ลูกพ่อขุนเลือดร้อน รับเป็นคนเริ่มซัด รปภ.ก่อน จริง เพื่อนไม่มีเอี่ยว พร้อมซัดทอดเพื่อนร่วมรุมกระทืบซ้ำ ตร.เตรียมออกหมายจับ
วันนี้ (21 มี.ค.) พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.หัวหมาก เปิดเผยความคืบหน้า ว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.หัวหมาก ได้นำตัวนายปัญจพล ไปชี้จุดเกิดเหตุเพื่อเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี จากนั้นได้นำตัวส่งศาลอาญารัชดา เพื่อฝากขัง เบื้องต้นญาติได้ยื่นวงเงินประกันตัว 120,000 บาท แต่พนักงานสอบสวนค้านประกันตัว
จากการสอบสวน นายปัญจพล ให้การซัดทอดว่า เพื่อนอีกคนที่ร่วมลงมือทำร้ายนายทวิชาติ คือนายภาสันต์ รอดเกิด อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ซ.พระรามเก้า 62 แขวงและเขตสวนหลวง กทม.ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังประสานติดตามตัวอยู่ และคาดว่าพนักงานสอบสวนจะออกหมายจับในช่วงเย็นวันนี้
พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวว่า สอบสวนนายปัญจพล ได้เล่าถึงวันเกิดเหตุว่า ตนขับรถเก๋งมาเรียนที่ ม.รามคำแหง พร้อมเพื่อนอีก 1 คน แต่ขณะที่กำลังจะถอยรถจอดที่ลานจอดรถ ได้มี รปภ.เดินเข้ามาไล่ตน พร้อมกับด่าว่าจอดตรงนี้ไม่ได้ ตนจึงเปิดกระจกรถ และพูดออกไปว่าให้พูดจาดีๆ หน่อย จากนั้น รปภ.คนดังกล่าวก็เอารั้วเหล็กเลื่อนมาปิดทางรถของตน ตนจึงเดินลงจากรถไปเคลียร์และมีการชกต่อยกันจริง และยอมรับว่าตนเป็นคนเริ่มก่อน แต่ยืนยันว่ามีเพียงแค่ตนกับ รปภ.เท่านั้น เพื่อนตนแค่ยืนดูเฉยๆ ไม่ได้เข้าไปรุมกระทืบตามที่เป็นข่าว จากนั้นก็แยกย้ายกันไปและตนขึ้นไปทำธุระบนอาคารเรียน
ต่อมาเวลา 10.00 น.ตนพร้อมเพื่อนรวม 4 คน กำลังจะไปกินข้าวที่โรงอาหาร
พบ รปภ.คนเดิมเข้ามาพอดี ตนเห็นว่าเขาพูดจาไม่ดีใส่ตน จึงเดินเข้าไปหา แต่ รปภ.กลับวิ่งไปหยิบขวานที่ใช้สำหรับพังประตูเวลาฉุกเฉิน ตนจึงตามไปจนเกิดการยื้อแย่งขวานกัน ขณะนั้นขวานก็ได้บาดเข้าที่ข้อมือขวาของตนเป็นรอยแผลเล็กน้อยด้วย ตนเห็นสู้แรงไม่ได้ จึงบอกให้เพื่อนอีกคนช่วย เพื่อนตนจึงหยิบไม้มาช่วยตี รปภ.คนดังกล่าว แล้วตนก็แย่งขวานมาโยนทิ้ง รปภ.ก็หยิบกระบองออกมาอีก ตนจึงคว้าไม้จากเพื่อนแล้วเราก็เกิดการต่อสู้กัน ที่จริงแล้วคนที่ก่อเหตุมีแค่ตนและเพื่อนตนอีก 1 คน เท่านั้น ไม่ได้มีการรุมกระทืบ 6-7 คน และไม่ได้มีการเอาปืนออกมาข่มขู่ตามที่หลายคนเข้าใจ พวกเราทะเลาะวิวาทกันบนอาคาร จากนั้น รปภ.ก็ถอยร่นไปจนถึงริมรั้ว ตอนนั้นตนยอมรับว่าโมโหจริงๆ แต่ยืนยันว่าตนไม่ได้ทำ รปภ.ขาหัก สามารถพิสูจน์ เพียงแค่ป้องกันตัว เมื่อเห็นว่า รปภ.หัวแตกตนจึงแยกย้ายกันหลบหนี