พลิกลิ้นตำรวจ “บ่อนการพนัน-ตำรวจ” แยกไม่ออก “ผีเน่ากับโลงผุ”

สน.พระอาทิตย์ / สามยอด

ท่าจะกลายเป็นว่าเวลานี้วลียอดฮิตของ “เดอะแจ๊ด” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เจ้าพ่อนครบาลที่เคยโด่งดังสะท้านเมืองไม่อายประชาชีที่ว่า “มีวันนี้เพราะพี่ให้” คงจะใกล้ถึงตอนจบเสียแล้วกระมังจริงๆ เพราะหลังจากถูกปฏิบัติการ “ตบหน้า” เสียฉาดใหญ่! กับปฏิบัติการสายฟ้าแลบของตำรวจคอมมานโด กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปราม (ปพ.บก.ป.) ที่นำหมายค้นศาลแขวงพระโขนง บุกเข้าตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ 146/65 ซอยปรีดีพนมยงค์ 10 ถนนสุขุมวิท 71 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา ภายหลังได้รับการร้องเรียนว่า สถานที่ดังกล่าวลักลอบเปิดเป็นบ่อนการพนันรายใหญ่ ชื่อ “บ่อนแม่โห้” โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนักพนันได้ทั้งหมด 300 คน พร้อมยึดของกลาง ทั้งไพ่ เงินสด และชิปแลกเงินจำนวนมาก ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโดกองบังคับการปราบปราม ยังแบ่งกำลังอีกชุดบุกเข้าจับบ่อนการพนัน “เฮียตือ หรือ อ้วนอุดมสุข”ภายในซอยอุดมสุข 25 ในท้องที่ สน.บางนา ได้ผู้ต้องหากว่า 90 คน พร้อมของกลางจำนวนหนึ่ง ในช่วงกลางดึกของวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา
“แจ๊ด”ออกอาการเบลอเล็กน้อยก่อนจะตั้งรับทันในรุ่งสางของเช้าวันที่ 24 มี.ค.ด้วยการสั่งเด้งฟ้าผ่า!!! พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผกก.สน.คลองตัน พ.ต.อ.กัญชล อินทราราม ผกก.สน.บางนา พร้อมลูกน้องที่รับผิดชอบด้านงานป้องกันปรามปราม และสืบสวนสอบสวน ทั้ง 2 โรงพักเข้ามาช่วยบราชการที่กองบัญบชาการตำรวจนครบาลเป็นเวลา 30 วัน ก่อนที่จะมีคำสั่งย้ายฟ้าผ่าของเจ้ากรมปทุมวัน อย่าง “บิ๊กอู๋” พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ตามมาติดๆ ที่มีคำสั่งด่วนทางวิทยุสื่อสารให้ พล.ต.ต.กฤษฏิ์ เปียแก้ว ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 พ.ต.อ.ชัชชาย คล้ายคลึง ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม พร้อมด้วยผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทั้ง 2 พื้นที่มาปฏิบัติราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ส่วนกลุ่ม รอง ผกก.ป., สว.สส.และ สวป.ให้ ผบช.น.และ ผบช.ภ.7 สั่งให้ปฏิบัติราชการในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้สำนักงานจเรตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงให้เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน

งานนี้ทำเอา “บิ๊กอู๋” ถึงกับลมออกหู! เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสเข้าหู ผบ.ตร.มาก่อนแล้วว่าพื้นที่ บก.น.5 ของ พล.ต.ต.กฤษฏิ์ เปียแก้ว ผบก.น.5 มีการลักลอบเล่นการพนันในพื้นที่ ตลอดจนมีเรื่องบ่อนออนไลน์ที่เปิดเป็นร้านเกมอินเทอร์เน็ตบังหน้า ย่านพื้นที่อุดมสุข ยันถึงซอยปรีดีพนมยงค์ จำนวนกว่า 17 ร้านด้วยกัน ภายใต้ชื่อรหัส 888,555 ซึ่งเป็นที่รู้กันในวงการนักเล่นว่ามีนายตำรวจใหญ่ในพื้นที่ บก.น.5 ท่านหนึ่งคอยเป็นแบล็กอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเรื่องนี้ “บิ๊กอู๋” ไม่ได้เพิกเฉยแต่อย่างใด ได้มีการเรียก ผบก.น.5.มาสอบถามและเตือนให้ปัดกวาดพื้นที่ตนเองให้สะอาดเรียบร้อยแล้วไปก่อนหน้านี้แล้วไม่นานนัก ก่อนที่จะถูกกองปราบบุกเข้าจับกุม “บ่อนแม่โห้” และ “บ่อนเฮียตือ” จนเป็นเรื่องฉาวโฉ่
แต่เหมือนกับว่าคำเตือนดังกล่าวของเจ้ากรมปทุมวันจะไม่ค่อยก้องกังวานในโสตประสาทแก้วหูตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาสักเท่าไรนัก พื้นที่ บก.น.5 จึงยังคงปล่อยให้มีการเล่นพนันและเปิดบ่อนออนไลน์เหมือนเช่นเคยโดยไม่แยแสต่อคำเตือนประกาศิตของเจ้ากรมปทุมวัน...

จึงเป็นที่มาของคำสั่งเด้งฟ้าผ่า พล.ต.ต.กฤษฏิ์ เปียแก้ว ผบก.น.5 ด้วยประการฉะนี้!!!

ล่าสุด “เดอะเเจ๊ด” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ออกมายอมรับถึงเรื่องการจับบ่อนในพื้นที่นครบาลเป็นเพราะที่ผ่านมามุ่งเน้นกำลังตำรวจส่วนใหญ่ไปที่การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ทำให้เกิดช่องว่างมีการลักลอบเปิดบ่อนการพนันในหลายพื้นที่ ซึ่งหากจะมองว่าเป็นเรื่องความบกพร่องก็ยินดีน้อมรับ ขณะเดียวกัน ต้องขอบคุณนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ที่ออกมาเปิดข้อมูลเรื่องบ่อนการพนัน เพราะถือว่าเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ และมองว่าไม่ใช่เป็นการดิสเครดิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลมากพออยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องประสานขอข้อมูลเพิ่มเติม

“แจ๊ด”ยังพูดถึงกรณีติดตู้แดงสายตรวจหน้าบ่อนแม่โห้ ซอยปรีดีพนมยงค์ 10 ว่า เรื่องนี้ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้จเรตำรวจลงมาสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว เชื่อว่าจะได้รับความกระจ่างอย่างเป็นธรรมในเร็วๆ นี้ หากการที่นอกหน่วยเข้ามาจับบ่อนพนันในนครบาลมีผลกระทบต่อตำแหน่ง ผบช.น.ก็ไม่หนักใจ และพร้อมทำงานรับใช้ประชาชนได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใด เรื่องการจับกุมบ่อนพนัน และแหล่งอบายมุข ตนได้สั่งกำชับไปตามนโยบายของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ที่สั่งการให้เข้มงวดอย่างชัดเจน ต้องขอขอบคุณนโยบาย ผบ.ตร.และขอบคุณกองปราบปรามที่ช่วยสอดส่องดูแล เพราะขณะนี้ในพื้นที่นครบาลมีคดีอาชญากรรมเกิดขึ้นมาก กำลังตำรวจมีน้อย แต่ตนไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ ขอให้ทุกคนสบายใจได้ ขอให้ทุกพื้นที่ช่วยกันปฏิบัติตามนโยบายอย่างเคร่งครัดด้วย ต่อไปถ้าอาชญากรรมคุมได้แล้วก็ต้องเคร่งครัดเรื่องการปราบปรามอบายมุขให้หมดไป

และนี่คือลิ้นตำรวจไทยทุกยุคทุกสมัยที่มักจะใช้พูดเสมอเมื่อมีการจับกุมปราบปรามบ่อนการพนันในพื้นที่นครบาลตลอดจนพื้นที่ภูธรทั่วประเทศ!!!

เเว่วมาวันที่ 4 เมษายน ที่จะถึงนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี นัดประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เวลา 15.00 น.ที่ห้องประชุม 1 อาคาร 1 ตร.โดยมีวาระการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับ ผบก.-รอง ผบช.นอกวาระประจำปี 2556 มีรายงานว่าในการประชุม ก.ตร.ครั้งนี้จะมีการบรรจุวาระการรับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ กลับเข้ารับราชการ หลังจากเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา กกต.ได้รับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

และที่น่าจับตามมองเป็นพิเศษ คือ ตำแหน่ง ผบช.น.เนื่องจากก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องว่าอาจมีการโยกสลับกับ พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 เนื่องจากผลงานที่ผ่านมาของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ไม่เข้าตารัฐบาล โดยเฉพาะผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่เพิ่งผ่านพ้นไป ขณะที่ล่าสุดก็ถูกตำรวจคอมมานโด กองปราบปราม บุกจับกุมบ่อนการพนันขนาดใหญ่ในพื้นที่ บช.น. ถึง 2 แห่ง

หากเป็นจริงตามการคาดการณ์ ก็ถือเป็นการสิ้นสุดวลียอดฮิต “มีวันนี้เพราะพี่ให้” และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ต้องไปเขียนข้อความสลักข้างฝาใหม่ว่า “พี่ให้น้องได้พี่ก็ขอคืนได้”

ส่วนเรื่องปัญาหา “บ่อนการพนัน” กับตำรวจนั้นต้องยอมรับว่าเปรียบเสมือน “ผีเน่ากับโลงผุ” ที่แยกกันไม่ออกจริงๆ

ไม่มีหรอกคำว่า “ไม่รู้-ไม่เห็น” การเปิดบ่อนหรือการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ เพราะตำรวจไทยจมูกดี-ตาไว ยิ่งกว่า “แมลงวัน” ที่ไหนมีกลิ่นโชยมาแมลงวันมักเข้าไปดอมดมดูดน้ำเลือดน้ำหนองเสมอ

“เจ้าพ่อบ่อน-เจ้าแม่บ่อน”ส่งส่วยไม่ถึงโควต้า อ้างคนเล่นน้อย วงเงินไม่เข้าเป้า ยังตบตาตำรวจไทยไม่ได้เลย...

ไม่มีเม็ดเงินบ่อนการพนันมาหล่อเลี้ยงกิจการตำรวจ ในงานสืบสวนฯติดตามจับกุมคนร้ายก็คงยากลำบากเช่นกัน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมัน,ค่าที่พัก, ค่าเช่ารถ, เงินล่อซื้อ, ค่าสายข่าว และค่าใช้จ่ายอีกจิปาถะในการแฝงตัวเข้าไปสืบสวนจับกุมตัวคนร้าย ฯลฯ ตำรวจสืบสวนเก่งๆ บางนายจึงออกปากโวยเหมือนกัน “ไม่ให้เอาเงินบ่อนแล้วจะให้ไปเอาเงินที่ไหนมาทำงานสืบฯกัน”

บ่อนการพนันไม่มีทางหมดไปอย่างแน่นอน หากตำรวจไทยยังต้องหาเงินเองไม่มีงบมาสนับสนุนงานสืบสวนสอบสวน นายเฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะตำรวจเก่า สารวัตรกองสืบ 2 กองปราบปราม น่าจะเข้าใจปัญหาได้ดีที่สุดและผลักดันให้มีการปรับปรุงโครงสร้างตำรวจไทยใหม่เสียที