ผบก.ป.สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย “นักบินกองปราบฯ” อุ้มดารา ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ชี้ผลไล่ออกหรือให้ออกต้องรอดูผลสอบสวนของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเสียก่อน
วันนี้ (11 ก.พ.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 12.30 น. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.กล่าวถึงกรณี ด.ต.ไพบูลย์ ยืนยัน ผบ.หมู่ กก.2 บก.ป.ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันกรรโชกทรัพย์ หน่วงเหนี่ยวกักขัง น.ส.เจษยา หรือเอม เวียงเกตุ อายุ 27 ปี ดาราสาวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เหตุเกิดที่ห้องพักเลขที่ 402/123 ชั้น 8 อาคารเจดับบลิวบูเลอวาด ถนนทาวน์อินทาวน์ แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง เมื่อวันที่ 31 มกราคมว่า ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.นิรันดร์ นามสุวรรณ ผกก.2 บก.ป.ผู้บังคับบัญชาโดยตรงของ ด.ต.ไพบูลย์ แล้วว่า หลังจากเรียกให้เข้ามารายงานตัว ได้ประสานให้ ด.ต.ไพบูลย์เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.วังทองหลาง เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวต่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทาง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก.กำชับมาที่ตนว่าให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อยเพราะถือเป็นนโยบาย การที่มีตำรวจในสังกัดเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดนอกจากต้องถูกดำเนินคดีอาญาแล้ว ก็มีขั้นตอนการดำเนินการอย่างเช่นที่ผ่านมา คือ ต้องถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย และพิจารณาว่ามีใครเป็นผู้ดูแลความประพฤติของตำรวจนายนี้
“ส่วนกรณีจะให้ออก หรือไล่ออกนั้น ยังต้องรอรายงานผลการสอบสวนของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเสียก่อน อย่างไรก็ดี เนื่องจากผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจมาต้นสังกัดอยู่ 2 กองบัญชาการ (บช.) จึงต้องดำเนินการตามขั้นตอนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งมีอำนาจสั่งการตามลำดับชั้น ทาง บก.ป.ก็มีหน้าที่เสนอความเห็นขึ้นไป” พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าว
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวอีกว่า เรื่องความผิดวินัยร้ายแรงนั้นเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการตามกระบวนการ แต่ขณะนี้ตนได้สั่งพักราชการ ด.ต.ไพบูลย์ไปแล้ว ขอยืนยันว่าที่ผ่านมา บก.ป.ไม่ได้ละเลยกับกรณีที่มีตำรวจในสังกัดเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด เมื่อเป็นเนื้อร้ายก็ต้องตัดทิ้งไป ส่วนรายละเอียดในการกระทำความผิด จากเหตุดังกล่าวก็ค่อนข้างชัดเจนว่าไม่ใช่การเข้าปฏิบัติงานตามหน้าที่ แต่เป็นการประกอบกำลังกันร่วมกระทำความผิดตามกฎหมาย หรือเรียกกันในภาษาชาวบ้านว่าเป็น “นักบิน” เป็นการรีดทรัพย์ผู้เสียหาย ซึ่งคงต้องดำเนินการเอาผิดต่อไป
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวอีกว่า อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนว่า หากพบเห็นการกระทำการลักษณะนี้ขอให้ช่วยแจ้งข้อมูลเบาะแสมาที่ตน เพื่อเราจะได้เร่งจัดการกับปัญหาเหล่านี้ให้หมดสิ้นไปจากวงการตำรวจ ต่อข้อถามเรื่องการสอบสวนเอาผิดทางวินัยต่อ ด.ต.ไพบูลย์นั้น ผบก.ป.กล่าวว่า คงเป็นไปตามกรอบเวลาภายใน 30 วัน และต้องรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ซึ่งคาดว่าในวันเดียวกันนี้ก็สามารถตั้งคณะกรรมการสอบสวนได้ทันที