รวบดาบตำรวจนอกแถว หวังรวยทางลัดค้ายานรก

บช.ปส.แถลงผลจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 3 รายรวด ยึดของกลางกัญชากว่า 700 กก. ยาบ้า 2.6 หมื่นเม็ด เฮโรอีน 1.7 กรัม รายสุดท้ายรวบ ด.ต.สังกัด สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต ได้ของกลางยาบ้าพันเม็ด-ยาไอซ์ สารภาพหวังรอยทางลัด ทำมาแล้ว 2 ครั้ง

วันนี้ (25 ม.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.อาชวันต์ โชติกเสถียร ผบก.ปส.4 พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอาง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.เอิบ คงกล่ำ ผบก.จว.ชุมพร พร้อมเจ้าหน้าที่ชุด ตชด.41 แถลงการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ 3 ราย โดยรายแรกได้ผู้ต้องหา คือ นายเด่น เหวิจิตร อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222 หมู่ 5 ต.บ่อไทย อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ พร้อมด้วยของกลางกัญชาน้ำหนัก 720 กิโลกรัม รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน ถต 1257 กทม. และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยจับกุมได้บริเวณถนนหน้าที่ทำการด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ถ.เพชรเกษม หมู่ 2 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร

พล.ต.ต.ชาญเทพกล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจยานพาหนะชุมพร บช.ปส., บก.สส.ภ.8, ตชด.41, สภ.ท่าแซะ, สภ.มาบอำมฤต, สภ.ปะทิว, สภ.สลุย ได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจบริเวณริมถนนเพชรเกษม หน้าที่ทำการด่านตรวจยานพาหนะชุมพร พบรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน ถต 1257 กทม.ขับผ่านจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจค้นพบกัญชาจำนวน 15 ถุงๆ ละ 15 มัด น้ำหนักประมาณ 720 กก. จึงยึดของกลางทั้งหมดพร้อมสอบสวนโดยผู้ถูกจับกุมให้การว่า นายหนึ่งไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 20 ปี คนจังหวัดอุดรธานี แนะนำให้รู้จักกับนายชาติ ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งติดต่อให้นายเด่นขับรถไปจอดที่ริมถนนกาญจนาภิเษก อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และสั่งให้นายเด่นขับไปจอดที่บริเวณสี่แยกคูหา อ.รัตภูมิ จว.สงขลา ซึ่งมีนายแอร์ ไม่ทราบนามสกุล เป็นคนขับรถกระบะยี่ห้อนิสสันสีดำนำทางไป กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่ด่านตรวจดังกล่าว เบื้องต้นได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 ดำเนินคดีต่อไป

รายที่ 2 เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 56 เวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.4 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.ชุมพร เจ้าหน้าที่ ตชด.41 และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 8 ได้ร่วมจับกุมผู้ต้องหา 4 คน ได้แก่ นายมานะ ดาโฮ๊ะ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/34 ถ.ทรายทอง ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส, นายไฮรูซามัน หะยีขาแดร์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81/5 ซ.3 ถนนชลธารเขต ต.ชลธารเขต ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหโกง-ลก จ.นราธิวาส, น.ส.อ้อย ประทุมวัน อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/94 ถ.บางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ และนางเวียงวิไล หรือกุ้ง ไม่ทราบนามสกุล อายุ 30 ปี สัญชาติลาว พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 26,520 เม็ด เฮโรอีนน้ำหนักประมาณ 1.72 กรัม ยาแก้ไอยี่ห้อบีเฟนดีน จำนวน 50 ขวด และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง จับกุมได้บริเวณหน้าที่ทำการด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ถ.เพชรเกษม หมู่ 2 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจบริเวณริมถนนเพชรเกษม หน้าที่ทำการด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ได้พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีเขียว ทะเบียน วง 5126 กทม.ขับผ่านมายังจุดตรวจจึงเรียกให้หยุด ภายในรถพบผู้ต้องหา 4 คน จึงขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นภายในรถดังกล่าวพบยาบ้า 24,520 เม็ด เฮโรอีนน้ำหนัก 1.72 กรัม ยาแก้ไอ (ยี่ห้อบีเฟนดีน) จำนวน 50 ขวด จากการสอบสวนทั้งหมดให้การรับสารภาพว่ารับยาบ้ามาจาก จ.หนองคาย เพื่อนำไปส่งที่ จ.ยะลา และซื้อยาแก้ไอที่กรุงเทพฯ เพื่อนำไปจำหน่ายที่ จ.นราธิวาส จึงแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมียาแผนปัจจุบันซึ่งเป็นยาอันตราย (ยาแก้ไอยี่ห้อบีเฟนดีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 มาตรา 12 นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สลุย จ.ชุมพร ดำเนินคดีต่อไป

รายสุดท้าย เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2556 เวลาประมาณ 22.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.4 บช.ปส. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.รน. จับกุมตัว ด.ต.สมชาย หรือบอย ธรรมบุตร ผบ.หมู่ฝ่ายสืบสวน สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 323/81 ถ.เยาวราช ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จว.ภูเก็ต พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 1,732 เม็ด ยาไอซ์ น้ำหนัก 40.7 กรัม โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และอาวุธปืนพกสั้นลูกซองแบบไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 1 นัด จับกุมได้บริเวณลานจอดรถหน้าโรงแรมดาวน์ทาวน์อินน์ ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จว.ภูเก็ต

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า ด.ต.สมชาย หรือบอย มีพฤติการณ์จำหน่ายยาบ้าจึงให้สายลับทำการล่อซื้อ ทำทีโทรศัพท์สั่งซื้อนัดสถานที่และเวลา กระทั่งเวลาประมาณ 23.30 น.สายลับเดินทางไปรับยาบ้าจำนวน 250 เม็ด ราคา 39,000 บาท ตามนัดหมายบริเวณลานจอดรถหน้าโรงแรมดาวน์ทาวน์ จ.ภูเก็ต ด.ต.สมชายได้ขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีฟ้า ทะเบียน กษต-373 ภูเก็ต เข้ามาจอดและเดินไปคุยกับสายลับที่ยืนรอข้าง จยย. แล้วนำถุงพลาสติกที่ถือไว้ลงในตะกร้าหน้ารถของสายลับ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมขณะส่งมอบเงิน จากการตรวจค้นใต้เบาะรถพบยาบ้าอีกจำนวน 1,200 เม็ด จากนั้นขยายผลตรวจค้นห้องพักเลขที่ 2/8 ห้องที่ 23 ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก หมู่ 2 ต.พิชิจ อ.เมือง จ.ภูเก็ต พบยาไอซ์อีก 40.7 กรัม จึงจับจับกุมตัว

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเดินทางไปรับยาบ้ามาจากเอเยนต์เครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำ จ.นราธิวาส เที่ยวละจำนวน 2 พันเม็ด ในราคา 240,000 บาท โดยโอนเงินผ่านทางตู้เอทีเอ็ม ก่อนจะนำไปขายต่อให้กับลูกค้ารายย่อยในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ทำมาตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งยาบ้าล็อตหนึ่งจะได้กำไรประมาณ 5 หมื่นบาทต่อครั้ง ทำมาแล้ว 2 ครั้ง จนกระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่ทำไปเพราะตนเคยจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดมาก่อน และเห็นว่าเป็นช่องทางหาเงินได้ง่าย ประกอบกับหลงผิดชั่ววูบถูกความโลภเข้าบังตนจึงหันมาค้ายาดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์และยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองฯ และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองฯ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป