xs
xsm
sm
md
lg

เลื่อนอ่านอุทธรณ์คดีแชร์บลิชเชอร์ เหตุหมายศาลล่าช้า

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ศาลเลื่อนอ่านอุทธรณ์คดีแชร์บลิชเชอร์ เป็นครั้งที่ 3 เหตุจำเลยมาศาลไม่ครบ และการส่งหมายล่าช้า ถือว่าจำเลยยังไม่ได้รับหมายโดยชอบ นัดอีกครั้ง 23 ม.ค.ปีหน้า

วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ ด.4756/2537 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท บลิสเชอร์ อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด, น.ส.อังสุนีย์ พัฒนานิธิ อดีตกรรมการบริษัท, น.ส.ปัรจวรรณ เบญจมาศมงคล อดีตผู้ก่อตั้งบริษัทและผู้ถือหุ้น, นายแสงทอง แซ่กิม อดีตผู้ก่อตั้งบริษัทและพนักงานฝ่ายขายอิสระ และนายอรรณพ หรืออาร์ต กุลเสวตร์ อดีตผู้จัดการสาขาศูนย์สีลม เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 ประกอบ 83 และความผิดตาม พ.ร.ก.ว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 4, 5, 12 และ 15

จากกรณีเมื่อปี 2535-2536 บจก.บลิสเชอร์ ซึ่งประกอบธุรกิจจัดสรรวันพักผ่อน หรือไทม์แชริง โฆษณาชักชวนประชาชนให้สมัครสมาชิกใช้บริการที่พักฟรีตามสถานที่พักตากอากาศหรือโรงแรมที่บริษัทจำเลยจัดไว้ เป็นเวลา 4 วัน 4 คืนต่อปี นาน 20 ปี โดยบัตรเงินจ่ายค่าสมาชิกปีละ 30,000 บาท พร้อมค่าบำรุงปีละ 2,500 บาท และบัตรทองจ่ายค่าสมาชิก 60,000 บาท พร้อมค่าบำรุงปีละ 4,500 บาท ซึ่งเงื่อนไขการจ่ายค่าตอบแทนดังกล่าวเป็นการกำหนดอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกว่า พ.ร.บ.ดอกเบี้ยเงินกู้ของสถาบันการเงิน พ.ศ. 2533

โดยวันนี้มีเพียง น.ส.ปัรจวรรณ เบญจมาศมงคล จำเลยที่ 3 ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง มาศาลพร้อมทนายความ ขณะที่ น.ส.อังสุนีย์ พัฒนานิธิ และนายแสงทอง แซ่กิม จำเลยที่ 2 และ 4 ไม่มาศาล คงมีเพียงนายประกันและทนายความเท่านั้น ซึ่งได้แถลงต่อศาลว่าติดต่อจำเลยไม่ได้

ขณะที่ศาลตรวจสำนวนแล้วปรากฏว่า การส่งหมายนัดให้กับจำเลยที่ 2 เกิดความล่าช้าด้วย โดยส่งหมายไปเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ยังไม่ครบกำหนด 15 วัน ถือว่าจำเลยที่ 2 ยังไม่ได้รับหมายโดยชอบ จึงเห็นควรให้โอกาสเลื่อนฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 23 ม.ค. 2556 เวลา 09.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเลื่อนฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว เนื่องจากครั้งแรกจำเลยมาศาลไม่ครบ ครั้งที่ 2 โจทก์ยังไม่ได้รับหมายนัด ซึ่งคดีนี้โจทก์ยื่นอุทธรณ์ในส่วนของจำเลยที่ 3 ซึ่งศาลชั้นต้นยกฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 2 และ 4 ได้ยื่นอุทธรณ์ ที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2551 ให้จำคุกจำเลยที่ 2, 4-5 ซึ่งเป็นกรรมการที่มีอำนาจในบริษัท และเป็นผู้วางแผนการตลาดของบริษัท และเป็นผู้จัดการอบรม ฐานฉ้อโกงประชาชนซึ่งเป็นบทหนักสุด รายละ 24,189 กระทงๆ ละ 5 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 2, 4 และ 5 คนละ 120,945 ปี แต่เมื่อรวมลงโทษทุกกระทงตามกฎหมายแล้ว ให้จำคุกจำเลยทั้งสามไว้คนละ 20 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น