ประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ ยื่นหลักฐานเพิ่ม หลังกล่าวหาอดีต ปธ.ยักยอกเงินมูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท รอง ผบก.ป.ชี้เป็นเรื่องของการโต้แย้งสิทธิการเป็นกรรมการของสหกรณ์ ซึ่งทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องเป็นผู้ชี้ขาด
วันนี้ (19 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ กองปราบปราม นายมณฑล กันล้อม ประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด และนายอารีย์ แย้มบุญยิ่ง ผู้จัดการสหกรณ์ฯ พร้อมด้วยกรรมการสหกรณ์ฯ และสมาชิกสหกรณ์ฯ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป.และพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อเข้าให้ข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติม หลังจากที่ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.ให้ดำเนินคดีกับ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ในข้อหายักยอกทรัพย์ และฉ้อโกง กรณีที่มีการนำเงินของสหกรณ์ไปลงทุนหุ้น ที่ดิน รวมทั้งนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ของสหกรณ์ฯ รวมมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา
นายอารีย์ กล่าวว่า สำหรับกรณีการตรวจสอบพบความไม่ชอบมาพากลในการนำเงินของสหกรณ์ฯ ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์นั้น มีการฟ้องร้องต่อศาลทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง ไว้แล้ว แต่เป็นคนละประเด็นกับที่มาแจ้งความที่ บก.ป.และมีการแจ้งความกับตำรวจท้องที่ ในเรื่องการช่วยเหลือดูแลความปลอดภัยของนายมณฑล และกรรมการสหกรณ์ฯ ด้วย โดยในส่วนที่แจ้งความไว้ที่ บก.ป.ก่อนหน้านี้นั้นเป็นกรณีของการนำเงินสหกรณ์ฯ ไปอนุมัติสินเชื่อปล่อยเงินกู้โดยไม่มีหลักประกัน และใช้เอกสารโดยมิชอบ
นายมณฑล กล่าวว่า เรื่องของการโต้แย้งสิทธิการเป็นกรรมการสหกรณ์ฯ นั้น ยอมรับว่าเรื่องนี้กำลังมีปัญหาอยู่จริง เนื่องจากเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันกำหนดประชุมใหญ่สามัญประจำปีนั้น ต้องยกเลิกไป เพราะมีการโต้แย้งกรณีสมาชิกที่มีคุณสมบัติไม่สมบูรณ์ โดยสมัครเป็นสมาชิกไม่ถึง 1 เดือน จากข้อบังคับที่ต้องเป็นสมาชิกอย่างน้อย 6 เดือน อย่างไรก็ดี ทางสหกรณ์ฯ ยังมั่นใจว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นของสมาชิก ที่นำเงินมาฝากกับทางสหกรณ์ฯ และยืนยันว่า ตนรวมทั้งกรรมการที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่ สามารถปฏิบัติหน้าที่โดยเป็นไปตามระเบียบของสหกรณ์ฯ และตามกฎหมาย ซึ่งในวันที่ 26 เมษายนนี้ จะมีการเรียกประชุมใหญ่สามัญประจำปี ที่ โรงแรมทาวน์อินทาวน์
นายมณฑล กล่าวต่อว่า ในช่วงที่มีปัญหาเกิดขึ้นในสหกรณ์ฯ ทางกรรมการชุดของตนได้พยายามทำหนังสือชี้แจงปัญหาและข้อมูลต่างๆ ให้สมาชิกทราบ มีการนำเอกสารไปวางไว้ที่สำนักงานสหกรณ์ฯ เพื่อประชาสัมพันธ์ แต่ก็ถูกเก็บไปหมด พอจะเข้าไปทำงานในสำนักงานก็ถูกนำกุญแจมาล็อกปิดไว้จึงทำให้สมาชิกบางส่วนยังไม่เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า กรณีนี้เป็นเรื่องของการโต้แย้งสิทธิการเป็นกรรมการของสหกรณ์ดังกล่าว ซึ่งทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องเป็นผู้ชี้ขาด สำหรับคดีที่มีการแจ้งความกับพนักงานสอบสวนนั้น เป็นคนละส่วนกัน โดยหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและเอกสารหลักฐานต่างๆ โดยทางพนักงานสอบสวนยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
สำหรับ นายมณฑล และกรรมการสหกรณ์ฯ ชุดปัจจุบัน ได้ฟ้องร้องต่อศาลอาญา ให้ดำเนินคดีกับนายศุภชัย อดีตประธานสหกรณ์ฯ และ น.ส.ศรัณยา มานหมัด อดีตรองผู้จัดการสหกรณ์ฯ รับผิดชอบด้านการเงิน ในความผิดร่วมกันยักยอกทรัพย์ รวม 2 คดี และฟ้องร้องต่อศาลแพ่งกับบุคคลทั้งสอง ในความผิดฐานละเมิด ติดตามเอาทรัพย์สินคืน เรียกค่าเสียหาย ค่าสินไหมทดแทน โดยทั้ง 3 คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาในศาล