หน.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อัดตำรวจสั่งไม่ฟ้อง “สารวัตรสืบ ปราณฯ” อ้างหลักฐานไม่เพียงพอฟังไม่ขึ้น ชี้ ตร.ไม่ใช่ชุดจับกุม ไม่ได้เข้าพื้นที่ไม่เห็นพฤติการณ์การกระทำความผิดจริงน่าจะสั่งฟ้องไปก่อนตามกระบวนการยุติธรรม ชี้ตำรววจมีเจตนาช่วยเหลือพวกเดียวกันอย่างเห็นได้ชัดจนไม่แคร์ความถูกต้อง เตรียมทำเรื่องถึงกรมอุทยานฯ ดำเนินการต่อไป ด้าน รมว.ทรัพยากรฯ ให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ดำเนินการตามขั้นตอน ว่ากันตามเนื้อผ้าชี้เรื่องนี้มีคณะกรรมการร่วมตรวจสอบ
วานนี้ (23 ม.ค.) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวถึงกรณีที่พนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี สรุปสำนวนพร้อมความเห็นสั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี สว.สส.สภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อพนักงานอัยการ กรณีที่ปรากฏภาพร่วมอยู่ในขบวนการล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ว่าเหตุผลในการสั่งไม่ฟ้องนั้นอ้างไม่ได้ เพราะตัวท่านเองไม่ได้เข้าพื้นที่ ไม่เห็นว่าสภาพพื้นที่จริงเป็นอย่างไร ทั้งๆ ที่เรามีหลักฐานชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้ควรสั่งฟ้องไปก่อน ส่วนกระบวนการยุติธรรมจะเป็นอย่างไรค่อยว่ากันต่อไป แต่นี่เป็นการจงใจและเจตนาช่วยเหลือพวกเดียวกันมากเกินไป จากนี้ตนก็จะรวบรวมข้อมูลรายละเอียดเพื่อเสนอไปยังกรมอุทยานฯ และกรทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
นายชัยวัฒน์กล่าวอีกว่า ในเบื้องต้นจะให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ แก่งกระจาน เข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง และถ่ายภาพในจุดที่เกิดเหตุ เพื่อเทียบเคียงสภาพแวดล้อมกับภาพถ่ายที่เราใช้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งทำพิกัดที่ชัดเจนออกมา รวบรวมเป็นพยานหลักฐานส่งให้ ผวจ.เพชรบุรีอีกครั้ง ซึ่ง ผวจ.เพชรบุรีน่าจะมีอำนาจมากที่สุดในขณะนี้ เพราะถือเป็นผู้บังคับบัญชาของนายอำเภอแก่งกระจาน ที่เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน เพื่อให้สอบสวนพยานหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนในชั้นอัยการตนไม่แน่ใจว่าจะส่งข้อมูลไปให้เพิ่มเติมได้หรือไม่
“ในกรณีของผมหากแจ้งความ พ.ต.ท.ธีรยุทธไปพร้อมผู้ต้องหาทั้ง 8 รายตั้งแต่แรกโดยไม่มีหลักฐานภาพถ่ายมาประกอบ คงถูกฟ้องร้องกลับอย่างหนักแล้ว แต่เรามีหลักฐานเป็นภาพถ่ายประกอบอย่างชัดเจน แต่เขากลับไม่สั่งฟ้อง ซึ่งผมคิดว่าเขาคิดผิดมากที่ทำแบบนี้” นายชัยวัฒน์กล่าว
ด้านนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ แก่งกระจานจะดำเนินการต่อไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ก็ให้รายงานขึ้นมาตามลำดับชั้น ส่วนใครผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก เรื่องนี้มีคณะกรรมการจากทุกภาคส่วนร่วมตรวจสอบอยู่แล้ว