ม็อบบ่อนอกร้องขอความเป็นธรรม คดีฆ่า “เจริญ วัดอักษร”

ม็อบบ่อนอกชุมนุมร้องขอความเป็นธรรมหน้าอัยการ-ศาลอุทธรณ์ ระบุให้ลงโทษผู้จ้างวานคดีฆ่า “เจริญ วัดอักษร” แกนนำบ่อนอก-หินกรูด

วันนี้ (23 เม.ย.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นางกรณ์อุมา พงษ์น้อย หรือกระรอก ภรรยาของนายเจริญ วัดอักษร อดีตประธานกลุ่มอนุรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอก ที่ต่อต้านโครงการสร้างโรงไฟฟ้าบ่อนอก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ของบริษัท กัลฟ์ อิเล็คทรอนิค จำกัด(มหาชน) และถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2547 ได้นำผู้ชุมนุมจำนวน 300 คนเดินทางมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2556 ให้ยกฟ้อง นายธนู หินแก้ว อายุ 51 ปี อาชีพทนายความ จำเลยที่ 3 ในคดีร่วมกันจ้างวานฆ่านายเจริญ ทั้งที่คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2551 ให้ประหารชีวิตนายธนู หินแก้ว

โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้รวมตัวกันที่บริเวณประตูทางเข้าสำนักงานอัยการสูงสุด และปิดการจราจรช่องซ้ายสุด ทำให้การจราจรบนถนนรัชดาภิเษกติดขัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธินต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 60 นาย พร้อมประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจาก บก.น.2 จำนวน 1 กองร้อย มาร่วมอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัย

กระทั่งเวลา 09.30 น. นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 ในฐานะอัยการเจ้าของสำนวนคดี ได้ลงพบนางกรณ์อุมาเพื่อรับหนังสือขอความเป็นธรรม โดยนางกรณ์อุมาได้อ่านแถลงการณ์เรียกร้องขอความเป็นธรรม 2 ข้อ คือ ข้อแรก ขอให้พนักงานอัยการขยายเวลาการยื่นฎีกาออกไปอีก 30 วัน พร้อมให้ใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่เพื่อให้ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษจำเลยคดีฆ่านายเจริญตามความผิด และประการสุดท้าย ขอให้ทางพนักงานอัยการแจ้งกำหนดการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้แก่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมทราบล่วงหน้าเพื่อจะเข้าร่วมรับฟังการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา เนื่องจากคดีนี้นางกรณ์อุมาไม่ได้เป็นโจทก์ร่วม จึงไม่ทราบกำหนดการอ่านคำพิพากษา

ด้านนายชัยณรงค์กล่าวกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า การยื่นฎีกาคดีดังกล่าวถือเป็นหน้าที่สำคัญของทางพนักงานอัยการ พร้อมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทั้งนี้ เมื่อถึงวันที่ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ทางอัยการก็จะแจ้งให้นางกรณ์อุมาทราบทันที

โดยกลุ่มผู้ชุมนุมต่างพอใจ จากนั้นได้เคลื่อนขบวนจากหน้าอาคารสำนักงานอัยการสูงสุด พากันเดินย้อนกลับไปที่ศาลอุทธรณ์เพื่อยื่นหนังสือและแสดงความไม่เห็นด้วยกับผลคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ โดยนายสัญวิชญ์ โกสุม รองเลขานุการศาลอุทธรณ์ เตรียมจะรับหนังสือดังกล่าวจากกลุ่มผู้ชุมนุม โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชนกว่า 100 นายวางกำลังอยู่ พร้อมปิดกั้นประตูทางเข้า-ออก พร้อมส่งตัวแทนทางศาลให้ไปเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมให้ส่งตัวแทนเข้ามาไม่เกิน 10 คน ปรากฏว่าทางกลุ่มผู้ชุมนุมจะเข้าไปในศาลอุทธรณ์ทั้งหมด หรือไม่ก็ให้ทางฝ่ายศาลอุทธรณ์ส่งตัวแทนออกมาด้านนอกศาล ปรากฏว่าทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ นางกรณ์อุมาจึงกล่าวกับผู้ชุมนุมว่าจะส่งหนังสือถึงศาลอุทธรณ์ทางไปรษณีย์แทน

นอกจากนี้ นางกรณ์อุมายังกล่าวอีกว่า กลุ่มฯ ได้เตรียมจัดเสวนาทางวิชาการเรื่อง “แกะรอยคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีเจริญ วัดอักษร” ขึ้นที่ห้อง LT 1 คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในวันที่ 28 เม.ย. 2556 เวลา 13.00-16.00 น. เพื่อขยายวงความรู้เกี่ยวกับคดีฆ่าในหมู่ประชาชน ก่อนจะเลิกการชุมนุมไปโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรง