xs
xsm
sm
md
lg

ปคม.รวบสองผัวเมียพม่าจับตัวเรียกค่าไถ่เด็กสาวชาติเดียวกัน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม.แถลงข่าวจับกุม นายฮลา อ่อง นางโม ทิทา สองสามีภริยาชาวพม่า และ นายสิทธิพงศ์ นิลนวล ผู้ต้องร่วมกันเรียกค่าไถ่ชาวพม่าด้วยกัน
ตำรวจ บก.ปคมงแถลงข่าวจับกุมสองสามีภรรยาผู้ต้องหาชาวพม่าจับกุมเด็กสาวชาติเดียวกันเรียกค่าไถ่ เอาตัวไปขายร้านสุกี้ย่านปากน้ำโพ

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 1 มีนาคม ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.สรกฤช พันธ์ศรี สว.กก.1 บก.ปคม. ร่วมกับ น.ส.ปฏิมา ตั้งปรัชญา ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน แถลงข่าวจับกุม น.ส.โม ทิทา อายุ 33 ปี แม่บ้านทำความสะอาด นายฮลา อ่อง อายุ 35 ปี อาชีพรับจ้างเข็นผัก สองสามีภรรยาสัญชาติพม่า และนายสิทธิพงศ์ นิลนวล อายุ 46 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ อาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัย ข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ร่วมกันกระทำให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ และหน่วงเหนี่ยวกักขังบุคคลอายุเกิน 15 ปี โดยใช้อุบายหลอกลวง โดยจับกุมได้ที่ร้านอาหารแม็คโดนัล ห้างสรรพสินค้าเทสโก โลตัส สาขาคลองเตย และซอยโรงรับจำนำ ซึ่งอยู่ใกล้กับห้างฯ ถ.พระราม 4 แขวงและเขตคลองเตย

ทั้งนี้ มูลนิธิร่วมมิตรไทย-พม่า มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน และมูลนิธิพิทักษ์สตรี ประสานงานมายัง บก.ปคม.ว่ามีหญิงชาวพม่าคนหนึ่งร้องขอความช่วยเหลือกรณีหลานสาว 2 คน อายุ 16 และ 17 ปี ถูกนางดาวไม่ทราบชื่อสกุล กับพวกจับตัวไปกักขังเรียกค่าไถ่เป็นเงินจำนวน 50,000 บาท หากจ่ายเงินให้ก็จะปล่อยตัวหลานสาวไป เหตุเกิดบริเวณตลาดคลองเตยเมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา พล.ต.ต.ชวลิตจึงสั่งการให้ กก.1 บก.ปคม.จัดชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบหาเบาะแสกระทั่งทราบว่านางดาวคือ น.ส.โม ทิทา ชาวพม่าที่ทำงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่งบริเวณตลาดคลองเตย จึงให้สายลับติดต่อนำเงินค่าไถ่ไปจ่ายให้ โดยนัดหมายที่ร้านอาหารแมคโดนัลด์

เมื่อถึงเวลานัดหมาย น.ส.โม ทิทา นายฮลา และนายสิทธิพงศ์ เข้ามานั่งพูดคุยกับสายลับ โดยนายฮลาอ้างตัวเป็นมาเฟียตลาดคลองเตย ส่วนนายสิทธิพงศ์อ้างตัวเป็นตำรวจตำแหน่งสารวัตรที่ดูแลพื้นที่นี้ หากไม่จ่ายเงินจะให้พวกรุมทำร้ายเด็กทั้งสองคน จากนั้นก็บังคับให้สายลับเซ็นเอกสารก่อนจะส่งมอบเงินให้ เมื่อได้เงินแล้วตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนจะสอบสวนขยายผลทราบว่าเด็กทั้งสองคนถูกนำตัวไปไว้ที่ร้านขายสุกี้แห่งหนึ่งใน ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จึงส่งกำลังไปช่วยเหลือมาได้อย่างปลอดภัย

สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ อย่างไรก็ตาม นายฮลา อ่อง กล่าวว่า ไม่ได้กักขังเด็กผู้เสียหายทั้งสองคน แต่ช่วยเหลือพวกเขาโดยหางานให้ทำ ซึ่งในวันที่เดินทางได้มีคนแก่นั่งรถแท็กซี่ไปด้วย 3 คนแล้วไปต่อรถตู้เดินทางไป จ.นครสวรรค์ ส่วนญาติของเด็กทั้งสองนั้นได้มาขอร้องให้พวกตนช่วยโดยขอยืมเงินไป 2 ครั้งๆ ละ 50,000 บาทซึ่งก็ให้ยืมไป ส่วนนายสิทธิพงศ์ปฏิเสธว่าไม่ได้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่ถูกกล่าวหา แต่สองสามีภรรยามาขอร้องให้ไปช่วยตามทวงหนี้จากผู้เสียหาย โดยมารบเร้าอยู่เป็นเดือนจึงเห็นใจติดตามไปช่วยเหลือพวกเขาเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น