ระทึกขวัญ! คนร้ายลอบวางระเบิดสังหารใต้ล้อรถยนต์พนักงานคิงเพาเวอร์ภายในหมู่บ้านเอื้อาทร ย่านลาดกระบัง จนระเบิดฉีกร่างเละขณะลงไปดึงระเบิดที่ถูกซ่อนไว้ในถุงที่คนร้ายนำมาวางไว้ใต้ล้อรถ ขณะกำลังออกไปทำงานกับแฟนสาวที่เพิ่งคบกันได้เพียง 3 เดือนหลังทั้งคู่ต่างเลิกรากับแฟนเก่ามาคบกัน แต่อดีตแฟนเก่าตามราวี ตร.เร่งแกะรอยหาปมชนวนเลือดล่าคนร้าย
วันนี้ (18 มี.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น. พ.ต.ท.มานพ ทรายแก้ว พงส.ผชพ. สน.จรเข้น้อย รับแจ้งเหตุระเบิดมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ที่บริเวณหมู่บ้านเอื้ออาทร ลาดกระบัง 2 แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กทม. จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ รอง ผบก.น.3 พ.ต.อ.ปพณพัชร์ ตั้งจิตจารุพัชร์ ผกก.สน.จรเข้น้อย พ.ต.ท.เฉลิมพล จูมปูอา สว.สส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) บก.สปพ.
ที่เกิดเหตุอยู่ที่บริเวณลาดจอดรถอาคาร 19 พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ สปอร์ตไรเดอร์ สีแดงเลือดหมู หมายเลขทะเบียน กธ 744 ลพบุรี สภาพถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหายทั้งคัน ยางล้อหลังแตก กระจกฝั่งขวาด้านหน้าและหลังกระเด็นหลุดออกมา ประตูรถฝั่งขวาเสียหายทั้งแถบ กระจกด้านหลังซ้ายแตกเสียหาย และภายในรถได้รับความเสียหายอย่างหนัก ที่กระบะหลังพบสลักนิรภัยระเบิด ส่วนกระเดื่องยังค้นหาไม่เจอ ใกล้กันพบนายวันชัย นุ่มดี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.16 ต.ดงคอน อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ถูกแรงระเบิดได้รับบาดเจ็บสาหัส นิ้วชี้ข้างขวาขาด หน้าอกและช่องท้องด้านขวามีแผลฉกรรจ์ เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา
นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์-เทา ซึ่งจอดอยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหายไปด้วย และมี น.ส.รัฐพร อิ่นคำ อายุ 30 ปี แฟนสาวของผู้ตายยืนอยู่ด้วยอาการตกใจในที่เกิดเหตุ จากการสอบถาม น.ส.รัฐพรให้การว่า ตนพักออยู่ที่แฟลตตึก 19 ก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้าเวลาประมาณ 07.00 น. ตนพร้อมผู้ตายได้ลงมาที่บริเวณลานจอดรถออกไปทำงานในช่วงเช้า พอมาที่รถกระบะคันดังกล่าวเห็นถุงพลาสติกภายในมีวัตถุบางอย่างวางอยู่ใต้ล้อหลังด้านขวาของรถ จึงทำให้รถไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ จึงเรียกให้ผู้ตายมาดู เมื่อผู้ตายมาถึงก็ได้หยิบถุงดังกล่าวออกจากล้อรถ จากนั้นเพียงไม่กี่วินาทีก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น พบเห็นร่างผู้ตายนอนจมกองเลือดได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่
น.ส.รัฐพรกล่าวอีกว่า ตนเพิ่งคบหากับผู้ตายได้ประมาณ 3 เดือน โดยก่อนหน้านั้นต่างคนก็ต่างมีแฟนอยู่แต่ได้เลิกรากันไปหมดแล้ว โดยตนพักอยู่ที่อาคาร 19 ส่วนผู้ตายพักอยู่ที่อาคาร 6 จากนั้นคบหากันได้สักระยะผู้ตายก็ย้ายมาอยู่ห้องเดียวกับตน ระหว่างที่คบกับผู้ตายอยู่นั้น แฟนเก่าของผู้ตายก็ได้เคยส่งเอสเอ็มเอสมาข่มขู่ว่าหากไม่เลิกกันให้ระวังตัวไว้ให้ดี ตนกับผู้ตายก็พยายามระวังตัวมาโดยตลอด กระทั่งเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ผู้ตายถูกทำร้ายร่างกาย โดยระหว่างขับจักรยานยนต์ไปทำงานมีกลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถยนต์วีออสสีดำ ลงมารุมทำร้ายร่างกาย ซึ่งได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.จรเข้น้อยแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่ อีกเรื่องหนึ่งยังเคยมีปัญหาภายในกับบุคคลที่พักอาศัยอยู่ในอาคารเรื่องที่จอดรถกันอีกด้วย
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิดสันนิษฐานว่า ระเบิดที่ใช้ก่อเหตุเป็นระเบิดสังหารชนิดขว้าง แต่ยังไม่ทราบประเภท เนื่องจากในที่เกิดเหตุยังไม่พบกระเดื่องจึงยังไม่สามารถระบุได้ แต่พฤติการณ์การก่อเหตุของคนร้ายคาดว่าเบื้องต้นคนร้ายน่าจะถอดสลักนิรภัยของระเบิดออก จากนั้นก็ใช้ผ้ามัดเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ระเบิดทำงาน ก่อนจะนำมาวางไว้ที่ล้อรถหลังด้านขวา พอผู้ตายมาหยิบออกก็ทำให้วงจรระเบิดทำงาน โดยหน่วงเวลาประมาณ 3-4 วินาที จากนั้นจึงเกิดการระเบิดขึ้น ซึ่งคาดว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดพอสมควร
พ.ต.อ.ปพณพัชร์กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายทำงานอยู่ที่คิงเพาเวอร์ ส่วนแฟนสาวของผู้ตายเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่วิทยาลัยดุสิตธานี สอนวิชาสถิติและคณิตศาสตร์ระดับปริญญาตรี คบหากันได้ประมาณ 3 เดือน จากการสอบถามพยานให้การว่า พบกล่องกระดาษสีขาวขนาดประมาณ 2 นิ้ว วางอยู่ที่ล้อรถตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.แล้ว แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งมาช่วงเช้าวันนี้ผู้ตายได้พยายามจะขับรถออกไปทำงาน แต่รู้สึกว่ามีอะไรทับล้ออยู่ ทำให้รถเคลื่อนไม่ได้ จึงได้หยิบออกมาดูจึงเกิดการระเบิดขึ้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งประเด็นไว้หลายอย่าง ทั้งเรื่องปัญหาส่วนตัวที่ผู้ตายเคยถูกทำร้ายร่างกายเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา และเรื่องปัญหาครอบครัว ซึ่งก่อนหน้าที่ผู้ตายจะมาคบหากับแฟนสาวคนนี้ ฝ่ายชายยังไม่เลิกรากับแฟนเก่า จึงทำให้แฟนเก่าของผู้ตายส่งเอสเอ็มเอสมาข่มขู่ นอกจากนี้ก็ยังไม่ตัดประเด็นอื่นทิ้ง ทั้งเรื่องปัญหาที่จอดรถและเรื่องอื่นๆ แต่คาดว่าประเด็นเรื่องที่จอดรถคงไม่มีสาเหตุถึงขั้นลงมือมุ่งหมายเอาชีวิตได้ โดยหลังจากนี้จะเรียกแฟนเก่าทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุ และหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป
ด้านพ.ต.อ.ปพณพัชร์ กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับฝ่ายสืบสวนว่า เจ้าหน้าที่อีโอดี ตรวจสอบและเก็บรายละเอียดในที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบว่า เป็นระเบิดสังหาร ลูกเกลี้ยง ชนิดขว้าง M67 แต่ในที่เกิดเหตุยังหากระเดื่องไม่พบ โดยคาดว่าคนร้ายมีความชำนาญเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามตัว น.ส.อังคณา ทันนิธิ อายุ 35 ปี แฟนสาวของผู้ตาย มาสอบสวน ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น แฟนเก่าของผู้ตายให้การว่า ไม่ได้เป็นผู้ส่งเอสเอ็มเอสไปหาแฟนคนปัจจุบันของผู้ตาย ซึ่งให้การขัดแย้งกันอยู่ โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบในเชิงลึกอีกครั้ง เนื่องจากเบอร์โทรศัพท์ที่ส่งเอสเอ็มเอสไม่ใช่เบอร์ที่ใช้ตามปกติ ส่วนประเด็นอื่นๆ ก็ยังไม่ตัดประเด็นอะไรทิ้ง ทั้งเรื่องที่จอดรถและเรื่องที่ผู้ตายถูกรุมทำร้ายโดยสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หารายละเอียดเชิงลึกของแต่ละเรื่อง เพื่อนำมาสรุปสาเหตุต่อไป
