ฝากขังสาวทอมคดีบุกคอนโดฯ รีดทรัพย์ “เอม” ดาราค่ายกันตนา

ฝากขังสาวทอมร่วมบุกคอนโดฯ รีดทรัพย์ “เอม” ดาราสาว ได้เงินและทองคำมูลค่า 231,000 บาท พร้อมค้านประกัน เกรงผู้ต้องหาหลบหนี-ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขัง

วันนี้ (13 ก.พ.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ร.ต.ต.กัมปนาท เจริญศรี พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ควบคุมตัว น.ส.วรีรัตน์ หรืออ๊อฟ เส็งประเสริฐ อายุ 28 ปี และนายคมสัน หรือหนึ่ง อาจราญ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันกรรโชกทรัพย์ น.ส.เจษยา หรือเอม เวียงเกตุ อายุ 27 ปี ดารานักแสดงสาวค่ายกันตนา มาขออำนาจศาลฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 13-24 ก.พ. 2556

โดยคำร้องระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2556 เวลา 20.33 น. น.ส.เจษยา หรือเอม ซึ่งเป็นผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่า เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2556 เวลา ประมาณ 20.20 น.ได้มีคนร้ายทราบภายหลังว่า น.ส.วรีรัตน์ ผู้ต้องหาได้โทรศัพท์เรียก น.ส.เจษยา หรือเอม ผู้เสียหายให้ลงจากห้องที่เกิดเหตุ เพื่อมาพบกลุ่มของคนร้าย ซึ่งเป็น ด.ต.ไพบูลย์ ยืนยัน กับพวกทั้ง 6 คน จากนั้นจึงแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจเพื่อขอตรวจค้นตัวผู้เสียหาย พร้อมเข้าตรวจค้นห้องพักผู้เสียหาย ที่ห้องเลขที่ 402/123 ชั้น 8 อาคารเจ.ดับบลิว. บลูเลอวาด ถนนทาวน์อินทาวน์ แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. และร่วมกันขู่กรรโชกเพื่อเอาทรัพย์สินของผู้เสียหาย จนผู้เสียหายเกิดความกลัวจึงได้นำเอาทรัพย์สินเป็นทองคำแท่งน้ำหนัก 10 บาท เป็นเงิน 230,000 บาท และเงินสดจำนวน 11,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 241,000 บาท ให้กับผู้ต้องหากับพวก จากนั้นผู้ต้องหากับพวกได้พากันหลบหนีไปพร้อมด้วยทรัพย์สิน ผู้เสียหายได้รับความเสียหายจึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีต่อ ด.ต.ไพบูลย์ ยืนยัน ผู้ต้องหากับพวกให้ได้รับโทษตามกฎหมาย เหตุเกิดที่แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. กระทั่งตำรวจ สน.วังทองหลาง สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้เมื่อเวลา 11 ก.พ. 2556 เวลา ประมาณ 14.30 น.

การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, 157, 310, 337 วรรคสอง และมาตรา 365 (1-3) ประกอบมาตรา 83

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้สอบสวนและควบคุมตัวผู้ต้องหามาจะครบกำหนด 48 ชั่วโมงแล้ว หากแต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นเนื่องจากจะต้องทำการสอบสวนพยานอีก 10 ปาก รอผลตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา และลายนิ้วมือแฝง และรวบรวมพยานหลักฐานอื่นประกอบ จึงขอฝากขังผู้ต้องหานี้ไว้ระหว่างการสอบสวน และหากผู้ต้องหาร้องขอปล่อยชั่วคราว หรือขอประกันตัว พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ซึ่งศาลพิจารณาและสอบถามแล้วผู้ต้องหาไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้

ภายหลัง นายสุรศักดิ์ เส็งประเสริฐ บิดาของ น.ส.วรีรัตน์ ผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องพร้อม หลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 3 แสนบาทขอปล่อยชั่วคราว ซึ่งศาลพิเคราะห์แล้ว มีคำสั่งอนุญาตตามที่ร้องขอ โดยตีราคาประกัน 3 แสนบาท และกำหนดเงื่อนห้ามผู้ต้องหาเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งอนุญาต

ขณะที่ นายคมสัน ผู้ต้องหาร่วมคดีเดียวกันนี้ ไม่มีญาติมายื่นคำร้องและหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไ