ตำรวจกองปราบฯ แถลงผลงานจับกุมเครือข่ายแก๊งนายทุนเงินกู้นอกระบบ รายใหญ่ 2 รายพร้อมของกลาง เตือน ปชช.อย่าตกเป็นลูกหนี้เพราะเท่ากับเป็นการส่งเสริมให้ธุรกิจนี้ยืนยงรากลึก เผยกลยุทธ์นายทุนหน้าเลือดหัวหมอเลี่ยงไม่เก็บสัญญาเงินกู้ไว้มัดตัว!
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (11 เม.ย.) ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วรวุฒิ คุณะเกษม ผกก.3 บก.ป. พ.ต.อ.นิรันดร์ นามสุวรรณ ผกก.2 บก.ป. พ.ต.อ.วราวุธ เจริญชน รอง ผกก.3 บก.ป. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสายชล รนพิมาย กับพวกอีก 9 คน ในข้อหาประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยจัดหาซึ่งเงินทุนให้ผู้อื่นกู้ยืม โดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด พร้อมของกลางเงินสด 26,500 บาท จักรยานยนต์ 4 คัน เครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง สัญญาเงินกู้ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง จำนวน 42 รายการ โดยจับกุมได้หลังนำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยาและศาลจังหวัดนนทบุรีเข้าตรวจค้นบ้านเช่า เลขที่ 451/230-231 หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และบ้านพักภายในหมู่บ้านเยาวพรรณ บางกรอย-ไทรน้อย 40 ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.บางสีทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวว่า กลุ่มผู้ต้องหาที่จับกุมได้นั้นเป็นเครือข่ายของเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ 2 ราย โดยในกลุ่มผู้ต้องหาที่จับกุมได้ที่ จ.ชลบุรีนั้นเป็นสายของเครือข่ายเงินกู้นอกระบบจาก จ.อุทัยธานี ส่วนอีกกลุ่มนั้นเป็นสายของเครือข่ายเงินกู้นอกระบบของพ่อค้าระดับเศรษฐีคนหนึ่งใน จ.นนทบุรี ทั้งสองเครือข่ายนั้นมีลูกหนี้ประมาณ 400 ราย ส่วนวิธีการปล่อยกู้นั้นจะคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20-30 ต่อ 30 วัน หากกู้ยืม 10,000 บาท จะถูกหักเงินไปทันที 400 บาท จากนั้นจะเก็บลูกหนี้เป็นรายวันๆ ละ 400 บาท หากลูกหนี้รายใดไม่สามารถหาเงินมาใช้คืนได้ก็จะมีมาตราการเจรจาจากเบาไปหาหนัก
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวด้วยว่า กรณีเงินกู้นอกระบบนั้นได้นำเรื่องไปหารือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินว่าดอกเบี้ยที่เก็บเกินจากที่กฎหมายกำหนดนั้นจะสามารถตรวจสอบเพื่อส่งคืนให้กับลูกหนี้ได้หรือไม่ ดังนั้นจึงอยากให้ผู้เป็นลูกหนี้ของทั้งสองกลุ่มนั้นเข้ามาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนเพื่อนำไปดำเนินการต่อไป
แหล่งข่าวชุดสืบสวนตั้งข้อสังเกตว่า ในการตรวจค้นจับกุมเครือข่ายเงินกู้นอกระบบในระยะหลังจะไม่ค่อยพบสัญญาเงินกู้ แต่จะพบเพียงโผยรายชื่อ หรือสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านเท่านั้นซึ่งสันนิษฐานว่าเครือข่ายเหล่านี้ต้องการหลบเลี่ยงความผิดตามกฎหมาย
นอกจากการจับกุมเครือข่ายเงินกู้นอกระบบทั้งสองรายนี้แล้ว ทาง บก.ป.โดยชุดสืบสวนของ พ.ต.อ.ธนาวุฒิ ท้วมสมบุญ ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.ดำรงสิทธิ์ โมราฤทธิ์ รอง ผกก.4 บก.ป. และพ.ต.ท.วันชัย ชัยชูโชติ สว.กก.4 บก.ป. นำหมายค้นศาลจังหวัดอุทัยธานีเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 90/2 หมู่ 7 ต.ท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา โดยจับกุมนายมานพ อ่วมสุข ชาว อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท พร้อมของกลางบัญชีลูกหนี้เงินกู้ และสมุดบัญชีค่าใช้จ่าย สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าให้เงินกู้นอกระบบโดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน จึงแจ้งข้อหาเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ก่อนนำตัวส่ง สภ.เมืองอุทัยธานี ดำเนินคดีต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทาง บก.ป.ฝากถึงประชาชนที่คิดจะกู้ยืมเงินนอกระบบขอให้พึงระลึกเสมอว่า การกู้ยืมเงินนอกระบบนั้นเป็นการสนับสนุนกลุ่มเครือข่ายเหล่านี้ให้คงอยู่ต่อไป แต่ทั้งนี้หากมีผู้ได้รับความเดือดร้อนจากเครือข่ายเหล่านี้ก็สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่ บก.ป. ที่สายด่วน 1195