xs
xsm
sm
md
lg

สลด! ครูอนุบาลลืมเด็กหญิง 3 ขวบในรถ ร.ร.กว่า 7 ชม.โคม่าไร้การตอบสนอง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นางรัตนา นครโสภา อายุ 34 ปี มารดาของเด็กหญิงวัย 3 ขวบ เข้าร้องเรียนต่อมูลนิธิปวีณา
สุดสลด! ครูอนุบาลลืมเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ชั้นอนุบาล 1 ในรถตู้รับส่งนักเรียนนานกว่า 7 ชม. แพทย์ชี้อาการหนักขาดอากาศ สมองบวม ชักเกร็ง ไม่รู้สึกตัว เข้าขั้นโคม่า ด้านแม่ร้องปวีณาช่วย!!!

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (4 เม.ย.) ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สื่อมวลชนจำนวนมากมารอทำข่าวอาการเด็กหญิงอนุบาลวัย 3 ขวบ ที่พักรักษาอาการทางสมองเนื่องจากขาดอากาศหายใจเนื่องจากติดอยู่ในรถโรงเรียนกว่า 7 ชั่วโมง ซึ่งได้รับรายงานจากเลขาฯ ส่วนตัวของนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่ามีมารดาของ ด.ญ.อายุ 3 ขวบ นักเรียนอนุบาล 1 โรงเรียนอนุบาลอนงค์เวท ย่านถนนพุทธรักษา ต.แพรกษาใหม่ จ.สมุทปราการ มาร้องขอความเป็นธรรมกับมูลนิธิฯ โดยเล่าว่า เมื่อเช้าวานนี้ (3 เม.ย.) ตนได้ส่งลูกสาวขึ้นรถตู้โรงเรียนเพื่อไปเรียนตามปกติ ต่อมาทราบภายหลังว่าลูกสาวหมดสติ และครูได้นำตัวไปส่งที่ รพ.สมุทรปราการ แต่เด็กอาการไม่ดีขึ้น ตนจึงนำตัวไปรักษาต่อที่ รพ.กรุงเทพ โดยเบื้องต้นมารดาคนดังกล่าวแจ้งว่าสาเหตุที่ลูกสาวหมดสติเพราะครูที่นำตัวลูกสาวขึ้นรถได้ลืมลูกสาวตนไว้ในรถตู้ เนื่องจากลูกนอนหลับตั้งแต่เช้า จนประมาณเวลา 15.00 น.จึงทราบว่าลืมเด็กไว้ในรถตู้จึงนำตัวส่ง รพ.ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานอาการของเด็กหญิงวัย 3 ขวบเบื้องต้นว่าไม่มีการตอบสนอง นอนแน่นิ่งไม่รู้สึกตัว โดยแพทย์เจ้าของไข้ระบุว่าเด็กมีอาการหนัก สมองบวม ชักเกร็งตลอดเวลา ต้องนอนรักษาตัวที่ห้องไอซียูของ รพ.กรุงเทพ ซึ่งในเวลาประมาณ 11.00 น.วันนี้ นางปวีณาจะเดินทางไปเยี่ยมเด็กหญิงเคราะห์ร้ายรายนี้ด้วยตนเอง

ต่อมานางปวีณา ได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของ "น้องเอย" นักเรียนอนุบาลที่ถูกส่งมารักษาอาการสมองบวมจากการขาดออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงสมองและอาการยังโคม่าที่ ร.พ.กรุงเทพ หลังได้รับการร้องเรียนจาก นางรัตนา นครโสภา อายุ 34 ปี มารดาของเด็กว่า เด็กถูกลืมไว้ในรถตู้ ซึ่งเป็นรถรับส่งนักเรียน นานร่วม 7 ช.ม.

นางรัตนา เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา รถตู้รับส่งนักเรียนของโรงเรียนได้มารับ "น้องเอย" ไปโรงเรียน เวลา 07.30 น. จากนั้น ในช่วงเย็น ทางโรงเรียนได้โทรศัพท์มาแจ้งตนทราบว่าน้องเอยหมดสติและถูกส่งตัวไปที่ ห้องไอซียู ร.พ.เมืองสมุทร ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครูอนุบาล ได้เล่าถึงสาเหตุ ของอาการหมดสติของน้องเอยว่า หลังจากคนขับรถตู้จอดรถให้นักเรียนลงจากรถแล้ว น้องเอย ได้วิ่งย้อนขึ้นไปบนรถอีกครั้ง เพราะลืมกระเป๋า ขณะเดียวกัน คนขับรถ ก็ได้ขับรถออกไปจอดด้านนอกโรงเรียน นานนับ 7 ชั่วโมง จนถึงช่วงเวลาเลิกเรียน ก็พบว่า น้องเอย นอนหมดสติอยู่ในรถ จึงนำตัวส่ง ร.พ.ดังกล่าวทันที

อย่างไรก็ตาม นางรัตนา ยังไม่ปักใจเชื่อว่า น้องเอย จะย้อนไปหยิบกระเป๋าเองตามคำกล่าวอ้างของครู แต่คาดว่า น้องเอย อาจหลับอยู่ในรถ แต่ครูไม่ตรวจสอบให้ดีเสียก่อน ทำให้ลูกของตนต้องมีอาการสาหัสเช่นนี้

ทั้งนี้ นางปวีณา กล่าวว่าในส่วนของคดีความนั้น จะได้ประสานไปทาง ผู้กำกับการ สภ.เมืองสมุทรปราการ ที่ได้มีการแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว พร้อมกันนี้ จะได้ประสานไปยัง กระทรวงศึกษาธิการ ให้เข้ามาตรวจสอบเรื่องของ การจัดระเบียบการรับส่งนักเรียน ให้มีความรอบคอบมากยิ่งขึ้น

ด้านแพทย์หญิง เสาวนีย์ ชัยศุภรัศมีกุล กุมารแพทย์ด้านทางเดินหายใจและเวชบำบัดวิกฤติเด็กโรงพยาบาลกรุงเทพ เปิดเผยอาการของน้องเอยว่า ทางโรงพยาบาลได้รับตัวคนไข้มาทำการรักษาเมื่อวานที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าเด็กมีภาวะขาดน้ำและมีการให้น้ำเกลือ เด็กมีอาการชักเกร็ง แพทย์ได้ให้ยากันชัก นอกจากนี้มีการเอ็กซเรย์ ทางคอมพิวเตอร์พบว่าสมองบวม แพทย์จึงให้ยาลดบวม และตรวจเลือด พบว่าผู้ป่วยมีภาวะเลือดเป็นกรด ซึ่งเป็นผลมาจาก สมองขาดออกซิเจน

อย่างไรก็ตามแพทย์ได้ทำการรักษาด้วยการให้ยาเพิ่มความเป็นด่าง ซึ่งขณะนี้ยังคงให้ยานอนหลับแก่ผู้ป่วย เพื่อให้สมองของเด็กได้พัก โดยปกติ อาการในลักษณะนี้ ต้องดูอาการถึงวันที่ 3 ว่าผลการตอบรับการรักษาจะได้ผลมากน้อยเพียงใด

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เข้าเยี่ยมอาการด.ญ.วัย 3 ขวบ
น้องเอย นักเรียนอนุบาลที่ถูกส่งมารักษาอาการสมองบวมจากการขาดออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงสมองและอาการยังโคม่าที่ ร.พ.กรุงเทพ
กำลังโหลดความคิดเห็น