“วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี” อดีต ผบ.ตร.ยันเสนออนุมัติจ้างพีซีซีฯ สร้างโรงพัก-แฟลตตำรวจตามระเบียบราชการ ร่อนเอกสารเกือบ 500 หน้าพร้อมคำให้การ ด้านดีเอสไอส่งหนังสือเรียก จนท.สำนักงบฯ-จนท.พัสดุ แจงขั้นตอนระเบียบปฏิบัติที่ชัดเจน
วันนี้ (15 ก.พ.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษให้ฐานะพยาน กรณีสอบสวนโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) 396 แห่ง และโครงการก่อสร้างที่พักอาศัย (แฟลต) ตำรวจ 163 แห่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ และนายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามทุจริต ให้การต้อนรับ
พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวช่วงเป็นรอง ผบ.ตร. ระหว่างวันที่ 5 พ.ย. 2552 - 1 ก.ย. 2553 และเมื่อวันที่ 2 ก.ย.2553 - 14 ต.ค. 2554 ช่วงที่เป็น ผบ.ตร.เกี่ยวข้องในการรับรองเอกสารและเสนอนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อนุมัติจัดจ้างบริษัท พีซีซี ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ผู้ชนะการประมูล
ทั้งนี้ เอกสารที่นำมามอบให้ดีเอสไอมีทั้งเอกสารเกี่ยวกับโครงการสร้างสถานีตำรวจ (ทดแทน) 300 หน้า และโครงการก่อสร้างแฟลตตำรวจ 242 หน้า โดยตนได้ชี้แจงเฉพาะในส่วนที่เข้าไปเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ผ่านมานานแล้ว ดังนั้นเอกสารบางส่วนอาจต้องใช้เวลาเพราะต้องรอ สตช.จัดส่งให้ ยืนยันว่าทุกขั้นตอนทำตามระเบียบราชการ
นายธานินทร์กล่าวว่า พล.ต.อ.วิเชียรได้ชี้แจงพร้อมส่งคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรประกอบคำให้การเพิ่มเติม ซึ่งพนักงานสอบสวนจำเป็นต้องใช้เวลาตรวจสอบเอกสารสักระยะว่าตรงกับที่ชี้แจงไว้หรือไม่ หลังจากการเข้าให้ปากคำในกลุ่มของอดีต ผบ.ตร.ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอและอนุมัติโครงการแล้ว กลุ่มต่อไปที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอจะเชิญเข้าให้ปากคำ คือ กลุ่มเจ้าหน้าที่สำนักงบประมาณ และส่งหนังสือถึงนายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่พัสดุเข้าชี้แจงขั้นตอนและระเบียบทางพัสดุ สำหรับการเรียก ผบ.ตร.ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารสัญญามาให้ปากคำหรือไม่ต้องหารืออีกครั้ง
กรณีคณะกรรมการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาร้องทุกข์ดำเนินคดีในการจัดสร้างโครงการดังกล่าว ที่มี พล.ต.อ.เจตน์ มงคลหัตถี ที่ปรึกษา สบ 10 ในฐานะประธานตรวจสอบ สรุปผลสอบไม่พบการฉ้อโกงในเรื่องดังกล่าวนั้น นายธานินทร์กล่าวว่า ถือเป็นดุลยพินิจของตำรวจ ไม่กระทบต่อการสอบสวนของดีเอสไอที่พิจารณาคดีตามพยานหลักฐานที่ได้จากการรวบรวมข้อเท็จจริง
