รอง ผบช.ปส.แถลงผลงานจับคดียาเสพติด 2 คดี พร้อมของกลางยาเสพติดมูลค่ารวมกว่า 7.4 ล้านบาท
วันนี้ (19 เม.ย.) เวลา 10.00น. ที่บช.ปส. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส. พร้อมด้วย บก.ปส.3 ร่วมแถลงผลการจับกุมยาเสพติดจำนวน 2 คดี คดีแรกจับกุม น.ส.นฤมล หรือเบล นกแสง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 313/79 หมู่ 2 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. และนายแฟรงค์ แอนโนนี (MR. FRANK ANTHONY) อายุ 34 ปี สัญชาติกานา พร้อมของกลางโคเคนน้ำหนัก 1,200 กรัม ละลายปนอยู่ในชุดเสื้อผ้า จำนวน 3 ชิ้น มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท กล่องพัสดุไปรษณีย์ขนาด 20x30 เซนติเมตร จำนวน 2 กล่อง ของบริษัท CORREO AGENTINA ระบุชื่อผู้รับ MS. SRISUDA KANNAKORN RATCHAPHBUER PAVILION NAKHORNPATHOM 105/5 RATMANKHA RD SANAMCHAN MUANG NAKHONPATHOM THAILAND เบอร์โทรศัพท์ 08-5214-5138 และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง จับกุมได้ที่ราชพฤกษ์พาวิเลี่ยน ต.สนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม และบุกค้นต่อเนื่องที่ดีดอนโด แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. เมื่อวาน 18 เม.ย.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.สุรพลกล่าวว่า ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มชาวต่างชาติผิวดำลักลอบส่งพัสดุภัณฑ์ซึ่งซุกซ่อนยาเสพติดผ่านช่องทางไปรษณีย์จากประเทศอาร์เจนตินามายังไปรษณีย์นครปฐม ประเทศไทย ในวันที่ 18 เม.ย. จึงนำกำลังเฝ้ารอที่สถานที่รับพัสดุ ราชพฤกษ์พาวิเลี่ยน จากนั้นเวลา 10.00 น.วันที่ 18 เม.ย. น.ส.นฤมลมารับพัสดุของกลาง จึงแสดงตัวขอตรวจค้นพบเสื้อผ้าสีขาวจำนวน 3 ชิ้นชุบโคเคนไว้ จึงควบคุมตัวไว้จากนั้นเจ้าหน้าที่อีกชุดทำการเข้าจับกุมนายแฟรงค์ แฟนของ น.ส.นฤมลที่มายืนรอรับพัสดุอยู่ในบริเวณจุดเกิดเหตุได้อีกคน และนำตัวไปตรวจค้นที่ห้องพักดีดอนโด เขตบางเขน พบกัญชาน้ำหนัก 3 กรัม
พล.ต.ต.สุรพลกล่าวต่อว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทั้งคู่ให้การปฏิเสธว่า ไม่ทราบว่าข้างในกล่องเป็นยาเสพติด โดยมีคนให้มารับกล่องพัสดุเพื่อส่งต่อให้เพื่อนชาวแอฟริกันที่อยู่ในกรุงเทพฯ อีกทีหนึ่ง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อเพราะมีข้อมูลว่าทั้งคู่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งกลุ่มนี้จะทำกันเป็นขบวนการจะมีคนส่งยาเสพติดมาจากประเทศอาร์เจนตินา เมื่อมาถึงเมืองไทยก็จะมีคนมารับ และส่งต่อกันเป็นทอดๆ จนมาถึงลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพวกนักเรียนนอกและไฮโซ ซึ่งพวกนี้มักจะชอบเสพโคเคน โดยโคเคนจะมีราคาพอๆ กับยาไอซ์ หรือแพงกว่าเล็กน้อย พวกนี้จะใช้วิธีนำโคเคนมาละลายน้ำแล้วเอาเสื้อผ้าสีขาวไปชุบน้ำที่ผสมโคเคนแล้วเอามาผึ่งจนแห้ง พอถึงที่หมายก็จะนำมาซักให้โคเคนละลายแล้วทำให้ตกผลึกเป็นโคเคนบริสุทธิ์ก่อนนำมาขายให้ลูกค้า หากไม่มีคนให้ข้อมูลพวกนี้จะจับกุมได้ยากมาก เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาต่อทั้งคู่ว่าร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
พล.ต.ต.สุรพลกล่าวต่ออีกว่า สำหรับอีกรายได้จับกุมนายวินเร ไม่มีนามสกุล อายุ 36 ปี ชาวพม่า พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 2.2 หมื่นเม็ด มูลค่ารวม 4.4 ล้านบาท กระเป๋าสะพายสีน้ำตาล 1 ใบ และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง จับกุมได้ที่บริเวณบ้านแม่สามแลบ หมู่ 1 ต.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่านายวินเรจะลักลอบนำยาเสพติดมาจากประเทศพม่าเพื่อมาจำหน่ายในประเทศไทย จึงวางแผนล่อซื้อ เมื่อนายวินเรนำยาบ้ามาส่งเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุม ก่อนแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป
