“เอม-เจษยา” ดาราสาวค่ายกันตนา เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง พร้อมหอบหลักฐานคลิปเสียงสนทนากับทอมบอยผู้ต้องหา โต้ข้อกล่าวหาจากคู่กรณีว่าค้ายาเสพติด พร้อมขอโทษสื่อที่ให้รอเก้อ ลั่นฟ้องกลับ 6 ผู้ต้องหาทำเสื่อมเสียชื่อเสียงและวงศ์ตระกูล ปัดไม่มีแฟนอยู่คุกเขาบิน อ้างเพื่อนยังเลือกคบ หากผิดจริงคงไม่เป็นฝ่ายแจ้งความให้เดือดร้อนถึงตัวเอง หวั่นความปลอดภัยหลังผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว
วันนี้ (13 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.15 น. น.ส.เจษยา หรือเอม เวียงเกตุ ดาราสาวค่ายกันตนา เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อ พ.ต.ท.ชัยยุทธ ปัดถามัง พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.วังทองหลาง ภายหลังถูกแก๊งตำรวจร่วมกับพลเรือนเข้ากรรโชกทรัพย์ เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ที่ห้องพักภายในคอนโด เจ ดับบลิว บลูเลอวาร์ด ถ.ศรีวรา ทาวน์อินทาวน์ แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. ก่อนจะทยอยเข้ามอบตัวและให้การซัดทอดว่าดาราสาวค้ายาเสพติด และวันดังกล่าวก็ไปล่อซื้อยาเสพติดกับดาราสาว
น.ส.เจษยากล่าวว่า วันนี้เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น เพราะรู้สึกว่าตัวเองถูกปล้น แต่พอมีคนร้ายมามอบตัวกลับให้การกล่าวหาว่าตนค้ายาเสพติด ซึ่งตนโกรธมากเพราะเป็นเรื่องเท็จทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงต้องมาให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติม และปฏิเสธเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด เนื่องจากไม่เคยเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้ ยืนยันว่าตนบริสุทธิ์ และได้ปรึกษากับพ่อและทนายความเพื่อจะแจ้งความกลับต่อกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดที่ให้การเท็จว่าตนค้ายาเสพติด ซึ่งได้นำคลิปเสียงมาเป็นหลักฐานยืนยันว่า น.ส.วลีรัตน์ หรือออฟ เส็งประเสริฐ สาวทอมหนึ่งในแก๊งผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีมายืนยัน เนื่องจากได้บันทึกบทสนทนาหลังจากวันเกิดเหตุ เพราะสงสัยว่า น.ส.วลีรัตน์น่าจะอยู่ในแก๊งกรรโชกทรัพย์ตนในวันเกิดเหตุ โดยคลิปเสียงที่นำมานั้นได้บันทึกไว้ขณะสนทนาทางโทรศัพท์
น.ส.เจษยากล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุได้มานั่งนึกย้อนเหตุการณ์หลังวันเกิดเหตุ 1 วัน ว่าออฟน่าจะสมรู้ร่วมคิดในกลุ่มที่มากรรโชกทรัพย์ไป เพราะวันนั้นออฟเป็นคนที่ทักทายที่ล็อบบี้ด้านล่าง แล้วบอกว่ารู้จักเพื่อนตน พอนึกได้ตนจึงขอเบอร์โทร.ออฟจากเพื่อน แล้วก็โทร.ไปหาจนกระทั่งออฟหลุดออกมาว่าถูกแก๊งตำรวจแก๊งนี้จับมาเหมือนกัน และเขาเรียกเอาเงิน 1 แสน แต่ไม่มี แก๊งนั้นจึงบอกว่าแล้วใครมี ออฟเลยบอกว่ามีดาราอยู่คนหนึ่งมี จึงได้พากันวางแผนมาหาตนจน เกิดเรื่องขึ้น ทั้งนี้ ตนพยายามชวนออฟมาแจ้งความเพราะเราต่างก็ไม่มีความผิด และไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ออฟก็ไม่ยอมมา บอกแต่เพียงว่ากลัว จึงยิ่งทำให้สงสัยว่าออฟต้องร่วมกับแก๊งที่มากรรโชกทองของตนแน่นอน สุดท้ายก็ถูกตำรวจกดดันจนเข้ามอบตัว แต่กลับมาให้การให้สัมภาษณ์สื่อว่าตนค้ายาเสพติด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง ตนโมโหมาก และจะแจ้งความกลับเอาผิดทั้ง 6 คนให้ถึงที่สุด
“เอมต้องขอโทษสื่อมวลชนที่ต้องทำให้รอเก้อ แต่ต้องบอกตามตรงว่าเอมไม่ได้หลบนักข่าวหรือไม่ยอมมาให้ปากคำตามที่พนักงานสอบสวนนัดมา พอเห็นข่าวออกไปแบบนั้นก็ไม่สบายใจ แต่จริงๆ แล้วมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกระซิบบอกว่าไม่ต้องมา วันนี้เอมจึงตัดสินใจมาเพื่อทำความเข้าใจกับพี่ๆ นักข่าว และต้องรีบแก้ต่างแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเองเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าค้ายาเสพติด ถ้าหากเอมค้ายาจริงคงไม่กล้าออกมาแจ้งความแสดงตนให้เรื่องวุ่นวายกลับเข้ามาหาตนเอง ซึ่งขณะนี้ยังรู้สึกกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอนไม่ค่อยหลับ ไม่มั่นใจในความปลอดภัยในชีวิต และตอนนี้ก็ได้ย้ายที่อยู่แล้ว ขณะเดียวกันก็ทราบว่ามีผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวออกไป เอมก็รู้สึกหวั่นๆ ในความปลอดภัยของตนเองอยู่เหมือนกัน แต่จะร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดูแลความปลอดภัยให้เป็นกรณีพิเศษนั้นต้องปรึกษากับพ่ออีกครั้งก่อน เพราะเอมไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับขั้นตอนอะไรเลย” น.ส.เจษยากล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับกระแสข่าวว่าดาราสาวมีแฟนเป็นนักโทษคดีค้ายาเสพติดอยู่ที่เรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรีนั้น น.ส.เจษยากล่าวปฏิเสธทันทีว่าไม่เป็นความจริง เพราะไม่เอาตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับคนไม่ดีอย่างนั้นแน่นอน ขนาดเพื่อนยังเลือกคบ แล้วแฟนจะไม่เลือกคบเชียวหรือ อีกทั้ง จะแจ้งความกลับข้อหาหมิ่นประมาทต่อกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดที่ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียงและวงศ์ตระกูล
รายงานข่าวระบุว่า วันนี้ดาราสาวค่ายกันตนาตั้งใจมาพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และ ผกก.สน.วังทองหลาง ในเวลา 21.00 น. เพราะได้นัดหมายกับ ผกก.ไว้ แต่ต้องการมาเคลียร์ข่าวกับสื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอตลอด 2 วันที่ผ่านมา จึงเดินทางมาพบสื่อมวลชนก่อน และเพื่อไม่ให้เสียเวลาเดินทางหลายครั้ง จึงประสานกับ พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสติ ผกก.สน.วังทองหลาง ก่อน ผกก.จะมอบหมายให้ พ.ต.ท.ชัยยุทธทำหน้าที่พนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเติมและรับแจ้งความเพิ่มจาก น.ส.เจษยา ดาราสาวค่ายกันตนา
