โฆษก บช.น.แถลงมาตการการจัดระเบียบสถานบริการในกรุงเทพมหานคร โดยได้กำหนดแผนไว้ 3 ระยะ เผยมีประชาชชนนเดือดร้อนร้องเรียนปัญหาสถานประกอบการจำนวนมาก สั่งชุดเฉพาะกิจตรวจจับทันทีหลังได้รับร้องเรียน
วันนี้ (28 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงข่าวเกี่ยวกับมาตรการในการดูแลและควบคุมสถานบริการของกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า ตามที่ บช.น.ได้ดำเนินการเรื่องการจัดระเบียบสถานบริการในกรุงเทพมหานคร โดยได้กำหนดแผนไว้ 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ตรวจสอบสภาพปัญหา ระยะที่ 2 วิเคราะห์สภาพปัญหาและปรับปรุงโซนนิ่ง และระยะที่ 3 การกำหนดคุณภาพมาตรฐานความปลอดภัยและการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย เพื่อรองรับประชาคมอาเซี่ยน
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบสภาพปัญหาพบว่าได้มีผู้เดือดร้อนจากสถานบริการหลายแห่งซึ่งมีเสียงดังรบกวนและเปิดเกินเวลาส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตปกติ และได้มีเรื่องร้องเรียนไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี, สำนักงานรองนายกรัฐมนตรี, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจเรตำรวจ เป็นจำนวนประมาณ 100 ราย ซึ่ง บช.น.ได้สั่งการให้สถานีตำรวจนครบาลพื้นที่ไปแก้ไขปัญหา แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวอีกว่า เพื่อให้ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขโดยเรียบร้อย ผบช.น. ได้สั่งการให้ชุดตรวจสอบสถานบริการของ บช.น. เปิดตู้ ปณ.191 ปณ.รองเมือง และเปิด E-Mail : metropol191 @ yahoo.com เพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน โดยเริ่มตั้งแต่ 25 ม.ค.นี้เป็นต้นไป โดยเมื่อได้รับการร้องเรียนก็ให้ชุดปฏิบัติการออกไปตรวจสอบและแก้ไขปัญหาโดยทันที
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงที่ผ่านมาชุดปฏิบัติการสถานบริการของ บช.น.ได้ออกไปตรวจสอบกรณีประชาชนร้องเรียนเนื่องด้วยความเดือดร้อนจากสถานบริการ ซึ่งบาง สน.ก็เข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหา แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้แบบเบ็ดเสร็จ เนื่องจากติดปัญหาด้านช่องว่างกฎหมาย แต่ก็มีบาง สน.ปล่อยปละละเลย ดังนั้น นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปให้ทุก สน.เข้ามาดูแลความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเต็มที่ ถ้าหากพื้นที่ใดปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนจะต้องถูกพิจารณาทางวินัยและถูกลงฑัณฑ์
“กรณีการควบคุมและจัดระเบียบสถานบริการ ซึ่งเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้มีนโยบายในการควบคุมสถานบริการ ดังนี้ 1. ให้ทุกพื้นที่พิจารณาออกใบอนุญาตเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อควบคุมจำนวนสถานบริการ 2. กรณีสถานบริการที่ได้รับอนุญาต หากกระทำผิดกฎหมาย หรือฝ่าฝืนตามที่ขออนุญาตไว้ ให้สั่งพักใบอนุญาตรวมถึงเพิกถอนใบอนุญาต และ 3. กรณีสถานบริการที่เปิดให้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาตให้กวดขันจับกุมดำเนินการอย่างจริงจัง” พล.ต.ต.อดุลย์กล่าว
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวปิดท้ายว่า ทาง บช.น.โดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ดำเนินการตามสั่งการโดยเคร่งครัด และสั่งการให้ชุดปฏิบัติการตรวจสอบสถานบริการออกไปตรวจสอบกวดขันอย่างจริงจังต่อไป อย่างไรก็ตาม บช.น.มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาสถานบริการผิดกฎหมาย และมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบให้ครบถ้วนอย่างเป็นรูปธรรม ตามแผนงานทั้ง 3 ระยะที่กำหนดไว้อย่างแท้จริง โดยภายในเดือน ก.พ. 2556 จะรวบรวมสภาพปัญหามาวิเคราะห์ และจะได้นำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการของกระทรวงมหาดไทย ให้พิจารณาปรับปรุงแก้ไขปัญหา ทั้งการปรับปรุงโซนนิ่ง และปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้ครบถ้วยและเป็นรูปธรรมต่อไป
วันนี้ (28 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงข่าวเกี่ยวกับมาตรการในการดูแลและควบคุมสถานบริการของกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า ตามที่ บช.น.ได้ดำเนินการเรื่องการจัดระเบียบสถานบริการในกรุงเทพมหานคร โดยได้กำหนดแผนไว้ 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ตรวจสอบสภาพปัญหา ระยะที่ 2 วิเคราะห์สภาพปัญหาและปรับปรุงโซนนิ่ง และระยะที่ 3 การกำหนดคุณภาพมาตรฐานความปลอดภัยและการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย เพื่อรองรับประชาคมอาเซี่ยน
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบสภาพปัญหาพบว่าได้มีผู้เดือดร้อนจากสถานบริการหลายแห่งซึ่งมีเสียงดังรบกวนและเปิดเกินเวลาส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตปกติ และได้มีเรื่องร้องเรียนไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี, สำนักงานรองนายกรัฐมนตรี, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจเรตำรวจ เป็นจำนวนประมาณ 100 ราย ซึ่ง บช.น.ได้สั่งการให้สถานีตำรวจนครบาลพื้นที่ไปแก้ไขปัญหา แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวอีกว่า เพื่อให้ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขโดยเรียบร้อย ผบช.น. ได้สั่งการให้ชุดตรวจสอบสถานบริการของ บช.น. เปิดตู้ ปณ.191 ปณ.รองเมือง และเปิด E-Mail : metropol191 @ yahoo.com เพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน โดยเริ่มตั้งแต่ 25 ม.ค.นี้เป็นต้นไป โดยเมื่อได้รับการร้องเรียนก็ให้ชุดปฏิบัติการออกไปตรวจสอบและแก้ไขปัญหาโดยทันที
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงที่ผ่านมาชุดปฏิบัติการสถานบริการของ บช.น.ได้ออกไปตรวจสอบกรณีประชาชนร้องเรียนเนื่องด้วยความเดือดร้อนจากสถานบริการ ซึ่งบาง สน.ก็เข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหา แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้แบบเบ็ดเสร็จ เนื่องจากติดปัญหาด้านช่องว่างกฎหมาย แต่ก็มีบาง สน.ปล่อยปละละเลย ดังนั้น นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปให้ทุก สน.เข้ามาดูแลความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเต็มที่ ถ้าหากพื้นที่ใดปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนจะต้องถูกพิจารณาทางวินัยและถูกลงฑัณฑ์
“กรณีการควบคุมและจัดระเบียบสถานบริการ ซึ่งเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้มีนโยบายในการควบคุมสถานบริการ ดังนี้ 1. ให้ทุกพื้นที่พิจารณาออกใบอนุญาตเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อควบคุมจำนวนสถานบริการ 2. กรณีสถานบริการที่ได้รับอนุญาต หากกระทำผิดกฎหมาย หรือฝ่าฝืนตามที่ขออนุญาตไว้ ให้สั่งพักใบอนุญาตรวมถึงเพิกถอนใบอนุญาต และ 3. กรณีสถานบริการที่เปิดให้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาตให้กวดขันจับกุมดำเนินการอย่างจริงจัง” พล.ต.ต.อดุลย์กล่าว
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวปิดท้ายว่า ทาง บช.น.โดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ดำเนินการตามสั่งการโดยเคร่งครัด และสั่งการให้ชุดปฏิบัติการตรวจสอบสถานบริการออกไปตรวจสอบกวดขันอย่างจริงจังต่อไป อย่างไรก็ตาม บช.น.มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาสถานบริการผิดกฎหมาย และมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบให้ครบถ้วนอย่างเป็นรูปธรรม ตามแผนงานทั้ง 3 ระยะที่กำหนดไว้อย่างแท้จริง โดยภายในเดือน ก.พ. 2556 จะรวบรวมสภาพปัญหามาวิเคราะห์ และจะได้นำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการของกระทรวงมหาดไทย ให้พิจารณาปรับปรุงแก้ไขปัญหา ทั้งการปรับปรุงโซนนิ่ง และปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้ครบถ้วยและเป็นรูปธรรมต่อไป