xs
xsm
sm
md
lg

ศาลไต่สวน 6 ศพวัดปทุมวนาราม ทหารยันชายชุดดำยิงปืนใส่

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ศาลไต่สวน 6 ศพวัดปทุมวนาราม ทหารยันชายชุดดำยิงปืนใส่ ด้านพยานเผยเสียงปืนมาจากตอม่อรถไฟฟ้า นัดไต่สวนอีกครั้ง 21 มี.ค.นี้

วันนี้ (14 มี.ค.) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดไต่สวนคำร้องชันสูตร การเสียชีวิตคดีหมายเลขดำที่ ช.5/2555 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนชันสูตรสาเหตุการตายของนายสุวัน ศรีรักษา อายุ 30 ปี เกษตรกร ผู้เสียชีวิตที่ 1, นายอัฐชัย ชุมจันทร์ อายุ 28 ปี บัณฑิตคณะนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง ผู้เสียชีวิตที่ 2, นายมงคล เข็มทอง อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ผู้เสียชีวิตที่ 3, นายรพ สุขสถิต อายุ 66 ปี พนักงานขับรถรับจ้างในสนามบิน ผู้เสียชีวิตที่ 4, น.ส.กมนเกด อัคฮาด อายุ 25 ปี พยาบาลอาสา ผู้เสียชีวิตที่ 5 และนายอัครเดช ขันแก้ว อาชีพรับจ้าง ผู้เสียชีวิตที่ 6 ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตภายในวัดปทุมวนาราม ใกล้แยกราชประสงค์ เมื่อ วันที่ 19 พ.ค. 2553 ในช่วงสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี

โดยวันนี้อัยการนำ ร.อ.พนม จันนิลลา ทหารหน่วย ร.31 พัน 2 รอ.จังหวัดลพบุรี ขึ้นเบิกความสรุปว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 ได้รับคำสั่งให้ไปคุ้มกันรถดับเพลิงที่จะเข้าไปดับเพลิงห้างสรรพสินค้าบริเวณเกิดเหตุ โดยเข้าไปทางฝั่งซ้ายของถนนพระราม 1 ผ่านหน้าห้างสยามพารากอน เดินเป็นชุดๆ ละ 4-5 คน โดยชุดของพยานตามหลังชุดของ ร.ท.พิษณุ ทัดแก้ว ซึ่งเดินนำหน้าห่างราว 4-5 เมตร เมื่อไปถึงบริเวณบันไดทางขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามสแควร์ ใกล้แยกเฉลิมเผ่า ได้รับรายงานว่ามีชายหลบซ่อนตัวอยู่หลังตอม่อรถไฟฟ้าข้างหน้า จึงวิ่งขึ้นไปดูบนชั้น 2 ของสถานีรถไฟฟ้า แล้วได้ยินเสียงปืน โดย ร.ท.พิษณุรายงานมาว่ามีชายชุดดำถือปืนยิงมาจากจุดดังกล่าว พยานมอบคลานไป มองไม่เห็นคนยิงเพราะขณะนั้นใกล้มืด เห็นแต่รถแก๊สจอดขวางอยู่บริเวณแยกเฉลิมเผ่า เกรงว่าจะเป็นการล่อลวงให้เข้าไปติดกับดัก จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ โดยขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่บนสถานีรถไฟฟ้ายังมีทหารรบพิเศษคุ้มกันอยู่บนรางรถไฟฟ้าด้วย พยานปฏิบัติหน้าที่โดยมีอาวุธปืนเอ็ม 16 ประจำกายพร้อมกระสุน 20 นัด แต่ไม่ได้ยิง เพราะตามกฎการยิงแล้วหากไม่ถูกบุคคลใดยิงใส่ หรือทำร้ายเอาชีวิต ห้ามใช้อาวุธปืนยิงเด็ดขาด จากนั้นพยานลงมาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าห้างสยามพารากอนจนถึงเช้าวันที่ 20 พ.ค. จนช่วงสายได้เข้าไปตรวจภายในวัดปทุมฯ เมื่อไปถึงบริเวณลานจอดรถ ได้รับรายงานจากลูกน้องว่า พบอาวุธปืนหลายชนิดภายในวัดปทุมวนาราม พร้อมนำมาให้ดูพบเป็นเครื่องยิงระเบิดเอ็ม79 พร้อมกระสุน และวัตถุระเบิดชนิดขว้าง หลังจากนั้นพยานยังปฎิบัติหน้าที่บริเวณแยกเฉลิมเผ่าจนถึงวันที่ 23 พ.ค. จึงเดินทางกลับ จ.ลพบุรี มาทราบภายหลังว่ามีผู้เสียชีวิตภายในวัดปทุมวนาราม

จากนั้นอัยการนำ จ.ส.อ.สมเกียรติ นิลดอน ทหารหน่วย ฉก.37 ค่ายศรีสาคร จ.นราธิวาส เข้าเบิกความว่า ช่วงเช้าวันที่ 19 พ.ค.ได้รับคำสั่งให้ไปอำนวยความสะดวกทางเข้าออกให้กับผู้ร่วมชุมนุม นปช.ที่จะเดินทางกลับบ้านที่บริเวณสนามกีฬาแห่งชาติ เวลาประมาณบ่ายโมงกว่า ทราบว่าแกนนำ นปช.ประกาศยุติการชุมนุม มีประชาชนเดินทางออกมาจากที่ชุมนุมจำนวนมาก ราวบ่าย 3 โมงเห็นมีควันไฟลอยขึ้นมาทราบภายหลังว่ามาจากฝั่งห้างสยามพารากอน มีรถดับเพลิงวิ่งเข้าไปในที่เกิดเหตุ ผู้บังคับบัญชาจึงสั่งให้เคลื่อนที่ไปอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง พยานมีอาวุธปืนทาโวร์พร้อมกระสุนขนาด 5.56 จำนวน 20 นัด เมื่อผ่านแยกปทุมวันเข้าไปได้ประมาณ 100 เมตร ได้ยินเสียงปืนดังขี้นมาจากแยกเฉลิมเผ่า ผู้บังคับบัญชาจึงสั่งให้หลบเข้าที่กำบัง สักพักจึงถอนตัวกลับไปแยกปทุมวัน ราว 5 โมงเย็นจัดกำลังเข้าไปอีกครั้ง โดยพยานไปชุดเดียวกับ ร.อ.พนม พบว่าบริเวณดังกล่าวยังมีควันไฟ รถดับเพลิง และเสียงปืนดังเป็นระยะ แต่ไม่เห็นคนยิง เมื่อ ร.อ.พนมขึ้นไปบนสถานีรถไฟฟ้าบริเวณชั้น 2 พยานก็ได้ตามขึ้นไป ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก สังเกตเห็นเศษปูนคล้ายถูกกระสุนตกลงมา พยานจึงก้มหมอบและคลานไปดูทิศทางปืนที่แยกเฉลิมเผ่า จากนั้นได้ยินเสียงปืนนัดที่ 2 จึงรอสักพักแล้วคลานออกไปดูเห็นชายใส่เสื้อดำวิ่งออกมาจากตอม่อรถไฟฟ้าเข้าไปในเต็นท์ แล้ววิ่งหายไปตามถนน สักครู่มีชายอีกคนวิ่งหลบไปทางเดียวกัน โดยพยานคิดว่าเสียงปืนน่าจะมาจากบริเวณตอม่อรถไฟฟ้า แต่ไม่เห็นคนยิง ภายหลังไต่สวนพยานเสร็จสิ้นแล้ว ศาลจึงนัดไต่สวนพยานครั้งต่อไป วันที่ 21 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
กำลังโหลดความคิดเห็น