สตช.แถลงจับกุมตำรวจนอกแถวค้นยาเสพติด 1 ล้านเม็ด เข้าสู่ตอนในของประเทศ โดยลำเลียงมาจากทางภาคเหนือ จว.เชียงราย ใช้รถยนต์ตราโล่ของทางราชการตำรวจ สภ.อวน จว.น่าน เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ไม่ให้ตรวจค้น ซึ่งร่วมมือกับชาวลีซอ รวมทั้งหมด 8 ราย จากการตรวจสอบพบว่า 1 ในเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำผิดเพิ่งย้ายมาจากตชด.ไม่นานมานี้ ด้าน “เฉลิม” ลั่นจะตรวจสอบรถตำรวจทุกคันที่มาจากทางภาคเหนือ พร้อมกับขยายผลหาเครือข่ายต่อไป
วันนี้ (15 ธ.ค.) เวลา 15.00 น.ที่ห้องสารสิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.และ เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. และ พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส.ร่วมแถลงผลจับกุมขบวนการยาเสพติดรายสำคัญ 8 ราย ประกอบด้วย ร.ต.ต.จิตติพงษ์ โสไชย รอง สวป.สภ.อวน จว.น่าน อายุ 42 ปี, ด.ต.อรรถพล คำแสน ผบ.หมู่ ป.สภ.อวน จว.น่าน อายุ 42 ปี, พ.ต.ท.ธรรมนูญ นาคบัว สว.สภ.อวน จว.น่าน อายุ 40 ปี, ด.ต.สักกพงษ์ เชียงหนุ้น ผบ.หมู่ ป.สภ.อวน จว.น่าน อายุ 39 ปี, ด.ต.นลธวัช พรรษา ผบ.หมู่ ป.สภ.อวน จว.น่าน อายุ 37 ปี, นายวิชาญ ลาวมี่ อายุ 21 ปี, นางสาวเบญจพร เที่ยงกินรี อายุ 23 ปี และนายอุดมศักดิ์ แซ่เติ๋น อายุ 36 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 1,000,000 เม็ด รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีขาวแดงเลือดหมู ติดตราโล่เขน หมายเลขทะเบียน ญภ 8978 กรุงเทพมหานคร รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีเทา หมายเลขทะเบียน สล 9138 กรุงเทพมหานคร รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน บน 8666 แพร่ อาวุธปืนพกขนาด .38 ยี่ห้อ SMITH & WESSSON สีดำทะเบียนโล่เขน 4 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 30 นัด อาวุธปืนพก กึ่งออโตเมติก รุ่น CZ 83 ขนาด 9 มม.พร้อมเครื่องกระสุน 24 นัด และโทรศัพท์ยี่ห้อต่างๆ รวม 12 เครื่อง
ร.ต.อ.ดร.เฉลิม เปิดเผยว่า สืบเนื่องเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากทางภาคเหนือ มาส่งมอบให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและใกล้เคียง ซึ่งขบวนการดังกล่าวใช้รถยนต์ ตราโล่ของตำรวจเป็นพาหนะในการลำเลียง จึงวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ บริเวณถนนสายเอเซียขาเข้าช่วง จว.อ่างทอง และ จว.พระนครศรีอยุธยา และถนนสายต่างๆ จนกระทั่งเวลาประมาณ 13.00 น.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน พบรถยนต์ติดตราโล่ของทางราชการตำรวจ หมายเลขทะเบียน ญภ 8978 กรุงเทพมหานคร ใช้ในราชการของ สภ.อวน จว.น่าน คันของกลาง พบว่า ด้านหลังแค็บหลังมีกระสอบและกล่องสัมภาระอยู่ จึงเชื่อว่าอาจจะเป็นรถยนต์ของขบวนการลักลอบค้ายาเสพติด
ร.ต.อ.ดร.เฉลิม กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่จึงได้สะกดรอยตามพบว่า รถยนต์ สภ.อวน คันดังกล่าวได้ขับแซงขึ้นไปอยู่ด้านหน้ารถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน บน 8666 แพร่ ซึ่งรถยนต์ทั้งสองคันได้วิ่งตามกันไปเรื่อยๆโดยรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน บน 8666 แพร่ ได้เข้าไปจอดในร้านอาหารแม่ลาปลาเผา ส่วนรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน ญภ 8978 กรุงเทพฯ สภ.อวน มุ่งหน้าเข้าตัวเมือง จว.พระนครศรีอยุธยา โดยมีพิรุธเหมือนกับทราบมีรถยนต์คันอื่นติดตามอยู่ จนกระทั่งมาถึงบริเวณถนนด้านหน้าโรงแรมริเวอร์ วิว เพลส ถนนอู่ทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จว.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้สกัดรถยนต์ของ สภ.อวน ให้หยุดพร้อมทำการตรวจค้นพบของกลางยาบ้าจำนวนดังกล่าวอยู่ภายในรถยนต์ พร้อมกับควบคุมตัวร.ต.ต.จิตติพงษ์ และ ด.ต.อรรถพล คำแสน
“ขณะเดียวกัน ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอีกชุดหนึ่งที่เฝ้าสังเกตรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน บน 8666 แพร่ เข้าทำการจับกุม พ.ต.ท.ธรรมนูญ, ด.ต.สักกพงษ์ และ ด.ต.นลธวัช ที่บริเวณร้านอาหารแม่ลาปลาเผา ต.ปากกราน อ.พระนครศรีอยุธยา จว.พระนครศรีอยุธยา อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาทั้ง 5 รายให้ความร่วมมือจนสามารถขยายผลติดตามจับกุมนายวิชาญ กับนางสาวเบญจพร ได้ที่ปั้มน้ำมันคาลเท็กซ์ บริษัท ต.ปราสาทเพชร จำกัด ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จว.พระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ ยังจับกุม นายอุดมศักดิ์ แซ่เติ๋น ได้บริเวณลานจอดรถในที่ว่าการอำเภอแม่สาย จว.เชียงราย จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป” ร.ต.อ.ดร.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.ดร.เฉลิม กล่าวเพิ่มเติมว่า ต่อไปนี้จะให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นรถตราโล่ที่มีท่าทางพิรุธ ซึ่งมาจากทางภาคเหนือทุกคัน รวมทั้ง ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่แต่งเครื่องแบบมาก็ไม่เว้น
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวสั้นๆ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ร่วมกระทำความผิดจะให้ออกจากราชการไว้ก่อน รวมทั้งจะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนและถ้ารู้ว่าผิดจริงจะไล่ออกจากราชการทันที
พล.ต.ต.สุรพล ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจได้ลำเลียงยาเสพติดมาจากทางจว.เชียงราย ถึง จว.อยุธยา พร้อมนัดหมาย นายวิชาญกับนางสาวเบญจพร เพื่อมารับยาเสพติดไปเก็บไว้ที่จว.สมุทรสาคร ก่อนจะกระจายไปสู่รายย่อยต่อไป ส่วนนายอุดมศักดิ์จะเป็นผู้ประสานกับตำรวจเพื่อรับของที่จว.เชียงราย โดยผ่านทางอ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า เข้าที่อ.แม่สาย จว.เชียงราย
“ทั้งนี้ ร.ต.ต.จิตติพงษ์ ได้ย้ายมาจาก ตชด.เพียงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยได้รู้จักกับนายอุดมศักดิ์มาก่อน เบื้องต้นคาดว่ายาเสพติดเป็นของชาวว้า แต่ผู้มารับของเป็นนายวิชาญกับนางสาวเบญจพร ซึ่งรับของกันมา 3-4 ครั้งแล้ว โดยแต่ละครั้งจะไปเช่าบ้านที่ จว.สมุทรสาคร เพื่อพักยา และรอโทรศัพท์จากคนที่อยู่ประเทศเพื่อนบ้านว่าจะให้ขนยาไปส่งให้ใครบ้าง แต่ละครั้งที่ส่งยาจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนในการดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ยาเสพติดส่วนใหญ่จะถูกพักตามแนวชายแดน รอเพียงผู้ที่จะค้นเข้ามาเท่านั้น โดยระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาจับผู้ค้นได้ทั้งชาวม้ง ชาวลีซอ และชาวเผ่าต่างๆ จำนวนมาก จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเต็มที่ ซึ่งค่าจ้างค้นยาเสพติดในครั้งนี้ 2,000,000 บาท” พล.ต.ต.สุรพล กล่าวทิ้งท้าย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมนำตัวไปสอบสวนเพื่อขยายผลหาเครือข่ายยาเสพติดรายนี้ต่อไป