ด.ต.วรวิทย์ได้มาเซ็นรับทราบคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนเรียบร้อยแล้ว หลังกลับมาจากลาไปสอบที่จังหวัดสงขลา หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมสอบสวนทางวินัย ซึ่งทาง บก.น.1 ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาใหม่ โดยเบื้องต้นทราบว่าน่าจะให้ พ.ต.ท.สุภัทร ทองส้ม พงส.ผนพ.สน.ดินแดง ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน เป็นประธานคณะกรรมสอบสวนเรื่องนี้ แต่ตนยังไม่เห็นคำสั่ง จึงต้องรอความดูคำสั่งอีกครั้งหนึ่งก่อน ส่วนระยะเวลาในการสอบสวนยังไม่สามารถระบุได้ แต่มีกรอบระยะเวลาอยู่แล้ว ตรงนี้ขึ้นอยู่กับทางคณะกรรมการฯ ว่าจะใช้เวลามากน้อยแค่ไหน ซึ่ง ด.ต.วรวิทย์ก็มีสิทธิที่จะชี้แจงเรื่องที่ถูกกล่าวหาเพื่อต่อสู้ตามกระบวนการของการสอบสวนในฐานะผู้ถูกกล่าวหา ทั้งนี้ ด.ต.วรวิทย์เดินทางเข้ามาพบก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะได้เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ดีกว่าหลบหนีไปให้เป็นเรื่องใหญ่โต สำหรับคดีอาญาตอนนี้ยังไม่มีเรื่องของอาญาเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เรื่องทางวินัยมีข้อมูลชัดเจน แต่จะผิดวินัยอย่างไรขึ้นอยู่กับทางคณะกรรมการเป็นผู้วินิจฉัย

พ.ต.อ.ภานพกล่าวต่อว่า หากสอบสวนแล้วพบว่ามีความผิดที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญาด้วย ก็สามารถที่จะดำเนินคดีอาญาในภายหลังได้ ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้กำชับและสั่งให้ดำเนินการไปตามข้อเท็จจริง ส่วนผู้เสียหายขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร และยังไม่ติดต่อเข้ามาพบ แต่จากการที่ผู้ชาย 2 คนที่อยู่ในคลิปเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้ข้อมูลเบื้องต้นไว้นั้น ได้มีการระบุว่าทางผู้เสียหายบอกว่าไม่ได้ถูกข่มขืนกระทำชำเราแต่อย่างใด ตรงนี้ก็ต้องรอสอบปากคำ ด.ต.วรวิทย์ด้วยว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการสอบสวนและพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย