“เฉลิม” พร้อมด้วย ผบ.ตร.แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดพร้อมของกลางยาบ้า 1.2 ล้านเม็ด และยาไอซ์ 46 กก. รถกระบะยี่ห้อฟอร์ด สีน้ำเงิน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 11 มกราคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. แถลงผลการจับกุม นายสุรพล พรหมนิมิตร อายุ 25 ปี ชาว จ.นนทบุรี พร้อมของกลางยาบ้า 1.2 ล้านเม็ด และยาไอซ์ 46 กก. รถกระบะยี่ห้อฟอร์ด สีน้ำเงิน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง โดยจับกุมได้บนถนนพหลโยธิน เยื้องหน้าวัดแม่คำ ต.แม่คำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส.ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีขบวนการลักลอบขนยาเสพติดจากชายแดน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เพื่อนำไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ กทม. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์จึงสั่งการให้ศูนย์สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดทำการสืบสวนจับกุม พร้อมตั้งด่านสกัดกั้น กระทั่งพบรถกระบะต้องสงสัยตรงตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับจึงแสดงตัวขอเข้าตรวจค้น พบผู้ต้องหาขับรถมาเพียงคนเดียว แต่งกายด้วยชุดลายพรางทหารบกสีเขียว ติดยศ พ.ท. ซึ่งผู้ต้องหาได้แสดงบัตรประจำตัวในสังกัดกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน. พร้อมแจ้งว่าเป็นนายทหาร แต่ตำรวจไม่เชื่อ ก่อนตรวจค้นภายในรถพบยาเสพติดของกลางจำนวนดังกล่าวบรรจุในถุงเป้สีเขียวจำนวน 3 ใบ และกระสอบป่าน 14 ใบ
ทั้งนี้ จากการสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาไม่ได้เป็นทหาร แต่ได้รับคำสั่งให้แต่งเครื่องแบบพร้อมพกบัตรเพื่อใช้ในการหลีกเลี่ยงการตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ อีกทั้งจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา เพิ่งพ้นโทษจำคุก 20 ปี ในคดียาเสพติด (เฮโรอีน) เมื่อเดือน ส.ค. 2555
คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.นำโดย พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ ผบก.ประจำ บช.ปส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมกันจับกุมนายพิทักษ์ หรือตง กำธรเดชะ อายุ 34 ปี นายเอกลิขิต หรือแซ่เกอ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 896,000 เม็ด และยาไอซ์ 1 กก.โดยจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถห้างบิ๊กซี สาขาพระนครศรีอยุธยา เลขที่ 80 หมู่ที่ 2 ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า, ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีขบวนการชาวเขาเผ่าม้งลักลอบขนยาเสพติดมาจากภาคเหนือเพื่อไปส่งให้ลูกค้าที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาพระนครศรีอยุธยา จึงได้ส่งกำลังไปสังเกตบริเวณห้างและรอบๆ บริเวณที่จอดรถของห้าง จนพบผู้ต้องหาที่มีลักษณะเป็นชาวเขาเผ่าม้งเดินอยู่บริเวณลานจอดรถจึงเข้าไปแสดงตัวเข้าจับกุมและไปตรวจค้นที่รถได้ของกลางดังกล่าว
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าดังกล่าวได้รับค่าจ้างจากนายไนม์ ไม่ทราบนามสกุล เป็นเงิน 60,000 บาทจากจังหวัดตาก ให้มาส่งให้ลูกค้าที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเมื่อมาถึงที่หมายไม่สามารถติดต่อนายไนม์ทางโทรศัพท์ไม่ได้จึงไม่รู้ว่าลูกค้าเป็นใคร
คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบมาว่า จะมีขบวนการลักลอบขนยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือมาส่งมอบให้กับลูกค้าใน จ.ตาก จึงทำการสืบสวนติดตามกระทั่งสืบทราบว่าผู้ค้ายาเสพติดได้เข้าพักอาศัยอยู่ที่โรงแรมพีพี รีสอร์ท จ.ตาก เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังแอบซุ่มดูเหตุการณ์พบรถกระบะแค็บยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ฒย 2270 กทม. จอดอยู่ในรีสอร์ต ต่อมามีนายวรัญญู แซ่ซ้ง อายุ 33 ปี ชาว จ.ตาก ขับออกจากที่พักไปจอดริมถนนหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาตาก และมีรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บจ 1799 ตาก มีนายสัมฤทธิ์ แซ่เฮ่อ อายุ 36 ปี ชาว จ.ตาก ขับเข้ามาจอดต่อท้าย จากนั้นรถกระบะทั้งสองคันได้ขับออกไปจอดบริเวณริมถนนจรดวิถีถ่อง ขาเข้าเมืองตาก ต.น้ำรึม อ.เมือง จ.ตาก ต่อมามีรถยนต์หมายเลขทะเบียน บฉ7572 ตาก มีนายจรินทร์ ทรงสวัสดิ์วงศ์ อายุ 32 ปี ชาว จ.ตาก ขับรถเข้ามาจอดระหว่างรถสองคัน จากนั้นนายสัมฤทธิ์และนายจรินทร์ ได้ลงจากรถมาคุยกันก่อนที่ทั้งสองจะช่วยกันยกกระสอบปุ๋ยสีขาวลงจากรถกระบะของนายจรินทร์เพื่อนำไปเก็บในรถกระบะของนายสัมฤทธิ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นรถยนต์ทั้ง 3 คัน พบกระสอบปุ๋ย เป้ทหารสีเขียวจำนวน 2 ใบ ภายในเป้มียาบ้ารวมทั้งหมด 20 แพกๆ ละ 5 มัด รวมทั้งหมด 200,000 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต