เกิดเหตุผู้ต้องหาคดีวิ่งราวทรัพย์ใช้สายไฟแขวนคอเสียชีวิตคาห้องขัง สน.สามเสน ญาติเผยผู้ตายเครียดหลังถูกจับกุมขอกอดเมียคาห้องขังแต่เมียไม่ให้กอด! จึงก่อเหตุสลด
วันนี้ (20 ธ.ค.) เมื่อเวลา 06.30 น. พ.ต.อ.เจษฎา สวยสม ผกก.สน.สามเสน รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจร้อยเวร ว่า นายอรรถพล หรือป๊อบ วัฒนวิเชียร อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาคดีวิ่งราวทรัพย์ ใช้สายไฟผูกคอตัวเองเสียชีวิตภายในห้องคุมขัง จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พฐ. แพทย์วชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุภายในห้องน้ำห้องขัง สน.ดังกล่าว พบศพผู้ต้องหาใช้สายไฟผูกคอกับกรงเหล็กหลังประตูห้องน้ำ สภาพสวมเสื้อยืดของกลมสีม่วง กางเกงลายสกอตขาสั้นสีม่วง โดยที่ลำคอมีรอยแผลไหม้ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6 ชั่วโมง ทั้งนี้ ผู้ต้องหาถูกจับกุมและถูกคุมขังเพียงคนเดียว โดยไม่มีผู้ต้องหารายอื่นๆ
พ.ต.อ.เจษฎาเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.นิรันดร์ คิดบรรจง รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ท.สุรเสน อินทร์จันทร์ สว.สส.สน.สามเสน พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน ได้จับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 2181/2555 ลงวันที่ 18 ธันวาคม 2555 ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ที่บริเวณใกล้ปากทางเข้าหมู่บ้านหรรษา ซ.เพชรเกษม 93 ถ.เพชรเกษม ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เมื่อคืนที่ผ่านมา และสามารถทำการยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก เช่น กระเป๋าสุภาพสตรี โทรศัพท์มือถือ และพาสสปอตร์ของผู้เสียหายที่เป็นชาวต่างชาติ
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาได้ใช้จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สีเขียวคาดน้ำเงิน ตระเวนก่อเหตุในหลายพื้นที่ ทั้ง สน.พญาไท สน.พหลโยธิน สน.บางซื่อ สน.สุทธิสาร รวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง ซึ่งทรัพย์สินที่ได้มาจะนำไปขายต่อนำเงินไปเที่ยวเตร่และซื้อยาเสพติดเสพ นอกจากนี้ ในวันนี้ (20 ธ.ค.) เวลา 11.00 น. จะนำตัวผู้ต้องหาไปแถลงข่าวที่ บช.น. แต่ทางผู้ต้องหาได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้นเสียก่อน คาดว่าสาเหตุน่ามาจากความเครียด เพราะก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาเคยถูกจับกุมที่ สน.เตาปูน เมื่อปี 2541 และต้องโทษจำคุก 8 ปี แต่เมื่อพ้นโทษ ผู้ต้องหาก็มาก่อเหตุอีกครั้งหนึ่ง
ด้านญาติๆ ของผู้ต้องที่เสียชีวิตต่างเดินทางมาดูศพพร้อมกล่าวสั้นๆ ว่า ผู้ตายเครียดหลายเรื่อง ซึ่งเมื่อวานนี้ช่วงก่อนเข้าห้องขังได้ขอกอดเมียรักแต่ถูกปฏิเสธ แต่ไม่ได้ติดใจการเสียชีวิตแต่อย่างใด