xs
xsm
sm
md
lg

รวบหนุ่มมาเลย์ร่วมแก๊งคนไทยขนเฮโรอีน 68.5 กก.มูลค่ากว่า 200 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา
รองนายกฯเฉลิม แถลงจับหนุ่มมาเลย์ร่วมกับ 2 คนไทย ขนเฮโรอีน 65.8 กก.มูลค่ากว่า 200 ล้าน จากภาคเหนือเตรียมส่งลงใต้ไปมาเลเซีย เผยมีตำรวจสภ.เมืองน่านร่วมแก๊งด้วยจึงจับกุมตัวดำเนินคดี

  วันนี้ (12 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติด 3 ราย ประกอบด้วย นายสาคร เปียสังข์ อายุ 42 ปี ชาว จ.น่าน นางญาณวัฒนา เปียสังข์ อายุ 40 ปี ชาว จ.น่าน และนายออง บูน เชียง (MR.ONG BOON SIONG) หรือเบิร์ด อายุ 38 ปี สัญชาติมาเลเซีย พร้อมของกลางเฮโรอีนผงสีขาว สัญลักษณ์สิงโตแดง 188 ก้อน น้ำหนักรวม 65.8 กิโลกรัม รถยนต์บรรทุกยี่ห้อฮีโน่สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-0425 น่าน รถยนต์โตโยต้าสีดำ หมายเลขทะเบียน DF500 และสว่านไขควงไฟฟ้า 1 อัน โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองไว้จำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต
         
         ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องมาจาก บช.ปส.ได้รับข้อมูลว่า จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือลงมาสู่ภาคใต้ โดยใช้รถยนต์บรรทุก 4 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่สีขาวเป็นยานพาหนะลำเลียง จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจยานพาหนะ กก.2 บก.ปส.4 อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตระเวนชายแดน บก.สส.ภ.8 และ บช.ภ.จว.ชุมพร ร่วมกันตั้งจุดตรวจค้นถนนเพชรเกษม จนกระทั่งวันที่ 9 มี.ค.เวลา 01.00 น.ได้พบนายสาคร ผู้ต้องหาที่ขับขี่รถบรรทุกของกลาง โดยมีนางญาณวัฒนา นั่งโดยสารมาด้วย จึงเรียกตรวจค้นพบเฮโรอีนซุกซ่อนที่ส่วนต่อเติมด้านนอกหลังห้องโดยสาร ผู้ต้องการทั้ง 2 รายให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างจากกลุ่มนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือให้ไปรับยาที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และนำส่งให้ลูกค้าชาวมาเลเซียที่ จ.สงขลา โดยก่อนหน้านี้เคยลักลอบลำเลียงยาเสพติดไปส่งให้ลูกค้าหลายครั้ง ได้ค่าจ้างเป็นเงิน 2 ล้านบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจนสามารถจับกุมนายเบิร์ด ซึ่งเป็นผู้มารอรับยาได้พร้อมรถยนต์โตโยต้าสีดำ ที่ดัดแปลงเพื่อนำมารับยาเสพติด ก่อนลำเลียงไปให้ผู้ว่าจ้างที่ประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 1 ราย คือ จ่าสิบตำรวจ ฉริยะ รชตวงศ์ชัย สังกัด สภ.เมืองน่าน ซึ่งเป็นพี่ชายของนางญาณวัฒนา ทำหน้าที่คอยประสานงานและสั่งการ 
         
         ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า อีกคดีเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย ประกอบด้วย นายยก หาญจิรวัฒนา ชาว จ.เชียงใหม่, นายจักรพงศ์ เจริญไชยเดช ชาว จ.เชียงใหม่, นายเสกสรร แซ่ย้าง ชาว จ.ตาก, นางยงยุทธ เพชรสกุลไพร ชาว จ.ตาก, นายกัปตัน วดีสุขเกษม ชาว จ.ตาก, นายทวี เตชะเลิศพนา ชาว จ.ตาก พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 1.5 ล้านเม็ด และยาไอซ์ 50 กิโลกรัม รถยนต์บรรทุก 4 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา เลขทะเบียน 70-1554 มหาสารคาม รถยนต์บรรทุกยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ทะเบียน ฒฒ 5133 กรุงเทพฯ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีบีอาร์ 250 ซีซี สีดำ ทะเบียน กลค 459 อาวุธปืนสั้นออโตเมติก ยี่ห้อโทคาเรฟ ขนาด 7.62 มม.อาวุธปืนพกสั้นรีวอลเวอร์ สมิทแอนด์เวสสัน ขนาด .357 โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง
         
         ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีก โดยการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้่าที่ได้รับการประสานงานจาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ที่ปรึกษา บช.ปส.ที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการขบวนการลำเลียงยาเสพติดกลุ่มชนเผ่าม้ง จากพื้นที่แนวชายแดนเขตด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ส่งให้ผู้ค้ายาเสพติดใน กทม.และปริมณทล โดยจะลำเลียงมากับรถยนต์บรรทุกสิ่งปฏิกูล และมีรถยนต์กระบะ และรถจักรยานยนต์ทำหน้าที่นำทางคุ้มกัน โดย พล.ต.อ.สมยศ และ พล.ต.ท.ชัยฒน์ สั่งให้เจ้าหน้าที่ศูนย์สกัดและลำเลียงยาเสพติดร่วมกันออกสืบสวนจับกุม จนกระทั่งวันที่ 9 มี.ค.เวลา 14.00 น.เจ้าหน้าที่พบผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ใช้รถยนต์บรรทุกยี่ห้อโตโยต้าสีดำ และรถจักรยานยนต์มาพักค้างคืนอยู่ที่ จ.สุโขทัย 
         
         ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ต่อมาวันที่ 10 มี.ค.เวลา 06.00 น.ผู้ต้องหาทั้งหมดเดินทางมารับรถยนต์บรรทุกสิ่งปฏิกูลที่ จ.เชียงราย โดยผู้ต้องหาที่ 1-3 ได้ขับรถบรรทุกสิ่งปฏิกูลมุ่งหน้าไปที่ อ.เทิง จ.เชียงราย โดยมีผู้ต้องหาที่ 4 ขับรถจักรยานยนต์ และผู้ต้องหาที่ 5-6 ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้านำทางรถบรรทุกสิ่งปฏิกูล ซึ่งลักษณะมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงสะกดรอยติดตามและแสดงตัวขอทำการตรวจค้น พบยาเสพติดของกลางซุกซ่อนอยู่ในรถบรรทุกสิ่งปฎิกูล ก่อนทำการจับกุมผู้ต้องหาที่ 1-4 ส่วนผู้ต้องหาที่ 5-6 พยายามหลบหนีและใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธยิงต่อสู้จนผู้ต้องหาที่ 5-6 ถึงแก่ความตาย
กำลังโหลดความคิดเห็น