ม็อบชาวบ้านบางกรวยประท้วงขับไล่เจ้าอาวาสดัง

นนทบุรี - ชาวบ้านกว่า 300 คนประท้วงขับไล่เจ้าอาวาสวัดดัง หลังทางวัดประกาศยกเลิกการเช่าที่ดินวัดเพื่อนำไปสร้างเจดีย์

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (8 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ที่อำเภอบางกรวยได้มีชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่ติดกับวัดอุบลวนาราม ม.3 ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี กว่า 300 คนได้รวมตัวกันเดินทางมาร้องเรียนต่อทางอำเภอให้ช่วยยับยั้งคำสั่งของพระมหาสกรัตน กิตติโก เจ้าอาวาสวัดอุบลวนาราม ที่ให้ชาวบ้านซึ่งเช่าที่ดินของวัดอยู่อาศัยมาตั้งแต่ปูย่าตายาย รวมถึงโรงเรียนเทศบาลวัดอุบลวนาราม ย้ายออกไปอยู่ที่อื่น โดยไม่มีการแจ้งให้ชาวบ้านทราบล่วงหน้า สร้างความไม่พอใจให้ชาวบ้านอย่างมาก ทั้งนี้เพื่อที่ทางวัดจะนำที่ดินดังกล่าวกว่า 20 ไร่มาสร้างพระมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

จากการสอบถามนายพงษ์ศักดิ์ อัจฉริยะประสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลปลายบาง กล่าวว่า ที่ชาวบ้านมาร่วมตัวกันในวันนี้เพื่อเรียกร้องให้ทางอำเภอซึ่งเป็นหน่วยงานราชการเข้าไปพูดคุยเจรจากกับทางเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว ในการที่ทางวัดได้มีหนังสือประกาศยกเลิกสัญญาเรื่องการให้เช่าที่ดินของวัดตารางวาละ 1 บาททั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากผู้เช่าที่ดินของวัดบางรายไม่เรียบร้อย และมีพฤติกรรมสร้างต่อเติมบ้านเรือนเสมือนที่ดินของตนเองอันเป็นเหตุนำมาซึ่งความเสื่อมแก่วัด ซึ่งในสวนของตนเองนั้นได้รับหนังสือดังกล่าวที่ส่งมายังเทศบาลปลายบางเนื่องจากโรงเรียนเทศบาลวัดอุบลวนารามเป็นโรงเรียนที่อยู่ในความดูแลของเทศบาลและอยู่ในพื้นที่ของวัดดังกล่าวด้วย จึงเรียกร้องให้ทางวัดทำการประชุมร่วมกับชาวบ้านที่อยู่อาศัยเสียก่อนที่จะมีการออกเป็นหนังสือมาแบบนี้ เพราะการย้ายโรงเรียนเทศบาลวัดอุบลวนารามซึ่งเปิดสอนนักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงประถมศึกษาปี่ที่ 6 นั้นต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 60-70 ล้านบาท ซึ่งทางเทศบาลไม่มีงบประมาณมากในการย้ายโรงเรียนดังกล่าว

ด้านนายสมนึก สุขสำราญ อายุ 52 ปี กำนันตำบลปลายบางกล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเมื่อปี 2546 พระมหาสกรัตนได้มารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแทนเจ้าอาวาสรูปเก่าที่มรณภาพลง หลังจากนั้นไม่นานพระมหาสกรัตนก็ได้ทำการปลดกรรมการวัดชุดเก่าที่เป็นคนพื้นที่ทั้งหมดออกและให้คนของตัวเองที่เป็นคนต่างจังหวัดมาทำหน้าที่แทน จนสร้างความขัดแย้งกับชาวบ้านถึงขั้นรวมตัวกันทำหนังสือร้องเรียนไปยังเจ้าคณะจังหวัดที่วัดสำโรง จนเจ้าคณะจังหวัดในขณะนั้นได้มีการเรียกประชุมชาวบ้านและเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวเพื่อหาทางยุติ โดยได้ข้อสรุปว่าให้ตัวแทนของชาวบ้านมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมของวัด เหตุการณ์จึงยุติลง

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2555 ทางวัดมาได้ออกหนังสือยกเลิกสัญญาเช่าที่ดินดังกล่าวโดยไม่ได้มีการสอบถามความคิดเห็นของชาวบ้าน ซึ่งทางวัดให้เหตุผลว่าจะนำที่ดินดังกล่าวมาสร้างพระมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ใช้งบประมาณกว่า 1 พันล้านบาท ตนและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในที่ดินของวัดเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรจะทำ เพราะหากสร้างได้จริงทางวัดจะนำเงินมากขนาดนั้นจากไหนมาสร้าง และชาวบ้านที่เช่าที่ของวัดอยู่อีกกว่า 1 พันคนจะไปอยู่กันที่ไหน แถมยังต้องทุบทำลายโรงเรียนวัดอุบลวนารามซึ่งลูกหลานของชาวบ้านในละแวกดังกล่าวใช้ศึกษาหาความรู้กันมากว่า 70 ปีอีกด้วย

ต่อมาเวลา 14.00 น. นายพิษณุ เสนาวิน นายอำเภอบางกรวย ได้เรียกตัวแทนชาวบ้านขึ้นไปพบเป็นการส่วนตัวนานกว่า 1 ชม. โดยได้ข้อสรุปว่าทางอำเภอจะทำหนังสือข้อเรียกร้องของชาวบ้านส่งไปยั่งเจ้าคณะจังหวัดที่ดูแลรับผิดชอบวัดดังกล่าว และผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อหาทางช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป ซึ่งหลังทราบผลการประชุมชาวบ้านได้ร่วมตัวกันไปปิดล้อมวัดอุบลวณารามและตะโกนขับไล่เจ้าอาวาสวัดดังกล่าวให้ออกจากวัดไป ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามพระลูกวัดดังกล่าวเพื่อขอเข้าพบเจ้าอาวาสวัดแต่ได้รับการปฏิเสธว่าเจ้าอาวาสวัดไม่อยู่และไม่มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อแต่อย่างใด