สมุทรปราการ - สองหนุ่มโรงงานฟอกหนังแค้นโจ๋วัย 17 ปี อมเงินหนึ่งหมื่น เรียกตัวคุยตกลงก่อนระเบิดแค้นรุมซ้อมปางตาย ลากตัวขังบ้านพัก ชุดสืบสวนเช็กเบอร์มือถือก่อนเจอพิกัดบุกช่วยตัวทัน พบนอนไร้สติ เบื้องต้น ตำรวจยังไม่เชื่อมูลเหตุจูงใจ เพราะเจอประวัติยาเสพติดอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม
ชมคลิป...
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (22 เม.ย.) ที่ห้องประชุม สภ.เมืองสมุทรปราการ พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงผลจับกุมตัว นายธนิด หรือ เบียร์ สิงห์เงิน อายุ 30 ปี และ นายเสน่ห์ หรือ เก่ง นิยมกูล อายุ 18 ปี สองผู้ต้องหา ในคดีร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น กักขังหน่วงเหนี่ยวปราศจากเสรีภาพ พร้อมของกลาง อาวุธมีดสปาตาร์ 1 ด้าม หมวกนิรภัยสีดำ 1 ใบ
พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2556 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้รับแจ้งจาก น.ส.สมพร พันธุ อายุ 45 ปี ว่าลูกชาย คือ นายอนุพล มีชอบ อายุ 17 ปี ได้หายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ 18 เม.ย.2556 ที่ผ่านมา โดยครั้งสุดท้ายทราบว่า ลูกชายได้พูดคุยมีปากเสียงผ่านทางโทรศัพท์คุยกับ นายธนิด หรือเบียร์ ซึ่งเป็นพรรคพวกกลุ่มเดียวกัน ก่อนมีการนัดพบเจอกันบริเวณปากซอยเคหะสมุทรปราการ ม.6 ต.ท้ายบ้านใหม่ แล้วหลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้ เกรงว่าจะเกิดเหตุร้ายกับลูกชาย ถูกอุ้มหาย
หลังทราบข้อมูลได้สั่งการ พ.ต.ท.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ รอง ผกก.สส.มอบหมายให้ พ.ต.ท.ศุภกร ธัญญกรรม สว.สส.และ พ.ต.ต.นพดล ช่างเรือน สว.สส.นำกำลังตรวจสอบ พร้อมเช็กข้อมูลการใช้เบอร์โทรศัพท์ของผู้สูญหาย เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายได้นำโทรศัพท์มือถือของผู้สูญหายใช้ติดต่อ จนกระทั่งพบพิกัดการใช้โทรศัพท์จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบทันที ก่อนพบว่า ทั้งหมดอยู่ภายในบ้านเลขที่ 1614/713 หมู่บ้านการเคหะสมุทรปราการ ม.6 ต.ท้ายบ้านใหม่ จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบร่างไร้สติ ของนายอนุพล ถูกมัดมือเท้า อยู่ภายในห้องครัวหลังบ้าน จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ ทันที ขณะที่ชุดจับกุมสามารถติดตามควบคุมตัว นายธนิด และนายเสน่ห์ ขณะกบดานอยู่อยู่ในห้องเช่าของโรงงานแห่งหนึ่ง ในซอยฟอกหนัง กม.30 ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 500 เมตร
สอบสวนนายธนิด ให้การว่า เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับผู้บาดเจ็บ โดยก่อนหน้านี้ ตนและนายอนุพล เกิดมีปัญหาทางด้านการเงิน จึงตัดสินใจไปหาหยิบยืมเงินจากผู้ประกอบการรายหนึ่งจำนวนกว่า 10,000 บาท และตั้งใจว่าจะนำมาแบ่งกันคนละครึ่ง โดยนายอนุพล เป็นคนเก็บเงินดังกล่าวไว้ และนัดกันว่าจะนำเงินมาแบ่งให้กันในวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงเวลานายอนุพล กลับบอกตนว่าเงินหมดแล้ว จึงได้โทรศัพท์เรียกให้ออกมาคุยตกลง แต่เมื่อมาเจอหน้า นายอนุพล กลับพูดจาก้าวร้าวด่าทอใส่ตน ทั้งที่เป็นรุ่นน้องประกอบกับความเครียดส่วนตัว จึงแค้นจัดจึงร่วมกับนาย นายเสน่ห์ รุมซ้อมโดยใช้มีดฟัน พร้อมหมวกกันน็อกฟาดทุบหัวนายอนุพลได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เมื่อลงมือไปแล้วกลัวความผิดจึงนำตัวนายอนุพล ไปกักตัวไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว
เบื้องต้นยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของสองผู้ต้องหามากนัก เนื่องจากมองว่ามีพฤติกรรมที่โหดร้ายและเป็นการเตรียมวางแผนมาอย่างดีสำหรับก่อเหตุ โดยมีพฤติกรรมลักษณะคล้ายแก๊งอุ้มรีด ประกอบกับ 1 ใน 2 ผู้ต้องหานั้น ยังมีประวัติเคยถูกดำเนินคดีในข้อหา ยาเสพติดก่อนหน้านี้ จึงมีการตรวจสอบมูลเหตุที่แท้จริงของการอุ้มรุมซ้อมทำร้ายร่างกายเพิ่มเติม ส่วนผู้บาดเจ็บนั้น ขณะนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ ซึ่งอาการยังน่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างขยายผล