ตำรวจ บช.ปส.แถลงจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด 2 คดีพร้อมของกลางยาไอซ์กว่า 3 กิโลกรัม โดยผู้ต้องหาคดีแรกเป็นชาวกานา อดีตนักฟุตบอลทีมสมุทรปราการเอฟซี เดี้ยง! เตะบอลต่อไม่ได้อ้างเมียกำลังท้องแก่ จึงต้องรับจ้างขนยาเสพติดแลกเงินค่าจ้างเที่ยวละ 5 หมื่นบาท และจำหน่ายพร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวนกว่า 1 กิโลกรัม อีกรายเป็นโชเฟอร์แท็กซี่คนไทยลักลอบขนยาไอซ์จากภาคเหนือร่วม 2 กิโลฯ
วันนี้ (18 ธ.ค.) เวลา 15.30 น. ที่บช.ปส. พล.ต.ต.จิรโรจน์ กี่ศิริ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.อาชวันต์ โชติกเสถียร ผบก.ปส.4 พ.ต.อ.วรวิทย์ ไวถนอมสัตว์ รอง ผบก.ปส.1 บช.ปส. พ.ต.อ.วีระชัย วันกนกกุล ผกก.1 บก.ปส.1 พ.ต.อ.นพดล กาญจนรมย์ ผกก.1 บก.ปส.4 พ.ต.ท.พิชญุตม์ เกียรติกิตติคุณ สว.กก.1 บก.ปส.4 ร.ต.ต.เรวัชร ประจวบสุข รอง สว.กก.1 บก.ปส.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.1 บก.ปส.1 บช.ปส. และกก.1 บก.ปส.4 บช.ปส. (นปส.สามพราน) แถลงจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายสำคัญ 2 คดี โดยคดีแรกประกอบด้วยผู้ต้องหา 2 ราย ได้แก่นายโมเสส Moses Chigozie Nwafor สัญชาติไนจีเรีย อายุ 35 ปี และนายสตีเฟ่น Stephen ofori สัญชาติกานา อายุ 27 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวนกว่า 1 กิโลกรัม และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง จับกุมได้ภายในห้องเลขที่ 834 โรงแรมเฟิร์สโฮเตล แขวงพญาไท เขตราขเทวี กรุงเทพฯ และขยายผลไปยังห้องเลขที่ 302 อาคารพลอยไพลินแมนชั่น แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
พล.ต.ต.จิรโรจน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่านายสตีฟ ไม่ทราบชื่อสกุลจริง มีพฤติการณ์จำหน่ายยาไอซ์ให้กับชาวต่างชาติ จึงวางแผนติดต่อล่อซื้อจากนายสตีฟ โดยนัดหมายส่งมอบยาตามสถานที่ดังกล่าว เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.55 เวลาประมาณ 14.00 น. เมื่อถึงเวลานัดหมายนายสตีฟได้ให้ นายโมเสสและนายสตีเฟ่น เดินทางมาที่ห้องพักเลขที่ 834 โรงแรมเฟิร์สโฮเตล พร้อมถุงพลาสติกสีขาวภายในบรรจุกล่องขนมยูโร่คัสตาร์ด เพื่อทำการส่งมอบยาไอซ์ให้กับทางสายลับและทางสายลับจึงส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัวได้พร้อมของกลางยาไอซ์ 1 กิโลกรัม และสอบสวนขยายผลนำตัวไปตรวจค้นห้องพักนายโมเสส เลขที่ 302 อาคารพลอยไพลินแมนชั่น ก็พบยาไอซ์อีกจำนวน 2.3 กรัม จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวน
จากการสอบสวน นายสตีเฟ่นให้การรับสารภาพว่า ตนนั้นเคยเป็นอดีตนักฟุตบอลทีมสมุทรปราการเอฟซี เมื่อประมาณ 3 ปีมาแล้ว เล่นเป็นตัวเซ็นเตอร์ หลังจากกนั้นมีอาการบาดเจ็บที่ขาเป็นเวลานานทำให้ไม่สามารถเล่นฟุตบอลได้อีกจึงทำให้ไม่มีรายได้เลี้ยงชีพ ประกอบกับภรรยาคนไทยซึ่งกำลังตั้งครรภ์แก่ต้องหาเงินมาใช้ ระหว่างนั้นได้มีนายสตีฟชาวผิวขาวติดต่อตนมาทางโทรศัพท์ให้รับส่งมอบยาโดยจะให้ค่าจ้าง 50,000 บาท ตนจึงไปชักชวนเพื่อนนายโมเสสมาร่วมทำด้วย กระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว ส่วนใหญ่จะนำไปจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วไปทั้งชาวไทยและต่างชาติ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเพิ่มข้อหานายโมเสสมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” และทำการออกหมายจับนายสตีฟตัวการใหญ่ต่อไป
อีกคดี พล.ต.ต.อาชวันต์ โชติกเสถียร ผบก.ปส.4 พร้อมชุดจับกุมได้ร่วมจับกุมตัว นายศักดิ์ดา ประสานเวช อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 178/125 ม.7 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวน 2 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท สามารถจับกุมตัวได้บริเวณตรงข้าม บริษัท โอตานิ จำกัด ม.7 ต.คลองใหม่ อ.สามพราน จ.นครปฐม และขยายผลไปยังอาคาร C8 ชั้น 14 ห้อง 14/52 อาคารเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
โดยนายศักดิ์ดามีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด ซึ่งจะสั่งซื้อยาเสพติดมาจากทางภาคเหนือแล้วมาพักไว้ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เจ้าหน้าที่จึงวางแผนล่อซื้อนัดแนะส่งมอบของกันบริเวณดังกล่าวจนกระทั่งจับกุมตัวได้พร้อมของกลางยาไอซ์ 1 กิโลกรัม จากการขยายผลไปตรวจค้นยังห้องพักย่านเมืองทองธานีก็พบยาไอซ์อีก จำนวน 1 กิโลกรัม
จากการสอบสวน นายศักดิ์ดาให้การรับสารภาพว่า ตนนั้นมีอาชีพขับรถแท็กซี่ได้รับยามาจากเพื่อนชาวเขาซึ่งติดต่อกันทางโทรศัพท์แต่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน มีหน้าที่คอยรับส่งยาเท่านั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่รับอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีและทำการสืบสวนขยายผลหาตัวเจ้าของห้องพักดังกล่าวต่อไป