จับหนุ่มเร่ร่อนประวัติอาชญากรอื้อ ก่อเหตุร่วมกันชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายออแกไนซ์รับแคสติ้งแสดงให้กับค่ายหนังใหญ่ หลังคุยโวในร้านยาดองและถูกขโมยกุญแจบ้าน ก่อนคนร้ายตลบหลังเข้าลักทรัพย์ได้อย่างสะดวกโยธิน ตามล่าอีก 1 เพื่อนร่วมแก๊ง
วันนี้ (28 พ.ย.) ที่ สน.วังทองหลาง พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 พ.ต.อ.อุทัย กวินเดชาธร ผกก.สส.บก.น.4 และพ.ต.อ.ญาณพงศ์ โสมาภา ผกก.สน.วังทองหลาง แถลงจับกุม นายสุธน หรือโจ ทองศิริ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 356 ซอยลาดพร้าว 132 (วัดกลาง) แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยี่ห้อโตชิบ้า 1 เครื่อง กล้องถ่ายรูป โอลิมเปีย 1 ตัว กล้องวิดีโอยี่ห้อชาร์ป 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อแบล็กเบอร์รี โบลด์ 9700 จำนวน 1 เครื่อง แหวนเงินฝังคริสตัล 1 วง และกำไลข้อมือเงินฝังคริสตัล 1 วง รวมเป็นเงินกว่า 59,000 บาท โดยจับกุมได้ที่บริเวณสวนสนซอย 9 ซอยรามคำแหง 60 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
พล.ต.ต.นัยวัฒน์เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากวันที่ 11 พ.ย. 55 เวลา 07.00 น.ที่ผ่านมาได้รับแจ้งเหตุคนร้ายจำนวน 2 คน ลักลอบเข้าบ้านพักเลขที่ 529/136 หมู่บ้านอารียา ซ.ลาดพร้าว 130 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านของนายกฤติภร อัครธนะศาล ขณะที่ผู้เสียหายพักอาศัยอยู่ในบ้าน พร้อมทั้งทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงจนได้ภาพผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน เจ้าหน้าที่จึงได้นำภาพผู้ต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิดไปทำการสืบสวนจนทราบว่า หนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ร่วมก่อเหตุ คือ นายสุธน หรือโจ ทองศิริ ซึ่งผู้เสียหายได้ยืนยันว่าเป็นหนึ่งในคนร้ายจริง จึงได้ทำการขอหมายจับต่อศาลอาญา ตามหมายจับที่ 1998/255 จนสามารถจับกุมได้เมื่อเวลาดังกล่าว ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุอีกคน สืบทราบเพียงชื่อเล่นว่า อาร์ม (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร อีกทั้งเคยถูกจับกุมดำเนินคดีมาแล้วจำนวน 3 ครั้ง คือ ก่อเหตุปล้นร้านทองที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อ พ.ศ. 2535 ได้ทองไปจำนวน 120 บาท ถูกศาลตัดสินจำคุก 13 ปี เมื่อ พ.ศ.2554 ถูกจับกุมคดียาเสพติดที่ สน.ลาดพร้าว และเมื่อ พ.ศ. 2555 ถูกจับกุมคดีลักทรัพย์ที่ สน.ดินแดง อยู่ระหว่างหนีการประกันตัว จนกระทั่งกลับมาก่อเหตุและถูกจับกุมได้ดังกล่าว
ด้านนายกฤติภร อายุ 43 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งมีอาชีพเปิดบริษัทออแกไนซ์ รับแคสติ้งแสดงให้กับค่ายหนังใหญ่ เล่าว่าได้รู้จักกับนายสุธนที่ร้านยาดองแห่งหนึ่งใกล้กับที่พักและได้พูดคุยกัน โดยนายโจได้ถามตนว่าทำงานอะไร ตนก็บอกไป พอตกดึกนายโจได้มาหาตนที่บ้านอีกโดยขอเงินและของานทำ พอตนเองเผลอนายโจก็ได้ขโมยกุญแจบ้านของตนไป หลังจากนั้น 3 วันตนกลับมาจากงานเลี้ยงเวลา 03.00 น.ก็หลับไป จนเมื่อกระทั่งเวลา 06.00 น.ได้ยินเสียงไขประตูเข้ามา จึงเดินมาดู พบนายโจและนายอาร์มกำลังรื้อค้นข้าวของภายในบ้านอยู่ พอทั้งสองพบตนก็ตรงเข้ามาทำร้ายร่างกายตนโดยการต่อยเข้าที่แก้มซ้ายจำนวน 3 ครั้ง และมัดมือตนให้นอนคว่ำหน้าลงกับพื้นพร้อมใช้ผ้าคลุมหัวตนใว้ และทำการรื้อค้นทรัพย์สินกว่า 20 นาที่ก่อนจะหลบหนีไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเคหสถาน โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป ส่วนคนร้ายอีกคนทางเจ้าหน้าได้เร่งติดตามตัวเพื่อดำเนินคดีต่อไป