xs
xsm
sm
md
lg

ทลายบ่อนพนันกลางกรุง ดีด “คำรณวิทย์” พ้นนครบาล?

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)
สน.พระอาทิตย์ / สามยอด
เพียงแค่ไม่กี่วัน พื้นที่กรุงเทพฯในความดูแลของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ที่มี “แจ๊ด” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เป็น ผบช.น.มีการทลายบ่อนการพนันขนาดใหญ่กลางกรุงถึง 2-3 แห่ง จับกุมนักพนันหลายร้อยราย ยึดเงินพนันมูลค่าหลายสิบล้านบาท

รายแรกเปิดฉากด้วยตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.คันนายาว บุกเข้าทลายบ่อน “ทวี คันนายาว” ซึ่งใช้ตึกแถวเลขที่ 5/1 ในชุมชนสุขอนันต์ ซอยกาญจนาภิเษก 9 แยก 7 เขตยานนาวา เปิดเป็นบ่อนพนันไฮโล (ไฮเทค) จับกุมนักพนันได้ทั้งหมด 37 ราย แบ่งเป็นชาย 16 คน และหญิง 21 คน พร้อมยึดของกลางเป็นอุปกรณ์การเล่นพนันไฮโล ชิปแลกเงิน และเงินสดจำนวนหนึ่ง

ถัดมาอีกเพียงวันเดียว เวลาประมาณ 21.00 น.ครั้งนี้เปิดปฏิบัติการพร้อมกัน 2 จุด จุดแรก พ.ต.อ.อธิป แท่นนิล ผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท.วีรปรัชญ์ วงศ์รัตน์ รอง ผกก.ปพ.บก.ป.นำกำลังตำรวจชุดคอมมานโดกองบังคับการตำรวจปราบปราม (บก.ป.) กว่า 100 นาย บุกเข้าทลาย“บ่อนแม่โห้” ตั้งอยู่ภายในบ้านเลขที่ 146/65 ซอยปรีดีพนมยงค์ 10 ถนนสุขุมวิท 71 เขตวัฒนา ซึ่งใช้ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น 4 คูหา 80 ตารางวา เปิดเป็นบ่อนการพนัน

บ่อนแม่โห้บ่อนนี้ถือเป็นบ่อนขนาดใหญ่กลางเมืองที่ขึ้นชื่อในหมู่นักพนัน บริเวณทางเข้ามีเครื่องตรวจจับอาวุธ กล้องวงจรปิด และมีหลังคากันสาดปิดอย่างมิดชิด นอกจากนี้ยังมีตู้แดงของ สน.คลองตัน ติดตั้งอยู่บริเวณหน้าบ้านด้วย

เจ้าหน้าที่จับกุมเจ้ามือและนักพนันทั้งชายและหญิง ได้จำนวน 245 ราย สามารถตรวจยึดของกลาง ประกอบด้วยโต๊ะพนันทั้งหมดเกือบ 20 โต๊ะ โดยเป็นโต๊ะพนันบาคารา 11 โต๊ะ โต๊ะถั่ว 1 โต๊ะ และโต๊ะพนันของแขกวีไอพีอีก 6 โต๊ะ เงินสดกว่า 2 ล้านบาท ชิปแลกเงินมูลค่าตั้งแต่ 1,000-100,000 บาท มูลค่าของกลางไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท รวมถึงอุปกรณ์การพนันอื่นๆ อาทิ กระดาษจดแต้ม, ไพ่และเครื่องสับไพ่ วิทยุสื่อสาร

อีกจุดกำลังตำรวจอีก 30 นาย นำบุกเข้าทลายบ่อนการพนัน “เฮียตือ” ย่านอุดมสุข 25 พื้นที่ สน.บางนา ซึ่งเปิดให้มีการลักลอบเล่นการพนันไฮโล ไฮเทค จับกุมนักพนันได้กว่า 90 ราย ยึดของกลางทั้งอุปกรณ์การเล่นพนัน เงินอีกจำนวนหนึ่ง

การเปิดปฏิบัติการทลายบ่อนพนันครั้งใหญ่ครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องธรรมดา โดยเฉพาะการทลาย “บ่อนแม่โห้”และ “บ่อนตืออุดมสุข” เพราะตำรวจที่เข้าไปจับกุมเป็นตำรวจนอกหน่วย เป็นชุดเฉพาะกิจ ที่ได้รับคำสั่งมาจากพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก.ให้เข้าดำเนินการ ยกเว้นบ่อน “ทวี คันนายาว” ที่ตำรวจท้องที่จมูกไวกวาดบ้านตัวเองก่อนที่หน่วยงานจะมาช่วยกวาด

“บ่อนแม่โห้” เป็นที่รู้จักในหมู่นักพนันว่าเปิดให้มีการเล่นหลายประเภท อาทิ บาคารา ไพ่ ถั่ว ไฮโลไฮเทค มี นางจรูญ มุดเจริญ หรือ แม่โห้ อายุ 80 ปี ซึ่งเคยถูกตำรวจสอบสวนกลาง บุกเข้าทลายเมื่อปี 2550 เป็นเจ้าของ มี “ฮั่งเซี๊ยะ” ผู้กว้างขวางในด้านพนันเข้ามาเช่าขอนเปิดโต๊ะพนัน เรียกลูกค้าขาประจำให้เข้ามาเล่น

“บ่อนเฮียตือ” ส่วนใหญ่จะเปิดเป็นบ่อนพนันไฮโล ซึ่งบ่อนเฮียตือก่อนหน้านี้ก็ถูกตำรวจจับมาแล้ว แต่เป็นบ่อนไฮโลแถวแยกโรงไม้ พื้นที่ สน.โชคชัย “เฮียตือ”รายนี้เป็นที่รู้จักทั้งนักพนันและตำรวจว่ามีชื่อเสียงและคุ้นเคยกับผู้ใหญ่ในนครบาลบางคน

การเข้าจับกุมครั้งนี้จึงดูสอดรับกับนโยบายของ พล.ต.อ.อดุลย์ เมื่อวันที่ 18 มี.ค.2556 หลังจาก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบนโยบายการทำงานให้ตำรวจระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ขึ้นไป จำนวน 200 นาย ที่ห้องประชุม 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตอนหนึ่ง พล.ต.อ.อดุลย์ เน้นย้ำเรื่องการกวดขันอบายมุขเป็นพิเศษ

“ผมติดตามรับฟังมาตลอด บ่อน อุปกรณ์เล่นไฟฟ้า จับยี่กี ตู้ม้า หมดเวลาแล้ว จากนี้ต้องเคร่งครัด หากเกิดซ้ำในพื้นที่ผมเอากำลังส่วนกลางลงไปจับ ไม่มีใครช่วยท่านได้ อย่าเชื่อใคร เอาให้รอด ที่สังขละบุรี (จ.กาญจนบุรี) เพื่อนผมเอง เรื่องค้ามนุษย์ ผมย้ายเอง ย้ำอีกครั้ง ตู้ม้า เครื่องไฟฟ้าต่างๆ อย่าให้มี ผมปล่อยมา 5 เดือนแล้ว ผมไม่พูดเล่น จากนี้เอาจริง ผมทำจริง...

...ช่วงนี้ผมจะตรวจเยี่ยมถี่ฝากไปเตือนหัวหน้าสถานี ผมไปตรวจทำให้ดี จากนี้ผ่านมา 5เดือนต่อไปอีกก็ 10 เดือน 12 เดือนที่สั่งการไป หากผมให้ทำแล้วทำไม่ได้ ผมไม่เกรงใจ ผมหิ้วบ่อย ถ้าไม่ทำตามที่ผมพูดก็อย่าทำ ผมเอาคนอื่นไปทำแทน ให้เกียรติผม ทำตามที่ผมสั่ง ไม่เช่นนั้นผมหิ้ว ให้ ศปก.จัดที่นั่งเผื่อไว้แล้ว”

เชือดไก่ให้ลิงดู???

ก็อาจจะเป็นได้กับปฏิบัติการทลายบ่อนเมืองหลวงครั้งนี้ได้ แต่ก็ดูน่าจะเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะหากจะแค่เชือดไก่ให้ลิงดู บ่อนเล็ก บ่อนน้อย บ่อนขนาดกลางๆ ก็มีเป็นดอกเห็ดให้สามารถนำมาเชือดโชว์ได้ แต่การพุ่งเป้าบ่อนใหญ่ระดับ “ตำนาน” เมืองหลวง รวมทั้งบ่อนเฮียตือ ดูเหมือนไฟสปอร์ตไลท์จะสาดส่องไปที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ และเก้าอี้ ผบช.น.มากกว่าเหตุผลอื่น

หากจะปราบบ่อนการพนันจริงจัง แค่ส่งสัญญาณ “เอาจริง”ฝีมือระดับคำรณวิทย์ไม่ใช่เรื่องยากที่จะจัดการ ไม่จำเป็นต้องให้ตำรวจนอกหน่วย โดยเฉพาะกองปราบที่มี พล.ต.ท.พงศพัฒน์ ฉายาพันธุ์ ซึ่งเคยมีปมขุ่นเคืองใจกับลูกพี่บิ๊กแจ๊ด อย่าง “สารวัตรเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ลงมาจัดการเอง

ที่สำคัญจนไม่สามารถมองเป็นอื่นไปได้ นอกจากพุ่งเป้าปฏิบัติการตรงมาที่คำรณวิทย์ ก็เพราะดูเรื่องราวต่างๆ จะสอดรับกันอย่างยิ่ง เพราะในช่วงไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา ดูเหมือนข่าวลือนายกฯปูกรรเชียง และพี่ชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เริ่มไม่ปลื้ม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ดังกระหึ่มในแวดวงสีกากี ทั้งเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และเรื่องอื่นๆ จนทำให้เกิดกระแสข่าวมีชื่อ พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 หรือ พล.ต.ท.ภานุ เกิดลาภผล ผบช.สตม.เข้ามาเสียบเก้าอี้ “ผบช.น.” แทน

การจะปรับจะเปลี่ยน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จากเก้าอี้ ผบช.น.คงต้องมีเหตุผลเพียงพอเป็นรูปธรรม ไม่ใช่ใช้แค่ความรู้สึก เพราะนอกจากตอบคำถามสังคมไม่ได้แล้ว ก็ยังไม่สามารถบอกคนกันเองด้วยว่าปรับเปลี่ยนด้วยความผิดอะไร

แต่ถ้าจะใช้ข้ออ้างการปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนการพนัน ซึ่งเป็นนโยบายที่ผู้บังคับบัญชากำชับสั่งการไปแล้ว ก็ดูจะมีน้ำหนักมากพอสมควร เพราะการจะโยก การจะย้าย ตำรวจระดับ “พล.ต.ท.” คนหนึ่ง ต้องได้รับความเห็นชอบจากกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)

ข้อหาปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนการพนันในพื้นที่ เหมือนเป็นการย้อนศรและปิดปากลูกพี่อย่างร.ต.อ.เฉลิม ไม่ให้คัดค้านได้ เนื่องจากก่อนหน้าที่ ร.ต.อ.เฉลิม ก็ใช้วิธีการจับบ่อนการพนันในการกดดัน พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีต ผบ.ตร.ให้สละเก้าอี้เบอร์ 1 กรมปทุมวัน มาเช่นกัน

ปฏิบัติการ “เด็ดดอกไม้กระเทือนถึงดวงดาว” ก็อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้ง จาก “บ่อนแม่โห้” ถึงเก้าอี้ “ผบช.น.” ของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์
กำลังโหลดความคิดเห็น