ตำรวจกองปราบฯ โชว์จับกุมอดีต รปภ.บ้าน “บิ๊กสุ” รับซื้อของโจร หลังสองทหารช่างที่เฝ้าบ้านเจ้านายแอบขโมยพระเครื่องพร้อมของเก่าออกมาขายให้ในราคา 7,000 บาท ก่อนขายต่อให้พ่อค้าของเก่าย่านศรีราชา ตร.เตรียมตามลากคอมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป ส่วนสองทหารตัวแสบต้นสังกัดควบคุมตัวไว้แล้วรอดำเนินคดี
วันนี้ (14 มี.ค.) ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.บุญสนอง เบ้าตุ่น สว.กก.1 บก.ป.ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายรักศักดิ์ ห่วงสายแก้ว อายุ 51 ปี ช่างรับเหมาทาสี อยู่บ้านเลขที่ 82 ซ.บุญเหลือ แขวงและเขตบางซื่อ กทม. ตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 455/2556 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร โดยจับกุมได้บริเวณหน้ากองปราบปราม
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา ตัวแทน พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก เข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.ให้ช่วยสืบสวนจับกุมตัวคนร้ายที่เข้าไปขโมยของภายในบ้านเลขที่ 26 ซ.ระนอง 2 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ
ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า คนร้ายที่เข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้านของ พล.อ.สุจินดา คือ ส.อ.วุฒิชัย แสงวงค์ และพลทหาร สุพิชัย หมวดปัทมา ทั้งสองนายสังกัดกองพันทหารช่างที่ 52 กรมทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ (ช.พัน.52 ช.1 รอ.) ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในบ้านหลังดังกล่าว ได้แอบขโมยทรัพย์สินภายในบ้านขณะที่เจ้าของบ้านเดินทางไปต่างประเทศ จากนั้นได้นำทรัพย์สินที่ขโมยมาขายให้กับนายรักศักดิ์ ซึ่งทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบ้าน พล.อ.สุจินดา เจ้าหน้าที่จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับ กระทั่งตามจับกุมตัวนายรักศักดิ์ ขณะกำลังนำของกลางที่ขโมยมาคืนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ส่วน ส.อ.วุฒิชัย และพลทหาร สุพิชัย ได้ถูกต้นสังกัดควบคุมตัวไว้ได้แล้ว รอส่งมอบให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
สอบสวนนายรักศักดิ์ให้การรับสารภาพว่า ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่บ้านของ พล.อ.สุจินดา มาประมาณ 6 ปี ระหว่างนั้นได้รู้จักสนิทสนมกับ ส.อ.วุฒิชัย และพลทหาร สุพิชัย ซึ่งอยู่มาก่อนตน ต่อมาเมื่อเดือนตุลาคม 2555 ช่วงที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ทหารทั้งสองนายได้นำ ชุดพระเครื่องหลวงพ่อคูณ พระพุทธชินราช เครื่องใช้เซรามิกโบราณจากประเทศจีน ประกอบด้วย ชุดน้ำชา กระถางธูป และไห ที่ขโมยมาเสนอขายให้ ซึ่งตนก็พอรู้เรื่องพระและของเก่ามาบ้างเนื่องจากพ่อเป็นเซียนพระเครื่อง จึงขอซื้อทรัพย์สินทั้งหมดในราคา 7,000 บาท ต่อมาได้นำทรัพย์สินทั้งหมดไปขายต่อให้เซียนพระชื่อ “กร” ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง อยู่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้เงินมา 10,000 กว่าบาท หลังจากนั้นตนก็ลาออกจากงาน รปภ.บ้านของ พล.อ.สุจินดา ไปทำงานเป็นช่างรับเหมาทาสีบ้านจนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามจับกุมดังกล่าว อย่างไรก็ตามตนไม่ทราบว่านายกรได้นำทรัพย์สินดังกล่าวไปขายต่อที่ไหนบ้าง
เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.ดำเนินคดี นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับนายกรมาดำเนินคดีในข้อหารับของโจรต่อไป