xs
xsm
sm
md
lg

จับหลานเขย ส.ส.สระบุรี เพื่อไทย มือปืนอันดับต้นๆ นครบาล

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป แถลงข่าวจับกุม นายสิงโต หรือหยอง พีระเดชาสุเทพ อายุ 33 ปี ชาว จ.ลพบุรี และเป็นหลานเขย อรรถพล วงษ์ประยูร ส.ส.สระบุรี พรรคเพื่อไทย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ จ.1780/2552 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2552 ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ทำร้ายผู้อื่นจนได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนในเขตเมือง หมู่บ้าน หรือชุมชน
กองปราบฯ ตามรวบมือปืนหนีคดีพยายามฆ่า-เผยถูกขึ้นบัญชีดำลำดับต้นๆ ของนครบาล

วันนี้ (15 มี.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.จอม สิงห์น้อย สว.กก.1 บก.ป. แถลงข่าวจับกุม นายสิงโต หรือหยอง พีระเดชาสุเทพ อายุ 33 ปี ชาว จ.ลพบุรี และเป็นหลานเขย อรรถพล วงษ์ประยูร ส.ส.สระบุรี พรรคเพื่อไทย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ จ.1780/2552 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2552 ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ทำร้ายผู้อื่นจนได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนในเขตเมือง หมู่บ้าน หรือชุมชน โดยจับกุมได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 122/6 หมู่ 2 ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.ลพบุรี

พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2552 ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายจักรกฤษ นิลโฉม อายุ 21 ปี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดในพื้นที่แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กทม.ท้องที่ สน.จรเข้น้อย ก่อนจะหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีกบดานใน จ.ลพบุรี เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมืปืนรับจ้าง กองบังคับการปราบปราม (ศปอร.บก.ป.) จึงนำกำลังเข้าจับกุมดังกล่าว

สอบสวนนายสิงโตให้การว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง แต่ในรายละเอียดของคดีขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น

รายงานว่าจากแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีพฤติการณ์เป็นมือปืนรับจ้างในพื้นที่ จ.ลพบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งมีความสนิทสนมกับนักการเมืองท้องถิ่น รวมทั้งยังเป็นบุคคลตามหมายจับปฏิทินมือปืนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ในลำดับต้นๆ อีกด้วย

พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวถึงกรณีการดำเนินการของ ศปอร.บก.ป.ว่า ได้มีการติดตามจับกุมมือปืนตามบัญชีที่จัดทำไว้เดิมแล้ว 47 ราย จากทั้งหมด 100 ราย ส่วนที่คงเหลืออีก 53 รายนั้น ทาง พล.ต.อ.เอก อังศนานนท์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอร.ตร.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะรอง ผอ.ศปอร.ตร.ได้กำชับให้เร่งดำเนินการติดตามมือปืนที่เป็นผู้ต้องหาตามบัญชีเก่าให้ได้อย่างน้อย 10% ก่อนจะมีการประเมินด้วยตัวชี้วัดผลการทำงาน ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย

พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวต่อว่า ทาง ศปอร.ตร.จะมีการประชุมเจ้าหน้าที่เพื่อจัดทำบัญชีมือปืนรับจ้างขึ้นใหม่ โดยแบ่งเป็น 4 หมวด ตามหลักเกณฑ์ ดังนี้ 1. มือปืนอาชีพ ที่ก่อเหตุดักยิงซุ่มยิง 2. มือปืนที่มีพฤติการณ์ใช้อาวุธสงครามในการก่อเหตุ 3. มือปืนที่ก่อคดีฆ่า พยายามฆ่า โดยใช้อาวุธปืน และ 4. กลุ่มที่มีและครอบครองอาวุธปืน โดยในแต่ละกองบัญชาการตำรวจภูธรภาคจะมีการสำรวจและติดตามเพื่อลดจำนวนมือปืนเหล่านี้ให้ได้ โดยเฉพาะตามหมายจับค้างเก่าที่ต้องเร่งรัดติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น