คืบหน้าคดี 6 ศพ พยานระบุพบชายชุดดำเดินถืออาวุธปืนเอ็ม 16 ในวัด และเห็นปลายกระบอกปืนบนชั้น 2 ของกุฏิพระยิงใส่ทหารบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส ทั้งนี้ศาลได้นัดไต่สวนพยาน ครั้งต่อในวันที่ 25 เม.ย.นี้
วันนี้ (21 มี.ค.) ที่ห้องพิจารณา 402 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลไต่สวนคำร้องชันสูตรการเสียชีวิตคดีหมายเลขดำที่ ช.5/2555 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนชันสูตรการเสียชีวิตของนายสุวัน ศรีรักษา อายุ 30 ปี เกษตรกร ผู้เสียชีวิตที่ 1 นายอัฐชัย ชุมจันทร์ อายุ 28 ปี บัณฑิตคณะนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง ผู้เสียชีวิตที่ 2 นายมงคล เข็มทอง อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ผู้เสียชีวิตที่ 3 นายรพ สุขสถิต อายุ 66 ปี พนักงานขับรถรับจ้างในสนามบิน ผู้เสียชีวิตที่ 4 น.ส.กมนเกด อัคฮาด อายุ 25 ปี พยาบาลอาสา ผู้เสียชีวิตที่ 5 และนายอัครเดช ขันแก้ว อาชีพรับจ้าง ผู้เสียชีวิตที่ 6 ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตภายในวัดปทุมวนาราม ใกล้แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553 ในช่วงสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่แยกราชประสงค์ กระทั่งรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกระชับพื้นที่การชุมนุมของกลุ่ม นปช.
โดย นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความญาติผู้ตายกล่าวว่า ในช่วงเช้าพนักงานอัยการนำพยานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทหารสังกัด ร.31 พัน 2 จ.ลพบุรี ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่บริเวณแยกปทุมวัน-สยามสแควร์ ในช่วงเกิดเหตุ ในวันที่ 19 พ.ค.2553 รวม 3 ปาก เข้าเบิกความ ซึ่งศาลเห็นว่าก่อนหน้านี้พนักงานอัยการก็ได้นำพยานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดดังกล่าวเข้าเบิกความแล้วจำนวนหลายปาก ทำให้ได้ข้อเท็จจริงจากพยานกลุ่มนี้เพียงพอแล้ว และเพื่อให้การพิจารณาคดีมีความรวดเร็วขึ้น จึงให้นำคำให้การของเจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 3 นาย ที่เคยให้การไว้ในพนักงานสอบสวนมาประกอบแทนการไต่สวน ประจักษ์พยาน คดี 6 ศพ วัดปทุมวนาราม เบิกความระบุพบชายชุดดำเดินถืออาวุธปืนเอ็ม 16 ในวัด และเห็นปลายกระบอกปืนบนชั้น 2 ของกุฏิพระยิงใส่ทหารบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส
ทั้งนี้ในช่วงบ่าย พนักงานอัยการได้นำตัว นายอภิสิทธิ์ แสงแก้ว ประจักษ์พยานคดีการเสียชีวิต 6 ศพภายในวัดปทุมวนาราม เบิกความต่อศาลว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทหารกระชับพื้นที่การชุมนุมของ กลุ่ม นปช.นั้น พยานกับเพื่อน รวม 6 คน ถูกชักชวนให้ไปทำบั้งไฟหลังเวที นปช.บริเวณแยกราชประสงค์เพื่อเป็นอาวุธใช้ยิงใส่ทหาร โดยได้รับค่าจ้างวันละ 500 บาท แต่เมื่อทำไป กลับไม่ได้รับค่าจ้างตามที่ตกลงกันไว้ จึงตัดสินใจเลิกทำ และไปอาศัยอยู่ในวัดปทุมวนาราม โดยเห็นกลุ่มชายชุดดำ เดินอยู่บริเวณภายในวัดปทุมวนาราม โดยตอนกลางวันจะไม่มีการพกอาวุธ แต่ตอนกลางคืนชายชุดดำจะถืออาวุธปืนเอ็ม 16 ซึ่งในวันเกิดเหตุ พยานยังเห็นปากกระบอกปืนบนชั้น 2 ของกุฏิพระ ยิงใส่กลุ่มทหารที่เดินตรวจตราอยู่บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสด้วย นอกจากนี้ในวันเกิดเหตุขณะที่พยานและกลุ่มเพื่อนเดินออกจากวัดเพื่อกลับภูมิลำเนา เพื่อนของพยานทั้ง 5 คน ถูกยิงตาย ภายนอกวัดปทุมวาราม ซึ่งไม่เกี่ยวกับ 6 ศพที่ถูกยิงในคดีนี้ ซึ่งพยานก็ตกใจกลัวจึงวิ่งกลับเข้าวัด และได้วิ่งออกจากวัดทางบริเวณด้านหลัง แต่ได้พบกับเจ้าหน้าที่ทหาร ก่อนถูกควบคุมตัวส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ที่ผ่านมาพยานได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมาแล้ว
ภายหลังเบิกความแล้วเสร็จ ศาลนัดไต่สวนพยาน ครั้งต่อในวันที่ 25 เม.ย.นี้ โดยจะนำพยานกลุ่มพนักงานสอบสวนและผู้เชี่ยวชาญการตรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าไต่สวน