“ปวีณา” พร้อมด้วยมารดาของ “น้องเอย” เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้อำนวยการ คนขับรถตู้ และพี่เลี้ยงดูแลเด็ก หลังจากน้องเอยวัย 3 ขวบ นักเรียนอนุบาลอนงค์เวท ถูกลืมไว้ในรถตู้รับ-ส่งนักเรียนนาน 7 ชม. และตอนนี้ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 5 เม.ย. 56 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี และนางรัตนา นครโสภา อายุ 34 ปี มารดาของน้องเอย เข้าพบ พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผกก.สภ.บางปู และ พ.ต.ท.สุทธิชน ธงชัยภูมิ พงส. (สบ 3) พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีต่อนางอนงค์ คีรีวงษ์ อายุ 78 ปี ผู้ได้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนอนุบาลอนงค์เวท นายสันติภาพ หวานใจ คนขับรถตู้รับ-ส่งนักเรียนและเป็นครูสอนคอมพิวเตอร์ และน.ส.ดาวรอง ศรีสุมัง อายุ 37 ปี พี่เลี้ยงผู้คอยดูแลเด็กบนรถ ก่อนเดินทางไปดูสถานที่เกิดเหตุยังโรงเรียนดังกล่าว
ปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวว่า วันนี้พามารดาของน้องเอยมาเข้าแจ้งความและมาติดตามความคืบหน้าของคดีด้วย หลังทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาแก่พี่เลี้ยงเด็กคนเดียว จึงมาสอบถามถึงความคืบหน้าเนื่องจากมารดาของเด็กเกิดความกังวลใจ เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องมาได้เจอหน้ากับเจ้าของโรงเรียนเพียงครั้งเดียวเมื่อวานนี้ (4 เม.ย.) ที่นำเงินไปมอบให้เป็นค่ารักษาพยาบาล และยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมาอีกเลย รวมถึงวันนี้ที่นัดมาพูดคุยกันต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่มาและไม่ส่งตัวแทนมาด้วย
ส่วนมารดาของน้องเอยกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีทั้ง 3 คนให้ถึงที่สุด ไม่ใช่เพียงแต่ให้ลูกน้องมาถูกดำเนินคดีเพียงอย่างเดียว ถ้าหากวันนี้มาพูดคุยกัน แสดงถึงความรับผิดชอบอย่างเปิดเผยต่อสาธารณชน ตนก็คงจะรู้สึกดีกว่านี้ ส่วนอาการของน้องเอยในช่วงเช้าแพทย์ต้องนำเข้าเครื่องสแกนสมองอีกครั้งเนื่องจากพบว่ามีภาวะไตผิดปกติ ซึ่งทางแพทย์ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าอาการของน้องเอยนั้นจะดีขึ้นหรือแย่ลงอย่างไร ต้องรอดูผลการสแกนสมองก่อน
ด้าน พ.ต.อ.บุญชินวุฒิกุล ผกก.สภ.บางปู เปิดเผยว่า สำหรับคดีดังกล่าวนั้นตนต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และดำเนินคดีต่อผู้ที่กระทำผิดอย่างถึงที่สุด ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาต่อ น.ส.ดาวรอง ศรีสุมัง พี่เลี้ยงเด็กไปแล้ว และออกหมายเรียกให้นายสันติภาพ หวานใจ คนขับรถตู้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ ในข้อหาเดียวกันคือ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ไม่มา และไม่ได้ติดต่อมายังพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด
ส่วนนางอนงค์ คีรีวงษ์ ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตนั้น ได้ให้ทนายความแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่าเกิดอาการเครียดจนต้องเข้าโรงพยาบาลจึงไม่สามารถมาพบตามหมายเรียกได้ และขอนัดเข้าพบอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 8 เม.ย. 56 เวลา 10.00 น. ซึ่งในส่วนของผู้ได้รับใบอนุญาตนั้นคงต้องรอการสอบสวนโดยละเอียดอีกครั้งว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำที่ประมาทในครั้งนี้หรือไม่ ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป และหากไม่มาตามนัดนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็จะต้องออกหมายจับต่อไป