ที่ปรึกษาบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ผู้รับเหมาก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่งที่มีปัญหาล่าช้า กล่าวว่า ในวันที่ 17 เม.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นวันครบกำหนดของสัญญา บริษัทขอเสนอให้มีการขยายระยะเวลาออกไปอีก 600 วัน โดยบริษัทขอให้สัตยบรรณว่าบริษัทจะใช้เวลา 6 เดือน ในการก่อสร้างสถานีตำรวจล็อตแรก 10 แห่ง ส่วนที่เหลือจะสร้างให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลาอย่างแน่นอน
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 15 เม.ย. ที่รร.เซ็นต์รีจิส ถ.ราชดำริ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ที่ปรึกษา บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ผู้รับเหมาก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่งที่มีปัญหาล่าช้า พร้อมด้วยทีมกฎหมายได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ภายใต้หัวข้อ “รหัสความจริงองค์กรหลากมิติกับพีซีซีฯ 391+5 RESET” กรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) จะยกเลิกสัญญากับทางบริษัท หลังได้มีการขยายระยะเวลาเป็นเวลา 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 17 เม.ย.นี้ โดย พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า เหตุผลที่เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนในวันนี้ เนื่องจากมีหลายประเด็นที่ทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ยอมบอกสังคม และที่ผ่านมาทางบริษัทก็ไม่ได้มีโอกาสได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกับสังคม ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน
พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า สำหรับโครงการนี้บริษัทได้ชนะการประมูลด้วยวิธีการทางอิเล็คทรอนิกส์ หรือ อีอ็อกชั่น โดยเสนอราคาต่ำที่สุดจากบรรดาคู่แข่ง 5 ราย ในวงเงิน 5,848 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางถึง 540 ล้านบาท โดยได้ทำสัญญากันเมื่อวันที่ 25 มี.ค.2555 กำหนดระยะเวลาก่อสร้าง 450 วัน ซึ่งจะครบกำหนดตามสัญญาในวันที่ 17 มิ.ย.2555 ต่อมาได้มีการขยายเวลาตามมติคณะรัฐมนตรี หลังเกิดมหาอุทกภัย โดยจะครบกำหนดสัญญาในวันที่ 14 มี.ค.2556 หลังจากนั้นก็ได้มีประเด็นว่าจะมีการยกเลิกสัญญา ก่อนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีการขยายเวลา ซึ่งเป็นการขยายเวลาโดยผู้ว่าจ้างเป็นครั้งแรกเป็นเวลา 30 วัน และจะครบกำหนดในวันที่ 17 เม.ย.นี้
"จะเห็นได้ว่าบริษัทได้งานจากการเสนอราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง ไม่ใช่เหตุผลอื่น ทุกอย่างโปร่งใสไม่มีนอกมีใน หรือมีการจ่ายเงินใต้โต๊ะตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ โดยเหตุผลที่บริษัทสามารถเสนอราคาต่ำได้ เนื่องจากมีบริษัทในเครือค้าวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ ทำให้มีต้นทุนการก่อสร้างที่ต่ำกว่าบริษัทคู่แข่ง"พ.ต.ท.สันธนะ กล่าว
พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติพยายามที่จะบอกเลิกสัญญากับบริษัทโดยอ้างเหตุผลว่า บริษัทเป็นฝ่ายผิดสัญญา เนื่องจากมีการก่อสร้างล่าช้า ทั้งที่ในความเป็นจริงสาเหตุของความล่าช้าเกิดจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเอง ที่มีการส่งมอบพื้นที่ล่าช้า บางสถานีตำรวจใช้เวลาส่งมอบพื้นที่ 403 วัน บางที่ใช้เวลาถึง 600 วัน ขณะที่จนถึงวันนี้ มีอีกกว่า 5 สถานีตำรวจที่ยังไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้กับผู้รับเหมาได้ จึงอยากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะผู้ว่าจ้างยอมรับว่าสาเหตุของความล่าช้าเกิดจากปัญหาอะไร ไม่ใช่อะไรก็จะโยนให้ผู้รับเหมาเพียงฝ่ายเดียว
พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการก่อสร้างนั้น ทางบริษัทไม่ได้ดำเนินการผิดขั้นตอนแต่อย่างใด โดยโครงการนี้มีการเบิกจ่ายงบประมาณไปทั้งสิ้น 1,532 ล้านบาท หรือ ประมาณร้อยละ 26.2 โดยแบ่งเป็นเงินล่วงหน้าร้อยละ 15 ที่เป็นไปตามระเบียบและเงินค่างวดงานร้อยละ 11 ขณะที่งานก่อสร้างก็เดินหน้าไปกว่าร้อยละ 20 ซึ่งเงินที่บริษัทได้รับก็มีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับความคืบหน้าของโครงการ นอกจากนี้มองว่าเงินส่วนนี้เป็นเงินเพียงน้อยนิดหากเทียบกับมูลค่าของโครงการ ซึ่งก็หมายความว่าขณะนี้งบประมาณของโครงการนี้ยังเหลืออยู่อีกกว่า 4 พันล้านบาท เงินภาษีของประชาชนไม่ได้หายไปไหน
พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 17 เม.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นวันครบกำหนดของสัญญา บริษัทขอเสนอให้มีการขยายระยะเวลาออกไปอีก 600 วัน โดยบริษัทขอให้สัตยบรรณว่าบริษัทจะใช้เวลา 6 เดือน ในการก่อสร้างสถานีตำรวจล็อตแรก 10 แห่ง ส่วนที่เหลือจะสร้างให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลาอย่างแน่นอน ทั้งนี้ บริษัทยืนยันว่ามีความพร้อม สภาพคล่องเป็นอย่างดี มีความมั่นคง มีบริษัทในเครือกว่า 10 แห่ง รวมถึงมีพนักงานกว่า 6 พันคน ที่ผ่านมาเคยรับงานประมูลซึ่งมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาทขึ้นไป จึงอยากสำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะผู้ว่าจ้างให้โอกาสกับบริษัทอีกครั้ง ทั้งนี้ ในวันที่ 17 เม.ย. เวลา 08.30 น. นายพิบูลย์ อุดมสิทธิกุล ประธานบริษัทพีซีซีฯ จะเดินทางยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เพื่อขอให้มีการขยายระยะเวลา ซึ่งหากสตช.ปฏิเสธข้อเรียกร้องของทางบริษัทไม่ยินยอมที่จะขยายเวลา และยืนยันที่จะยกเลิกสัญญา ทางบริษัทก็จะยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพราะบริษัทได้รับความเสียหาย ซึ่งทางบริษัทจะเรียกเงินค่าจ้างที่ยังค้างอยู่ 73 ล้านบาทด้วย ขณะเดียวกันสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็อาจจะให้สิทธิฟ้องร้องทางบริษัทด้วยก็เป็นสิทธิที่จะสามารถทำได้
ด้าน พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. กล่าวยืนยันว่า แม้ทางบริษัท พีซีซี จะออกมาชี้แจงต่อสังคมเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่ง ที่ไม่แล้วเสร็จอย่างไร ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังคงยืนยันเช่นเดิม คือหากครบกำหนด 30 วัน ในวันที่ 17 เม.ย. นี้ ทาง สตช.ก็จะบอกยกเลิกสัญญาอย่างเป็นทางการกับทาง บริษัทพีซีซี อย่างแน่นอน ทั้งนี้เนื่องจาก ทาง สตช.ได้รับความเสียหายมามากแล้ว ส่วน ทางบริษัทจะดำเนินการฟ้องกลับนั้น ก็พร้อมต่อสู้ตามกระบวนการของกฏหมาย ขณะที่การจัดประกวดราคา ผู้รับเหมารายใหม่นั้น จะดำเนินการได้หลังจากที่มีการยกเลิกสัญญาแล้ว ทั้งนี้ การออกมาแถลงข่าวของบริษัทพีซีซี วันนี้ ทาง สตช.ไม่ได้รู้สึกกังวลใจแต่อย่างใด แต่ก็จะรวบรวมรายละเอียดหรือการชี้แจงของทาง บริษัทพีซีซี ไว้ เพื่อประกอบการต่อสู้ในทางคดี