xs
xsm
sm
md
lg

ตร.คุมตัวผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนสาวในซ.โพธิ์แก้ว หวิดถูกประชาทัณฑ์

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตำรวจนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ โดยมีไทยมุงจำนวนมากมารอประชาทัฑณ์จนเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่กล้านำตัวผู้ต้องหาลงมาจากรถ
บช.น.แถลงผลจับกุมหนุ่มวินรับจ้างฆ่าข่มขืนหมกป่าสาวรอยสัก ซ.โพธิ์แก้ว หลังหลบหนีไปกบดานที่เพชบูรณ์ สารภาพขอบังคับมีเพศสัมพันธ์แต่ผู้ตายไม่ยอมจึงทำร้ายร่างกายจนสลบและลงมือข่มขืนแต่ไม่รู้ว่าเสียชีวิตแล้ว เผยก่อคดีในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 4 ครั้ง! ตำรวจพาไปทำแผนยจุดเกิดเหตุหวิดถูกประชาชนจำนวนมากมารอรุมประชาทัฑณ์จนเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่กล้านำลงมาจากรถ โดยมีเสียงสาปแช่งจากคนจำนวนมากที่ต่างมารุมดู พร้อมขออำนาจฝากขังทันทีโดยตำรวจคัดค้านการประกันตัว

วันนี้ (11 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 พ.ต.อ.สาโรช ซุ่นทรัพย์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ ผกก.สน.ลาดพร้าว พ.ต.ต.ธานี จิตรธรรม สว.สส.สน.ลาดพร้าว พร้อมชุดสืบสวน แถลงการจับกุม นายสุทธี หรือแหวน บุญพรหม อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 488/3 ซ.ลาดพร้าว 101 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 221/2556 ลงวันที่ 9 ก.พ. 2556 ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หรือรับของโจร” พร้อมของกลางจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีแดง หมายเลขทะเบียน อธป 340 กทม. กางเกงขายาวเปื้อนคราบโลหิตที่ใช้ในวันก่อเหตุ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 4 สีขาว ของผู้ตาย โดยจับกุมได้ที่บริเวณลานวัดศรีมงคล ตำบลและอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์

พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556 เจ้าหน้าที่พบศพ น.ส.อาภัสรา หรือหวาน โตเดช อายุ 20 ปี พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 19/22 ซ.โพธิ์แก้ว 4 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. ถูกฆ่าข่มขืนที่บริเวณกลางซอยโพธิ์แก้ว 3 แยก 13 ทางฝ่ายสืบสวน สน.ลาดพร้าว กก.สส.บก.น.4 และบก.สส.บช.น.ได้ทำการสืบสวนจากภาพถ่ายของผู้ตาย ลักษณะเสื้อผ้าและรอยสัก จนทราบว่าผู้ตายได้ขึ้นจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน อธป 340 กทม.ของผู้ต้องหาวันเกิดเหตุ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ดูภาพกล้องวงจรปิดจนสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้นำโทรศัพท์ไอโฟน 4 ของผู้ตายไปขายที่ร้านจำหน่ายโทรศัพท์ในซอยวัดเทพลีลา

จากนั้นจึงได้ติดตามตัวผู้ต้องหาไปยังที่พักบ้านยาย และมารดาละแวกใกล้จุดเกิดเหตุ จนพบเสื้อผ้าของนายสุทธีที่ใช้ในวันก่อเหตุ และยังตรวจค้นบริเวณรอบบ้านพักได้พบกางเกงชั้นในของผู้ตายจึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน แต่ขณะนั้นผู้ต้องหาหลบหนีไปกบดานยังจังหวัดเพชรบูรณ์ซึ่งเป็นภูมิลำเนาบ้านเกิดของทางญาติ เจ้าหน้าที่จึงตามไปจับกุมได้บริเวณดังกล่าว เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2556 เวลประมาณ 18.00 น. และควบคุมตัวมาสอบสวน

จากการสอบสวนนายสุทธีให้การรับสารภาพว่ามีอาชีพขับวินจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ที่ซอยแฮปปี้แลนด์สาย 1 ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2556 เวลาประมาณ 03.00 น. ขณะที่ตนขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างเข้ามาในซอยลาดพร้าว 101 ผู้ตายได้เรียกให้ไปส่งที่ร้าน 7-11 เพื่อซื้อบัตรเติมเงินแล้วให้กลับไปส่งที่บ้านพักในซอยดังกล่าว แต่ขณะนั้นตนได้ดื่มเบียร์มาก่อนจนเกิดอาการมึนเมาได้เกิดอารมณ์ทางเพศจึงพาผู้ตายไปในที่เปลี่ยวภายในซอยโรงเรียนอนุบาลราชพงษา และตนได้ถอดเสื้อวินจักรยานยนต์เบอร์ 60 เก็บไว้ในช่องเก็บของในรถ บังคับขอมีเพศสัมพันธ์แต่ผู้ตายเกิดขัดขืนจึงได้ทำร้ายจนสลบ จากนั้นนำตัวผู้ตายนั่งด้านหน้าจักรยานยนต์ โดยตนเองคร่อมด้านหลังพาขับขี่มาถึงพงหญ้าริมถนนกลางซอยโพธิ์แก้ว 3 แยก 13 ที่เกิดเหตุผู้ตายเกิดรู้สึกตัวขึ้นมา ตนจึงขอมีเพศสัมพันธ์อีกครั้ง แต่ผู้ตายก็ยังขัดขืนจึงได้ชกท้อง พร้อมเตะและกระทืบ รวมทั้งจับศีรษะผู้ตายโขกกับเนินหินจนผู้ตายสลบแล้วทำการข่มขืนผู้ตายจนสำเร็จความใคร่และได้หลบหนีไป แต่ที่ลงมือกระทำไปเพราะเมาแต่ไม่ได้เสพยาเสพติด กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว

นอกจากนี้ยังรับสารภาพอีกว่า เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้ว 4 ครั้ง คือ ครั้งแรกเมื่อประมาณเดือน ก.ย. 2555 ร่วมกับนายอนุชา หรือโอ๊ด ฉุดผู้หญิงจากร้านสภาดิน โดยใช้จักรยานยนต์จี้บังคับขึ้นรถพามาที่ป่าข้างสนามฟุตบอลอ่อนคุ้ม ซ.โยธินพัฒนา 3 แยก 8 นายโอ๊ดเป็นคนลงมือข่มขืน แต่ตนนั้นไม่ได้ร่วมข่มขืน ครั้งที่ 2 เมื่อประมาณเดือน ต.ค. 2555 ขับรถมาที่ซอยลาดพร้าว 101 พบผู้หญิงขับขี่จักรยานยนต์ไปปากซอยโพธิ์แก้ว บอกให้หยุดแล้วพาผู้หญิงไปข่มขืนที่ซอยโพธิ์แก้ว 3 แยก 13 ต่อมาครั้งที่ 3 เมื่อประมาณสิ้นเดือน พ.ย. 2555 ร่วมกับนายโอ๊ด พาหญิงสาวชื่อมิลด์ หรือมาย จากร้านณัฐคาราโอเกะ ยืมรถเก๋งของนายต่อซึ่งเป็นเพื่อนอยู่ที่ จ.ปทุมธานี พาไปที่ม่านรูดโดยหญิงสาวยินยอม และครั้งล่าสุดเมื่อประมาณกลางเดือน ม.ค. 2556 ตนได้ขี่จักรยานยนต์รับจ้างไปพบหญิงสาวให้ไปส่งที่ปากซอยลาดพร้าว 101 แต่ได้พาไปที่ซอยโรงเรียนอนุบาลราชพงษา แล้วลวนลามแต่ผู้หญิงหลบหนีขึ้นแท็กซี่ไปได้

จากการตรวจสอบประวัติพบว่า เคยถูกจับคดีครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายเมื่อยังเป็นเยาวชนมาก่อน และมีภรรยามา 4 คน โดยคนแรกหนีไป คนที่ 2 กินยาฆ่าตัวตาย คนที่ 3 ติดคุกข้อหายาเสพติด และคนปัจจุบันที่เดินทางมาในวันนี้สันนิษฐานว่าภรรยาผู้ต้องหาอาจทนพฤติกรรมนิสัยส่วนตัวไม่ได้ ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนฯ ยังจุดเกิดเหตุทันทีท่ามกลางไทยมุงจำนวนมากที่ต่างมารอรุมประชาทัฑณ์ผู้ต้องหาบ้ากามรายนี้ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหาลงมาจากรถได้เนื่องจากเกรงจะถูกประชาชนที่มายืนรอรุมประชาทัณฑ์จำนวนมากจนเสียชีวิตโดยมีเสียงสาปแช่งจากไทยมุงจำนวนมากตลอดเวลา

ต่อมาที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน (พงส.)สน.ลาดพร้าวได้นำตัวนายสุทธี หรือแหวน บุญพรหม อายุ 23 ปี อาชีพขี่รถจักรยานยนต์(จยย.)รับจ้าง ซ.แฮปปี้แลนด์สาย1 ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืน ชิงทรัพย์ผู้อื่นมายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลฝากขังครั้งแรก

กรณีเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ผู้ต้องหาได้รับน.ส.อภัสรา โตเดช อายุ 20 ปี ชาวจ.สมุทรปราการซ้อนท้ายรถจยย.ของผู้ต้องหาเพื่อไปซื้อบัตรเดิมเงินที่ร้านสะดวกซื้อ ผู้ต้องหาเห็นผู้ตายหน้าดีจึงเกิดอารมณ์ทางเพศพาผู้ตายไปในซอยเปลี่ยวและขอมีเพศสัมพันธ์ แต่ผู้ตายไม่ยอมจึงทำร้ายจนสลบจากนั้นได้พาขึ้นคร่อมรถจยย.ไปที่ซ.โพธิ์แก้ว3 แยก13 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ แต่ผู้ตายฟื้นขึ้นมาอีกจึงนำศีรษะโขกกับก้อนหินเพื่อต้องการให้สลบก่อนจะข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ก่อนชิงโทรศัพท์ไอโฟนของผู้ตายไปขายที่ซ.วัดเทพลีลา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมาจับศาลอาญาที่ 221/2556 ติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่วัดศรีมงคล ต.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ พร้อมรถจยย.ฮอนดาเวฟ ทะเบียน อธป 340 กรุงเทพมหานคร และกางเกงเปื้อนเลือดของผู้ต้องหา แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายเป็นเหตุถึงแก่ความตาย และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ

ขณะนี้ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาจนครบกำหนดแล้วแต่การสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จต้องสอบปากคำพยานอีกหลายปาก รอผลการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมและรอผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์และอื่นๆ ด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้จำนวน 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-22ก.พ.

ท้ายคำร้องพงส.ขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง อุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญทางผู้ต้องหายังได้กระทำผิดลักษณะเดียวกันนี้อีกหลายคดีหากปล่อยชั่วคราวจะหลบหนี ศาลสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.แถลงข่าวนจับกุมผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนสาวใน ซอยโพธิ์แก้ว ลาดพร้าว 101 อย่างเหี้ยมโหด สารภาพก่อเหตุมาอย่างโชกโชนถึง 4 ครั้ง
(แฟ้มภาพ)ผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
กำลังโหลดความคิดเห็น