ผบ.ตร.สั่งตั้งศูนย์ติดตามโครงการก่อสร้างโรงพัก พร้อมเตรียมสรุปแก้ปัญหาการก่อสร้างโรงพัก 396 แห่งล่าช้าวันพรุ่งนี้ว่าจะแก้ไขอย่างไร จ่อประมูลจัดซื้อจัดจ้างใหม่พร้อมยกเลิกสัญญา!
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีปัญหาในการก่อสร้างอาคารสถานีตำรวจ (ทดแทน) 396 แห่ง ว่าหลังจากคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามความคืบหน้าในการก่อสร้าง ชุดของ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. สรุปผลการประชุมในวันที่ 4 กุมภาพันธ์แล้ว จะส่งข้อมูลมาให้ตนพิจารณาตัดสินใจโดยเร็วที่สุด โดยจะนำเรื่องนี้เข้าพูดคุยกันในที่ประชุมมอบนโยบายระดับผู้บัญชาการหน่วยในวันที่ 5กุมภาพันธ์ ซึ่งจะเป็นการให้แนวทางปฏิบัติว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร
พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ตนได้ตั้งศูนย์ฯ ขึ้นมาติดตามเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยตั้งอยู่ที่ชั้น 19 อคาร 1 ตร. มี พล.ต.อ.วรพงษ์ดูแล มี พล.ต.ต.ชาลี เทพา รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนที่เชี่ยวชาญงานส่งกำลังบำรุง เป็นฝ่ายอำนวยการของศูนย์ โดยศูนย์นี้จะทำหน้าที่ขับเคลื่อนทุกด้าน ทั้งการบริหารสัญญาที่จะครบกำหนดในวันที่ 14 มีนาคม การส่งมอบงาน หลักฐานการฮั้วประมูล ตลอดจนการแก้ปัญหาให้โรงพักทั้ง 396 แห่ง การจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาในโรงพักอยู่ได้ รวมทั้งการกำหนดรูปแบบของที่ทำการชั่วคราวให้เป็นแบบเดียวกัน อาทิ จุดรับแจ้งความ เสมียนคดี ศูนย์วิทยุ ห้องควบคุม ซึ่งเป็นหัวใจของโรงพักให้สามารถทำงานได้ และการจัดหาใหม่ นอกจากนี้ตนจะจัดทดสอบความเป็นผู้นำหน่วย จัดประกวดโรงพักดีเด่นในกลุ่ม 396 แห่งที่มีปัญหาการก่อสร้าง ให้หัวหน้าหน่วยได้มีโอกาสพัฒนาโรงพัก ภาวะผู้นำในการแก้ปัญหา ตอนนี้ให้สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจไปออกหลักเกณฑ์การประกวด ซึ่งจะใช้พิจารณาประกอบการแต่งตั้งโยกย้ายเช่นเดียวกับโครงการประกวดโรงพักเพื่อประชาชนที่มีอยู่แล้ว อีกไม่นานคงจะดำเนินการโครงการนี้ได้ ส่วนกรณีจัดสร้างแฟลตรับรายงานว่ายังดำเนินการไปได้ จึงยังไม่รวมในศูนย์นี้
ผบ.ตร.กล่าวว่า หลัง พล.ต.อ.วรพงษ์เสนอผลสรุปว่า ตนจะตัดสินในโดยเร็วที่สุด แนวโน้มการตัดสินใจยึดอะไรก็ตามให้ตำรวจทำงานได้เร็วมีประสิทธิภาพ การจะยกเลิกสัญญาเมื่อไหร่นั้น ต้องมองในแง่กฎหมาย เพราะเป็นโครงการใหญ่ ต้องเร็วที่สุด การจะยกเลิกสัญญาทันที หรือรอให้ครบสัญญาก่อนต้องยึดหลักกฎหมายเพื่อยันระบบให้ได้ ถ้าเลื่อนไปอีกเดือนก็ไม่ต่างกันมาก หากเตรียมพร้อมจัดจ้างใหม่ไปพร้อมกันเลยได้ อย่างตอนนี้ก็มีการตั้งศูนย์ขึ้นมา ออกแอ็กชันแพลนสอดรับ เมื่อยกเลิกสัญญาก็จัดจ้างใหม่ได้ทันที
เมื่อถามว่าแนวทางตอนนี้ชัดเจนว่าจะไม่ต่อ หรือขยายสัญญากับบริษัทเดิมแล้วใช่หรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ถ้าข้อมูลครบอย่างที่ว่า ฮั้วประมูล มีการให้เช่าช่วงรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งตอนนี้ให้สำนักงานตรวจสอบภายใน ตร.เข้าไปตรวจสอบ ซึ่งจะตรวจสอบครอบคลุมถึงการจัดซื้อจัดจ้างในขณะทำโครงการ ว่ามีใครเกี่ยวข้องรับรู้ หากมีความผิด ทำให้ ตร.เสียหายต้องรายงานมายัง ตร.หากพบบกพร่องก็ต้องดำเนินการ ทั้งนี้ ก็สั่งการไปแล้วให้ผู้เกี่ยวข้องให้ข้อมูลแก่ทางดีเอสไอด้วย สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างใหม่ นั้นตนให้นโยบายไปแล้วว่าต้องกระจายอำนาจให้มากที่สุด