บรรดาสาวพริตตี้เข้าแจ้งความ สน.ทองหล่อ โดยก่อนหน้านี้ได้โพสต์ข้อความว่าต้องการพริตตี้มาเดินขายเครื่องดื่มค็อกเทลให้กับลูกค้าที่ผับย่านสีลม ต่อมาถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอกเงินสูญไปกว่า 2 แสน มือถือ 15 เครื่อง
วานนี้ (4 เม.ย.) เวลา 21.30 น. ร.ต.ท.อุทัย จอมพุทรา พงส.สน.ทองหล่อ รับแจ้งจาก น.ส.วัลลี หรือมิ้นท์ เซ็งดา อายุ 20 ปี พร้อมด้วย น.ส.แอน (นามสมมติ) อายุ 20 ปี และบรรดาพริตตี้รวม 9 คน ให้ช่วยติดตามจับกุม น.ส.เรย์ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง อายุประมาณ 30 ปี หลังขโมยทรัพย์สินของพวกตนหลบหนีไป
น.ส.แอนกล่าวว่า พวกตนมีอาชีพเป็นพริตตี้ และรับจ้างถ่ายโฆษณาแบบฟรีแลนซ์ เมื่อช่วงบ่ายเห็น น.ส.วัลลีเข้ามาโพสต์ข้อความประกาศในห้องแชตพริตตี้ทางแบล็กเบอร์รี ว่าวันนี้ต้องการพริตตี้มาเดินขายเครื่องดื่มค็อกเทลให้ลูกค้าที่ผับย่านสีลม ทำงาน 4 ชั่วโมงได้เงิน 1,200 บาท และจะได้ส่วนแบ่งจากการขายเครื่องดื่มอีกแก้วละ 150 บาท ตนสนใจจึงสมัครเข้าไปทำงาน จากนั้น น.ส.วัลลีก็นัดให้มาเจอที่หน้าปากซอยสุขุมวิท 33 ก่อนในเวลา 19.00 น. เมื่อมาถึงก็พบผู้เสียหายคนอื่นๆ มารออยู่ที่ปากซอยดังกล่าวด้วย แต่ น.ส.วัลลียังมาไม่ถึงจึงโทรศัพท์ไปหา น.ส.วัลลีบอกว่ากำลังเดินทาง แต่ได้ให้ น.ส.เรย์มารอพบพวกตนอยู่ที่หน้าปากซอยดังกล่าวก่อนแล้ว จึงเดินไปหา น.ส.เรย์ไม่นาน น.ส.วัลลีก็เดินทางมาถึง
จากนั้น น.ส.เรย์และ น.ส.มิ้นท์ก็พาพวกตนเข้าไปที่ร้านแห่งหนึ่งภายในซอยดังกล่าว โดยบอกว่ามีการเปลี่ยนแปลงสถานที่เล็กน้อย เมื่อไปถึงกลับเป็นบาร์ญี่ปุ่นจำชื่อไม่ได้ อยู่ในทาวน์เฮาส์สูง 3 ชั้น 1 คูหา ภายในร้านมีผู้หญิงนั่งดริงก์หลายคน น.ส.เรย์ได้พาขึ้นไปชั้นบนพบเจ้าของร้านเพื่อพูดคุยเรื่องงาน ก่อนพาไปที่ห้องแต่งตัว ขณะแต่งตัว น.ส.เรย์ออกอุบายว่าต้องเก็บของไว้ที่ล็อกเกอร์ และอาสาเอาไปเก็บให้ พวกตนก็เชื่อใจเพราะเห็นว่ามากับ น.ส.วัลลี เลยให้นำกระเป๋าไปเก็บ ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงเห็นผิดสังเกตจึงให้ น.ส.วัลลีไปดู ปรากฏว่า น.ส.เรย์ได้หายตัวไปพร้อมกับทรัพย์สินของพวกตน มีโทรศัพท์มือถือประมาณ 15 เครื่อง และเงินสดจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท ถึงรู้ว่าถูกหลอกเสียแล้ว พอสอบถาม น.ส.วัลลีก็บอกว่าเพิ่งรู้จักกับ น.ส.เรย์ ทำให้พวกตนเกิดความสงสัยว่า น.ส.วัลลีจะมีส่วนรู้เห็นกับ น.ส.เรย์ด้วยหรือไม่ เพราะเป็นคนให้ น.ส.เรย์พาไปที่ร้าน จึงให้ น.ส.วัลลีแสดงความบริสุทธิ์ใจเดินทางมาแจ้งความที่ สน.ทองหล่อไว้เป็นหลักฐานด้วยกัน
ร.ต.ท.อุทัยกล่าวว่า สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นลักษณะของการลักทรัพย์ และอาจเป็นพวกแก๊งต้มตุ๋น ยังไม่สามารถระบุได้ว่าใครมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ ต้องรอสอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียดให้ครบทุกคนก่อน แต่ได้ให้ฝ่ายสืบสวนออกติดตามตัว น.ส.เรย์แล้ว พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในซอยดังกล่าวเพื่อหาตัว น.ส.เรย์ว่าเป็นใคร เพื่อขออนุมัติหมายจับตามภาพถ่ายต่อไป
