ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตร.ภาค 3 แถลงผลระดมกวาดล้างยาเสพติดครั้งใหญ่ ได้ผู้ต้องหากว่า 1,000 คน ของกลางยาบ้าร่วม 4 หมื่นเม็ด อาวุธปืน วัตถุประกอบระเบิดอื้อ เผยทลายเส้นทางการเงินแก๊งใหญ่ที่มีนายทุนเป็นชาวลาวได้ พบเงินหมุนเวียนเกือบ 500 ล้าน รวม 53 บัญชี ผู้ต้องหา 23 คน รวบแล้ว 6 คน ด้าน สบ 10 สั่งเพิ่มมาตรการเข้มจับกุมผู้ค้ารายสำคัญ
วันนี้ (23 ม.ค ) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ 10) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งกำกับดูแลงานด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พร้อมด้วย พล.ต.ท.เชิด ชูเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) และคณะรอง ผบช.ภ. 3 ร่วมกันแถลงผลการระดมกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่ความรับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 3 ทั้ง 8 จังหวัดอีสานตอนล่างครั้งใหญ่ ในห้วงวันที่ 18-22 ม.ค.ที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดได้รวม 1,095 ราย ผู้ต้องหา 1,135 คน แยกเป็นนำเข้า/ผลิต 2 ราย 2 คน, จำหน่าย 57 ราย 76 คน, ครอบครองเพื่อจำหน่าย 60 ราย 67 คน, ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 125 ราย 139 คน, เสพ 848 ราย 848 คน
พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 38,050 เม็ด อาวุธปืนกว่า 10 กระบอก พร้อมกระสุนปืน, โทรศัพท์มือถือ, สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร, บัตร ATM เครื่องประกอบระเบิด และรถยนต์อีกจำนวนมาก และสามารถจับตามหมายจับได้ จำนวน 6 หมาย
พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ 10) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรภาค 3 มีผลการดำเนินงานต่อกลุ่มเป้าหมายเครือข่ายยาเสพติดระดับสำคัญในทุกกลุ่ม และสามารถโยงใยขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ได้ โดยแบ่งเป็น กลุ่มที่ 1 กลุ่มที่เปิดบัญชีธนาคารให้นายทุน สปป.ลาว จำนวน 53 บัญชี มีเงินหมุนเวียนรวมกว่า 471 ล้านบาท มีผู้เปิดบัญชีจำนวน 23 คน จับกุมแล้ว 6 คน เหลือดำเนินการอีก 17 เป้าหมาย, กลุ่มที่ 2 ทำหน้าที่กดเงินจากตู้เอทีเอ็ม หรือถอนเงินจากธนาคาร จำนวน 23 คน จับกุมแล้ว 3 คน, กลุ่มที่ 3 ทำหน้าที่รับรองการเปิดบัญชีให้แก่นักค้ายาเสพติดจำนวน 8 คน ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มออกหมายจับไปแล้ว 39 คน อยู่ระหว่างการพิจารณา 22 คน และคาดว่าจะออกหมายจับเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดนี้ได้อีกไม่น้อยกว่า 100 คน
ส่วนกลุ่มที่ 4 เป็นกลุ่มนักค้าชาวไทยที่ติดต่อซื้อยาเสพติดมาจากกลุ่มนักค้าชาวต่างประเทศ ซึ่งได้ข้อมูลมาจากการวิเคราะห์ช่องทางการเงิน จำนวน 270 เป้าหมาย และอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 3 จำนวน 56 เป้าหมาย ส่วนที่เหลือกระจายอยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาคทุกภาค ซึ่งจะมีการประสานการทำงานต่อไป
พล.ต.อ.วุฒิ กล่าวอีกว่า วันนี้ได้เน้นย้ำให้ตำรวจภูธรภาค 3 เพิ่มความเข้มข้นในการปราบปรามจับกุมกลุ่มเครือข่ายผู้ค้าที่อยู่ในเครือข่ายให้ได้ทั้งหมด และขยายผลไปถึงกลุ่มนายทุนให้ได้ โดยเน้นหนักในเส้นทางการเงิน ซึ่งมอบหมายให้ตำรวจภูธรภาค 3 ไปประชุมร่วมกับธนาคารในภาคอีสานทั้งหมด ในเรื่องการให้ผู้มาเปิดบัญชีใหม่ จะต้องสอบถาม และดูให้ละเอียด ไม่ใช่แค่เอาทะเบียนบ้าน บัตรประชาชนมาแล้วเปิดบัญชีให้ ต้องมีมาตรการในการเปิดบัญชี และต้องสังเกตว่าทำไมบุคคลเหล่านี้ถึงมาเปิดบัญชีมากถึง 1-2 แสนบาท ทั้งที่ไม่มีรายได้ หรือมีอาชีพการงานที่ชัดเจน กรณีเช่นนี้ธนาคารต้องรีบแจ้งให้ตำรวจทราบ ซึ่งเป็นการสกัดกั้นได้อย่างหนึ่ง
“ต้องขอแจ้งเตือนผู้ที่รับทำธุรกรรมทางการเงินให้แก่แก๊งค้ายาเสพติดด้วยว่า บุคคลเหล่านี้ถือว่าเป็นผู้ค้า และมีโทษหนักเหมือนผู้ค้าเองด้วย ทรัพย์สินทุกอย่างที่ได้จะต้องถูกยึดคืนทั้งหมด” พล.ต.อ.วุฒิ กล่าวในที่สุด
