กาญจนบุรี - รอง ผบช.ภ.7 พร้อมคณะ ลงพื้นที่กาญจน์ เรียกประชุมตำรวจ และรับฟังการชี้แจงแนวทางปฏิบัติการขยายผล และตรวจทรัพย์สินคดียาเสพติดในพื้นที่กาญจนบุรี ชี้ยังพบมีสิ่งที่ต้องเร่งแก้คือการตรวจสอบขบวนการค้ายาเสพติดทุกชนิด และจะต้องสืบสวนว่าผู้ต้องหามีทรัพย์สินอะไรบ้างที่คาดว่าจะได้มาจากการค้ายาเสพติด เพื่อติดตามจับกุมผู้ที่อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีให้ได้
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (10 มี.ค.) ที่ศาลา 60 พรรษามหาราช ถนนริมน้ำ เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (รอง ผบช.ภ.7) พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชต วีระเดชกำแหง ผู้บังคับการประจำตำรวจภูธรภาค 7 (ผบก.ประจำ ภ.7) และนายวัฒนา จอมพลาพล ผู้อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 7 (ผอ.ป.ป.ส.ภ.7) ร่วมรับฟังการชี้แจงแนวทางการปฏิบัติการขยายผลตรวจทรัพย์สินคดียาสเพติด โดยมี พ.ต.อ.มานิตย์ จำลองรักษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เป็นผู้กล่าวชี้แจงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกพื้นที่ของจังหวัดกาญจนบุรี และมี ผกก.จากทุก สภ.เข้าร่วม รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสอบสวนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
พ.ต.อ.มานิตย์ จำลองรักษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ชี้แจงว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี สามารถจับกุมคดียาเสพติดทุกข้อหา ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2555 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2556 จับกุมตัวผู้ผลิตได้ 9 คดี ผู้ต้องหา 9 คน จับกุมผู้จำหน่ายได้ 107 คดี ผู้ต้องหา 114 คน จับกุมผู้ครอบครองยาเสพติดได้ 637 คดี ผู้ต้องหา 647 คน และผู้ต้องหาเสพยาเสพติดได้ 3,068 คดี ได้ผู้ต้องหา 3,068 คน รวมทุกข้อหา 3,978 คน ยึดยาบ้าได้ทั้งหมด 28,282.25 เม็ด ยาไอซ์ 276 กรัม กัญชาแห้ง 2,328.94 กรัม ฝิ่น 97.141 กรัม โดยมีเป้าหมายทั้งหมด 440 ราย ซึ่งจะต้องจับกุมให้ได้ภายใน 1 ปี เราสามารถจับกุมได้จำนวน 184 ราย ในระยะเวลา 5 เดือน คิดเป็นร้อยละ 41.81 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ เป้าหมายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการขยายผลเพื่อติดตามยึดทรัพย์ของขบวนการค้ายาเสพติด จังหวัดกาญจนบุรี มีการตรวจสอบแล้วมีทรัพย์รวมกันที่จะต้องยึดทรัพย์รวม 16,000,000 บาท สามารถทำการยึดทรัพย์ได้แล้วจำนวน 2,908,248 บาท คงเหลืออยู่ 13,091,752 บาท ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจของจังหวัดกาญจนบุรี โดยเฉพาะหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับคดียาเสพติด จะเร่งดำเนินการสืบสวน ตรวจค้น จับกุม ขบวนการค้ายาเสพติดที่เป็นเป้าหมาย รวมทั้งจะสืบสวนหาผู้ค้ารายใหม่ที่กำลังริเริ่ม โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด รวมทั้งจะทำการยึดทรัพย์ของขบวนการค้ายาเสพติดทุกรายให้เร็วที่สุดเช่นกัน
ด้าน พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รอง ผบช.ภ.7 กล่าวว่า การประชุมชี้แจงแนวทางการปฏิบัติ การขยายผล และตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด ตำรวจภูธรภาค 7 จะรับฟังการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ครอบคลุมทุกจังหวัดในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ที่ผ่านมาดำเนินการมาแล้ว 5 จังหวัด
สำหรับจังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ และเป็นจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งยังมีช่องทางเข้าออกหลายช่องทาง ดังนั้น การรับฟังการชี้แจงของเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ ทั้งหมดจะนำไปรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามขั้นตอนต่อไป
แต่อย่างไรก็ตาม เท่าที่รับฟังการชี้แจง พบว่า ยังมีสิ่งที่จะต้องเร่งแก้ไขคือการตรวจสอบขบวนการค้ายาเสพติดทุกชนิดในพื้นที่ โดยหลังจับกุมผู้ต้องหา จากนั้นจะต้องสืบสวนว่า ผู้ต้องหามีทรัพย์สินอะไรบ้างที่คาดว่าจะได้มาจากการค้ายาเสพติด จากนั้นจะต้องทำการขยายผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามจับกุมผู้ที่อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีให้ได้ต่อไป