บช.ปส.แถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ 3 คดี รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 300 ล้านบาท พร้อมของกลางยาบ้าบรรจุก้อน จำนวน 1,000,000 เม็ด รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิคสีขาว ทะเบียน สห 6904 กรุงเทพมหานคร
วันนี้ (26 พ.ย.) เวลา 10.00 น. ที่บช.ปส. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ไชยยา รุจจนเวท ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.อาชวันต์ โชติกเสถียร ผบก.ปส.4 พล.ต.ต.เสรี สามดาว ผบก.ตชด.ภาค 3 แถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ 3 คดี รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 300 ล้านบาท โดยคดีแรกจับกุมนายวรวุฒิ หรือกอล์ฟ ไชยฮะนิจ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/8 หมู่ที่ 2 แขวงบางจาก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ พร้อมของกลางยาบ้าบรรจุก้อน จำนวน 1,000,000 เม็ด รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิคสีขาว ทะเบียน สห 6904 กรุงเทพมหานคร โดยจับกุมได้บริเวณประตู 2 บริษัททีโอทีสำนักงานใหญ่ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ บช.ตชด.ภาค 3 สืบทราบว่านายวรวุฒิเป็นเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำคลองเปรม จะไปขนยาเสพติดจากจังหวัดราชบุรี โดยใช้รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าซีวิค ทะเบียน สห 6904 กรุงเทพฯ จึงได้สะกดรอยตามจนรถมุ่งหน้าเข้ามากรุงเทพฯ ซึ่งนายวรวุฒิได้เลี้ยวเข้าไปในเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร กระทั่งเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 23 พ.ย.55 รถยนต์คันดังกล่าวขับออกมาจากนิคมอุตสาหกรรมฯ เจ้าหน้าที่จึงติดตามมาจนถึงจุดเกิดเหตุ จึงได้แสดงตัวเรียกให้หยุดรถเพื่อขอทำการตรวจค้น ผลจากจากการตรวจค้นพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ที่บริเวณที่เก็บยางอะไหล่ด้านหลังรถยนต์ จึงทำการตรวจยึดของกลางพร้อมควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำตัวฝากขังศาลอาญารัชดาไปก่อนแล้ว
คดีที่สอง จับกุมนายมาหมูด พัจจาวาดี (MAHMOUD POURJAVADI) อายุ 56 ปี สัญชาติ อิหร่าน พร้อมของกลาง ยาไอซ์ชนิดน้ำ บรรจุในขวดไวน์ ยี่ห้อ TAMARI และขวดไวน์ยี่ห้อ BELARBOR จำนวน 2 ขวด น้ำหนักรวม 1,300 กรัม โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อโนเกีย จำนวน 1 เครื่อง รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ สีเงิน หมายเลขทะเบียน ฌฎ-347 กทม. สามารถจับกุมได้ย่านพระโขนง กรุงเทพฯ
เนื่องจาก เจ้าหน้าที่ กก.1, กก.2 บก.ปส.1ฯ ได้รับการประสานมาจากเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา DEA ประจำประเทศไทย ให้ร่วมติดตามเครือข่ายชาวอิหร่านกลุ่มนี้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสายลับเข้าไปติดต่อขอซื้อยาเสพติด เมื่อวันที่ 26 พ.ย.55 โดยนายมาหมูดผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์คันดังกล่าว นำยาไอซ์นัดส่งมอบให้สายลับย่านพระโขนง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมของกลางดังกล่าว จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้เปลี่ยนวิธีการลักลอบขนจากไทยด้วยการนำไปใส่ขวดไวน์เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อนำส่งออกไปขายยังประเทศที่ 3 เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการต่อไป
คดีสุดท้าย จับกุม น.ส.สายธาร แซ่ลิ้ม (MS.SAITHAN SAE-LIM) อายุ 39 ปี สัญชาติไทย พร้อมด้วยของกลางยาไอซ์น้ำหนักรวม 3,000 กรัม กระเป๋าเดินทางชนิดผ้าแบบลากจูง สีดำ ยี่ห้อ LEAVES KING จำนวน 1 ใบ และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อโนเกีย สีดำ จำนวน 3 เครื่อง สามารถจับกุมได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า เมื่อวันที่ 24 พ .ย.55 จะมีหญิงชาวไทย ชื่อ น.ส.สายธาร แซ่ลิ้ม เดินทางมากับสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 332 เพื่อลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาด้วย ต่อมาเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่พบน.ส.สายธาร เดินมารับกระเป๋าที่บริเวณสายพานรับกระเป๋าหมายเลข 14 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแสดงตัวขอตรวจสอบหนังสือเดินทางและเชิญตัวไปตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระ จากการตรวจค้นพบว่าบริเวณพื้นและขอบกระเป๋าเดินทางชนิดผ้าสีดำแบบลากจูง มียาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกสีดำ โดยปิดทับด้วยกระดาษแข็งซุกซ่อนอยู่ที่พื้นและขอบกระเป๋าเดินทางดังกล่าว จำนวน 3 ถุง น้ำหนักรวม 3 กิโลกรัม เตรียมเดินทางต่อไปด่านสะเดา จ.สงขลา เพื่อส่งอออกไปยังประเทศมาเลเซีย จึงจับกุมตัวพร้อมของกลาง เบื้องต้นแจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต