xs
xsm
sm
md
lg

พ่อร้อง ป.รื้อคดีลูกชายถูกจับเป็นแพะฆ่าแฟนสาวในมช.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายธวัชชัย ใจสมัคร อายุ 58 ปี   เข้าพบ พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม พนักงานสอบสวน สบ 4 กลุ่มงานสอบสวน บก.ป.เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีที่ นายวุฒิชัย ใจสมัคร อายุ 35 ปี หนึ่งในเจ้าของร้านวอร์มอัพ บุตรชาย ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม น.ส.เบญจพรณ์ หรือแอนนี่ ผ่องผิว อายุ 27 ปี แฟนสาว
พ่อร้องกองปราบรื้อคดีลูกชายถูกจำคุกตลอดชีวิต กรณีถูกกล่าวหาฆาตกรรมแฟนสาวใน ม.เชียงใหม่ เผยพบหลักฐานดีเอ็นเอในศพผู้ตายไม่ตรงกับลูกชาย ซัดตำรวจท้องที่ปกปิดข้อมูล


วันนี้ ( 7 ม.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 12.00 น.นายธวัชชัย ใจสมัคร อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ถ.วงแหวนรอบกลาง ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เข้าพบ พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม พนักงานสอบสวน สบ 4 กลุ่มงานสอบสวน บก.ป.เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีที่ นายวุฒิชัย ใจสมัคร อายุ 35 ปี หนึ่งในเจ้าของร้านวอร์มอัพ บุตรชาย ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม น.ส.เบญจพรณ์ หรือแอนนี่ ผ่องผิว อายุ 27 ปี แฟนสาว สภาพศพมีผ้าพันคอสีดำปิดตา แขนทั้งสองถูกมัดด้วยเข็มขัดนิรภัย คอถูกรัดด้วยเข็มขัดนิรภัยติดกับต้นกระถินภายในป่าละเมาะหลังปั๊มน้ำมัน ปตท. ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2548
        
นายธวัชชัย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงค์ จ.เชียงใหม่ ได้ควบคุมตัวลูกชายมาสอบสวน จากนั้นได้สั่งไม่ฟ้องเนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ ต่อมา นายสุเมธ ผ่องผิว บิดาของ น.ส.เบญจภรณ์ ผู้ตายได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเอง กระทั่งศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต จากนั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ทั้งนี้ลูกชายตนได้ปฏิเสธตลอดว่าไม่ได้ลงมือฆ่าแฟนสาวเนื่องจากก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวต้มกับแฟนสาวจริง จากนั้นได้แยกย้ายกันไป โดยแฟนสาวไปขายของที่หน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ส่วนลูกชายไปเป็นดีเจเปิดเพลงที่ร้านวอร์มอัพ โดยเวลา 4 ทุ่ม ได้นัดเจอกันที่ร้านเพื่อฉลองงานแต่งของเพื่อน กระทั่งกลายมาเป็นผู้ต้องหาฆ่าแฟนสาวดังกล่าว
        
นายธวัชชัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ทางฝ่ายโจทย์ มี พ.ต.ท.นายหนึ่งมาช่วยในด้านการหาพยานหลักฐานโดยได้นำพยานซึ่งเป็นเจ้าของร้านข้าวต้ม ซึ่งให้การว่าก่อนเกิดเหตุเห็นผู้ตายกับลูกชายไปกินข้าวต้มด้วยกัน นอกจากนี้ทางฝ่ายโจทก์ได้นำหลักฐานซึ่งเป็นกากเพชรจากเข็มขัดผู้ตายซึ่งตกอยู่บนเสื้อลูกชายมาเป็นหลักฐานกระทั่งศาลสั่งจำคุกดังกล่าว
        
"หลังลูกชายถูกสั่งจำคุกตลอดชีวิต ผมกับเพื่อนลูกชายก็ช่วยกันหาพยานหลักฐานมาต่อสู้ กระทั่งไปได้เอกสารสำคัญซึ่งเป็นผลตรวจดีเอ็นเอ ของภาคนิติวิทยาศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งยืนยันว่าผู้ตายถูกข่มขืน และฆาตกรรม โดยผลตรวจดีเอ็นเอคราบอสุจิและน้ำอสุจิที่ติดกระดาษชำระในที่เกิดเหตุ และรอยเศษเนื้อเยื่อในซอกเล็บผู้ตายไม่ตรงกับลูกชายผม ซึ่งผลการตรวจดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจปกปิดไว้ตลอด จึงเข้าร้องกองปราบปรามให้ความเป็นธรรมกับบุตรชายด้วย"นายธวัชชัย กล่าว
        
นายธวัชชัย กล่าวด้วยว่า เท่าที่ทราบมาลูกชายตนมักทะเลาะกับผู้ตายเป็นประจำ เนื่องจากผู้ตายมีชายหนุ่มมาติดพันหลายคน โดยหนึ่งในนั้นมีบุตรชายตำรวจยศ ด.ต.นายหนึ่งในภาค 5 ซึ่งเบื้องต้นตกเป็นผู้ต้องสงสัยด้วย แต่หลังจากบุตรชายตนถูกศาลอุทธรณ์สั่งจำคุกตลอดชีวิตตนได้ไปขอหลักฐานการสอบสวน ผลการตรวจดีเอ็นเอและบันทึกการสอบปากคำ ของลูกชายตำรวจคนดังกล่าว จากพนักงานสอบสวน ปรากฏว่าหลักฐานทั้งหมดกลับหายไปแล้ว
        
ด้าน พ.ต.อ.สุวัฒน์ ได้ประสานให้ พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป.สอบปากคำผู้ร้องไว้ ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
        
กำลังโหลดความคิดเห็น