บช.ปส.แถลงผลจับกุมแก๊งค้ายาบ้าชาวไทยใหญ่พักอยู่ย่านบางแค พร้อมของกลางยาบ้า 4 แสนเม็ด ยาไอซ์ 7 กก. มูลค่ารวมกว่า 140 ล้านบาท รับสารภาพเป็นเครือข่ายจากเหนือ ภายใต้ผู้สั่งการในเรือนจำ จ.นครศรีธรรมราช เตรียมกระจายยานรกลงใต้
วันนี้ (20 มี.ค.) เวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รอง ผบช.ปส. พ.ต.อ.นราธิป ฟักทองพรรณ รอง ผบก.ปส.4 และพ.ต.อ.พรชัย เจริญวงศ์ ผกก. ปฏิบัติราชการ บก.ปส.3 แถลงผลจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดชาวไทยใหญ่ ย่านบางแค ประกอบด้วยผู้ต้องหา 8 คน คือ 1. น.ส.โชศิตา หรือนุก ระโยธี อายุ 26 ปี ที่อยู่ 18 หมู่ 4 ต.หาดนกแก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี 2. นายสามเสา หรือตั๊ม ตาต้าน อายุ 23 ปี ที่อยู่ 130 หมู่ 9 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย 3. นายสรวุธ ชูวิรัตน์ อายุ 33 ปี ที่อยู่ 33/20 หมู่ 1 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช
4. น.ส.เจนจิรา พรมพิราม อายุ 23 ปี ที่อยู่ 182/1 หมู่ 11 ต.ท่าชัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย 5. นายการรันต์ น้อยมา อายุ 33 ปี ที่อยู่ 245 หมู่ 7 ต.ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี 6. นายตาน นามเสาร์ อายุ 25 ปี ที่อยู่ 56 หมู่ 3 ต.เวียงพาคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 7. นายไอลวิน กลิ่นสุวรรณ อายุ 23 ปี ที่อยู่ 570/15 ถ.ลาดปลาเค้า แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. และ 8. นายการุญ หรือเบียร์ สุทธิวิริวรรณ อายุ 35 ปี ที่อยู่ 43 หมู่ 9 ถนนคงคาวงศ์ ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมของกลางยาบ้า 4 แสนเม็ด และยาไอซ์ 7 กิโลกรัม มูลค่ารวมกว่า 140 ล้านบาท และรถยนต์ 2 คัน จักรยานยนต์ 2 คัน และโทรศัพท์มือถือจำนวน 10 เครื่อง จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ขณะส่งยาบริเวณแขวงและเขตดินแดง กทม.
พล.ต.ต.ชาญเทพกล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการส่งยาเสพติดในพื้นที่ทวีวัฒนา จึงได้จัดชุดสืบสวนติดตามและพบว่า น.ส.โชศิตา และนายสามเสา ได้มีการส่งมอบยาเสพติด จึงได้แสดงตนเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง ก่อนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้อีก 6 คน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาเป็นเครือข่ายชาวไทยใหญ่บางแค โดยจะมีคนสั่งการอยู่ในเรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช และมีการนำยาเสพติดล็อตดังกล่าวมาจากจังหวัดเชียงราย ติดกับชายแดนไทย-พม่า เมื่อผู้ต้องหานำยาเสพติดมาพักไว้ที่ย่านบางแคแล้วจากนั้นจะได้รับการว่าจ้างจากนักโทษในเรือนจำให้ขนยาเสพติดไปกระจายในพื้นที่ภาคใต้
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า เป็นขบวนการมาจากทางภาคเหนือรับมาพักไว้ย่านบางแค ก่อนกระจายในพื้นที่ กทม. และกระจายลงไปทางภาคใต้ เช่น จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดภูเก็ต และหาดใหญ่ แต่ครั้งนี้กำลังจะนำส่งไปยังจังหวัดสุพรรณบุรี โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 8 หมื่นบาท ทำมาแล้ว 2 ครั้ง แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการซึ่งเป็นตัวการใหญ่ทางภาคเหนือ พร้อมประสานกรมราชทัณฑ์ให้ตรวจสอบนักโทษภายในเรือนจำ ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป